อ่างทอง 11 พ.ย. – พนักงานเสิร์ฟร้านคาราโอเกะ จ.อ่างทอง สุดทน! เข้าแจ้งความเอาผิดนายจ้าง เจ้าของร้านบังคับให้ค้าประเวณี แม้ตั้งท้อง ก็ยังถูกบังคับให้รับแขก ขณะที่เจ้าของร้านปฏิเสธอ้างผู้เสียหายสมยอม
หญิงอายุ 21 ปี และ 22 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง เพื่อให้ดำเนินคดีกับ เจ้าของร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งใน ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง พร้อมหลักฐานเป็นแชทการพูดคุย และสลิปการโอนเงิน
ผู้เสียหาย เล่าว่า ทั้งคู่เป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านคาราโอเกะดังกล่าวเพื่อหารายได้เลี้ยงดูครอบครัว แต่ในช่วง 3 เดือนกว่าที่ผ่านมา ถูกเจ้าของร้าน บังคับขู่เข็ญให้ค้าประเวณี ให้ออกไปกับแขกที่มาเที่ยวในร้าน โดยเก็บเงิน 3,000 บาท แต่กลับถูกหักไว้คนละ 1,500 บาท เมื่อทวงถามก็บอกว่าโอนให้แค่นี้ พอถามมากๆ เข้า ก็ถูกข่มขู่ต่างๆ นานา แม้ตอนที่มีประจำเดือนก็ยังถูกบังคับให้ออกไปกับแขกเหมือนเดิม ล่าสุดไปหาหมอ พบว่าตั้งท้องได้ 1 เดือน จึงพยายามพูดกับเจ้าของร้านเพื่อจะขอเลิกทำงานแบบนี้แต่ก็ไม่เป็นผล ยังถูกบังคับให้ทำงานแบบเดิม สุดท้ายทนไม่ไหวจึงจะขอลาออก แต่เจ้าของไม่ยอมให้ลาออก และไม่ยอมให้เอาเสื้อผ้าของใช้ออกจากร้านด้วย ตอนนี้ รู้สึกหวาดกลัวมาก จึงตัดสินใจมาแจ้งความ
ผู้สื่อข่าวไปดูที่ร้านคาราโอเกะดังกล่าว พบว่าเป็นอาคารพาณิชย์ดัดแปลงเป็นร้านคาราโอเกะ แต่ไม่สามารถมองเห็นด้านในได้เนื่องจากติดกระจกดำสนิทจนมองไม่เห็น ขณะที่ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และเตรียมขอศาลออกหมายจับเจ้าของร้านในข้อหาเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดให้เพื่อบุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท และเตรียมสอบสวนเพิ่มเติมว่าเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ เพื่อจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับต่อไป
ล่าสุด ตำรวจและฝ่ายปกครอง ได้พาตัว เจ้าของร้าน พร้อมแฟนหนุ่มมาสอบสวน ที่ สภ.เมืองอ่างทอง เบื้องต้น เจ้าของร้านปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยบอกว่าเพิ่งเปิดร้านได้ไม่นาน และเด็กทั้งสองคนเพิ่งมาอยู่ที่ร้านได้เพียงเดือนกว่าๆ เท่านั้น ที่ผ่านมาตนเองไม่เคยบังคับขู่เข็ญแต่เป็นการสมยอมของเด็กทั้งสองเอง
ส่วนผู้เสียหายทั้ง 2 คน ตอนนี้ เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพได้มาสอบถามเพิ่มเติม โดยมีนางสาวเอกรัตน์ นาคาคง รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง มาร่วมในการสอบถามด้วย พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัด ในส่วนของร้านอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตหรือไม่ หากมีใบอนุญาตสถานประกอบการ ก็ต้องเพิกถอนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป .-สำนักข่าวไทย