ยกเลิกทำแผน “จ้อย” จอมเนรคุณฆ่าโหดพ่อเฒ่า

ชัยภูมิ 6 พ.ย.-คดีพ่อเฒ่าถูกฆ่าโหดเหี้ยมที่ชัยภูมิ ตำรวจใช้ความพยายามกว่า 20 วันจึงจับผู้ต้องหาได้ และวันนี้เตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่สุดท้ายต้องยกเลิก

พนักงานสอบสวน สภ.ซับใหญ่ จังหวัดชัยภูมิ นำตัวนายจักรกฤษณ์ อายุ 33 ปี หรือ “นายจ้อย” ออกจากห้องขัง เพื่อพาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณกระท่อมนาใกล้กับไร่มันสำปะหลัง ท้ายหมู่บ้านเขื่อนลั่น ตำบลตะโกทอง อำเภอซับใหญ่ หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆ่านายบุญเฮียง ขันธวุฒิ อายุ 74 ปีเสียชีวิต เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม จนกระทั่งถูกจับกุมตัวได้เมื่อวาน (5 พ.ย.) ริมถนนพระราม 2 พื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร ขณะกำลังขายข้าวเหนียวไก่ย่าง


อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาปฏิเสธที่จะทำแผน อ้างว่าสำนึกผิดและต้องการขอขมาภรรยาของผู้เสียชีวิต คือ นางพา ขันธวุฒิ อายุ 72 ปี ตำรวจจึงเชิญตัวมาที่โรงพักเพื่อให้ผู้ต้องหาขอขมา รวมถึงเข้าสู่กระบวนการชี้ตัวผู้ต้องหาตามกฎหมาย ซึ่งผู้ต้องหาได้ขอขมาภรรยาผู้ตายบริเวณหน้า สภ.ซับใหญ่ โดยมีญาติของผู้สูญเสียมาสังเกตการณ์ประมาณ 10 คน แต่ไม่มีเหตุวุ่นวายใดๆ

หลังจากที่การขอขมาเสร็จสิ้น ตำรวจเตรียมนำตัวผู้ต้องหาไปยังจุดเกิดเหตุ แต่ได้รับรายงานว่ามีกลุ่มชาวบ้านไปรวมตัวกันเพื่อสังเกตการณ์ ทำให้เกรงว่าจะเกิดการรุมประชาทัณฑ์ จึงตัดสินใจยกเลิกและพาตัวกลับเข้าห้องขัง ส่วนวันพรุ่งนี้ (7 พ.ย.) จะพาตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลจังหวัดชัยภูมิฝากขังเป็นครั้งแรก


สำหรับคดีนี้ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม หลังตำรวจได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตในสภาพนอนคว่ำหน้าในสภาพเปลือย ถูกจับใส่กุญแจมือไขว้หลัง บริเวณใบหน้ากับลำตัวมีบาดแผลฉกรรจ์จากการทุบตี ส่วนลำตัวมีร่องรอยถูกทำร้ายจนขาดใจตาย และบริเวณพื้นดินพบกองเลือดขนาดใหญ่ ทราบชื่อผู้ตาย คือ นายบุญเฮียง ขันธวุฒิ อายุ 74 ปี เกษตรกรไร่มันสำปะหลัง

การสืบสวนในเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายจักรกฤษณ์ และเป็นคนงานในไร่ของผู้ตาย ส่วนสาเหตุของการฆาตกรรมในครั้งนี้มาจากการชิงทรัพย์ เพราะเงิน 40,000 บาทในกระเป๋าผู้ตายหายไป ซึ่งเงินจำนวนนี้ได้มาจากการขายมันสำปะหลัง เตรียมนำไปใช้ประกันตัวหลานในคดียาเสพติด โดยเบาะแสสำคัญที่ชุดสืบสวนได้มา คือ ภาพกล้องวงจรปิดผู้ก่อเหตุขณะขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มุ่งหน้าไปตามถนนสายอำเภอซับใหญ่-บำเหน็จณรงค์

เวลาผ่านไปเกือบ 20 วัน ชุดสืบสวนได้เบาะแสว่าผู้ก่อเหตุไปกบดานที่สมุทรสาคร จึงออกติดตามและจับกุมได้เมื่อวาน (5 พ.ย.) ที่ร้านข้าวเหนียวไก่ย่าง โดยผู้ต้องหาสารภาพว่าได้ทะเลาะกับผู้ตายเกี่ยวกับเรื่องทำไร่ และก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้า 2 เม็ด รวมถึงดื่มสุราจนเมาได้ที่ จากนั้นเดินไปตามหาผู้ตายที่นั่งอยู่กระท่อม ก่อนจับผู้ตายใส่กุญแจมือที่เตรียมมา ใช้ด้ามเสียมตีศีรษะจนฟุบ พร้อมกับชิงเงิน 28,000 บาทในกระเป๋าผู้ตายหนีเข้าตัวเมืองชัยภูมิ


สำหรับเงินที่ได้ถูกนำไปซื้อยาบ้ามาเสพและเที่ยวเตร่ตามร้านอาหารในเมือง ก่อนที่จะเดินทางไปพบแม่ในอำเภอคอนสวรรค์ และหนีไปกบดานที่สมุทรสาคร ทีแรกจะไปรับจ้างเป็นลูกเรือประมง แต่เนื่องจากคลื่นลมแรงจึงไม่ได้ออกเรือ ทำให้ต้องตัดสินใจนำเงินมาตั้งแผงขายข้าวเหนียวไก่ย่าง กระทั่งถูกจับกุมและดำเนินคดีฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน”

จากการตรวจสอบประวัติ พบว่ามีภูมิลำเนาอยู่ที่ตำบลคลองตำรุ อำเภอเมืองชลบุรี เคยเป็นทหารเกณฑ์อยู่ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง และมีอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่มีนิสัยลักเล็กขโมยน้อย ก่อนหน้านั้นมีชาวบ้านเห็นผู้ต้องหาที่ศาลาริมทาง และผู้ต้องหาได้มาพูดคุยของานทำ จึงถูกพาไปฝากงานที่ฟาร์มเลี้ยงวัว แต่ทำได้เพียง 1 สัปดาห์ปรากฏว่างานหมด จึงเดินทางเข้าหมู่บ้านมารับจ้าง และได้พบกับพ่อเฒ่าบุญเฮียง ซึ่งได้ว่าจ้างให้ไปทำงานในไร่ แต่ทำได้เพียง 10 วันก็ก่อเหตุ จนทำให้ชาวบ้านโกรธแค้นอย่างหนัก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว

ช้างพลายขุนเดช

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” ไปสถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” สู่สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง จบดราม่า หลังฝากเลี้ยงที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่