ตรัง 31 ต.ค. – คนร้ายซิ่งกระบะประกบรถเก๋งใช้อาวุธสงคราม ยิงถล่ม 2 หนุ่ม หนีรอดหวุดหวิด ตำรวจตั้งปมขัดแย้งส่วนตัว และธุรกิจผิดกฎหมาย
กลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังวิเศษ รับแจ้งเหตุคนถูกยิงด้วยอาวุธปืน ในพื้นที่ ม.6 ต.วังมะปรางเหนือ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งสีขาว ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเป็นรูพรุนทั้งคัน รวมทั้งบริเวณล้อหน้าซ้าย และล้อหลังขวาถูกกระสุนปืนจนยางแตกทั้ง 2 ล้อ กันชนด้านหน้าขวายุบ เบื้องต้น คาดว่าน่าจะถูกยิงด้วยอาวุธปืนหลายกระบอก มีทั้งอาวุธสงคราม และขนาดอาวุธปืนพกสั้น โดยคนร้ายน่าจะซิ่งกระบะติดตามเป้าหมาย เพื่อหาจังหวะประกบยิง พร้อมกับระดมยิงล้อ หวังจะหยุดรถเป้าหมาย และอาจมีการปาดหน้าและถอยชน
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บพบเป็นชาย 2 คน คือ นายธัญพิสิษฐ อายุ 38 ปี คนขับโดนกระสุนแฉลบที่บริเวณศีรษะด้านขวา และนายทวนทอง อายุ 51 ปี นั่งข้าง โดนยิงเข้าบริเวณแขน โดยทั้ง 2 คน เป็นชาว อ.สิเกา จ.ตรัง ช่วงเกิดเหตุกำลังจะกลับบ้าน หลังเกิดเหตุมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คนส่งโรงพยาบาลวังวิเศษไปก่อนหน้านี้แล้ว
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบร่องรอยคนร้ายเริ่มประกบยิงรถเป้าหมายเป็นระยะทางยาวประมาณ 500 เมตร จากรอยต่อ อ.ห้วยยอด จนเข้ามาในพื้นที่ สภ.วังวิเศษ ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนเล็กกลออโตเมติก ขนาดประมาณ 5.56 มม. จำนวน 2 ปลอก ซึ่งใช้กับอาวุธปืนสงครามเอชเค และหัวกระสุนปืนพกสั้นไม่ทราบชนิด 1 หัว และยังพบหัวกระสุนปืนฝังอยู่ในโครงหลังคารถของชาวบ้าน อีกจำนวน 1 หัวนอกจากนั้นยังพบว่า กระสุนปืนพุ่งไปโดนบ้านชาวบ้าน และรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ที่จอดอยู่ได้รับความเสียหายเช่นกัน ส่วนภายในรถผู้บาดเจ็บ พบขวดน้ำอัดลมดัดแปลงเป็นอุปกรณ์เสพยาเสพติด
เบื้องต้น ตำรวจตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ ขัดแย้งส่วนตัว และปัญหาขัดแย้งธุรกิจผิดกฎหมาย หรือยาเสพติด ส่วนสาเหตุยังต้องรอการรอสอบปากคำคนเจ็บทั้ง 2 คนและญาติใกล้ชิด
พลเมืองดีที่เข้าช่วยเหลือและนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล เล่าว่า ได้ยินเสียงปืนดังหลายนัด เมื่อสิ้นเสียงจึงรีบออกมาดูพบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่ ไม่เห็นหน้าคนร้าย แต่มีชาวบ้านที่เห็นบอกว่ารถคันก่อเหตุเป็นกระบะไล่ประกบยิงจนมาหยุดที่จุดดังกล่าว ส่วนคนในรถวิ่งหนีออกไปหลบซ่อนตัวข้างบ้านชาวบ้าน โดยชาวบ้านที่วิ่งออกมาดูพยายามตะโกนบอกชาวบ้านคนอื่นๆ ให้หลบ อย่าออกมา จนสถานการณ์สงบ จึงรีบให้ความช่วยเหลือคนเจ็บ .-สำนักข่าวไทย