จับปลัดอำเภอสัตหีบ เรียกเงินพูลวิลล่าแลกใบอนุญาต

พัทยา 29 ต.ค. – ตำรวจ ปปป. บุกจับปลัดอำเภอสัตหีบ รีดเงินผู้ประกอบการบ้านพักพูลวิลล่าแลกใบอนุญาต โดยให้นำเงินหย่อนตู้บริจาคเลี่ยงโดนตรวจสอบ เร่งขยายผลผู้ร่วมขบวนการ


กรณี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) นำกำลังเข้าจับกุมนายกัณฑ์พงษ์ อายุ 40 ปี ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ พร้อม น.ส.สุภาพร อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอสัตหีบ ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเพื่อตนเอง, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ” ภายในห้องทำงาน ที่ทำการอำเภอสัตหีบ

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก บก.ปปป. ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการบ้านพักพูลวิลล่าใน อ.สัตหีบ ว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอมีพฤติการณ์เรียกรับเงินค่าออกหนังสือรับรองสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม โดยให้นําเงินใส่ซองหย่อนตู้รับบริจาคที่ติดข้อความกิ่งกาชาดอำเภอสัตหีบ อ้างว่าเป็นค่าดําเนินการ โดยคิดราคาบ้านพักหลังละ 15,000 บาท หากไม่ยอมจ่ายจะไม่ได้ใบรับรอง หรือยื้อเวลานาน จนกว่าจะนําเงินมาจ่าย ทั้งๆ ที่โดยปกติการขอใบรับรองบ้านพักพูลวิลล่าไม่มีค่าใช้จ่าย


ชุดจับกุมจึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทราบว่ามีการทำกันเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน อาทิ หน้าม้าทำหน้าที่พาผู้ประกอบการมาทำเรื่องขอใบรับรอง คนรับเรื่องดำเนินการ และคนนำเงินออกจากตู้บริจาค จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีการแจ้งวัตถุประสงค์ของเงินบริจาค คล้ายกับการจัดทำขึ้นมาเพื่อบังหน้า เลี่ยงการตรวจสอบที่ไปที่มาของเงิน

จากแนวทางสืบสวนเชื่อว่ากระทำลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง โดยตู้บริจาคเงินภายในห้องทำงานของนายกัณฑ์พงษ์ และ น.ส.สุภาพร มีเงินสดรวม 28,000 บาท คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง และสมุดบัญชีรายชื่อผู้ยื่นขอใบอนุญาตตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน จากการสอบสวนทั้งสองให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีพยานหลักฐานการกระทำความผิดชัดเจน

เตรียมขยายผลผู้ร่วมขบวนการเรียกเงินพูลวิลล่า
ด้านนายภูมิวิศาล เกษมศุข รองเลขาธิการ รักษาราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นการขับเคลื่อนแผนตามนโยบายรัฐบาลที่ต่อต้านการทุจริต หลังได้รับข้อมูลผ่านท่างสายด่วนว่ามีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเรียกรับสินบน จึงประสานข้อมูลไปยังตำรวจ บก.ปปป. จนมีการรวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด ยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของตัวบุคคล ไม่เกี่ยวกับองค์กร ที่ผ่านมาพยายามปราบปรามการทุจริตอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีคนกลุ่มน้อยกระทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ


ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. กล่าวว่า กลุ่มผู้ทุจริตเริ่มมีวิวัฒนาการที่แยบยลมากขึ้น เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ เช่น การใช้วิธีหย่อนเงินลงตู้รับบริจาค อ้างเพื่อการกุศล ช่วยเหลือผู้ยากไร้ แต่จากแนวทางสืบสวนเชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องทุจริตส่วนตัว เบื้องต้นมีการแจ้งข้อหาตามความผิดมาตรา 157 และ 149 หลังจากนี้จะยังคงขยายผลเอาผิดผู้ร่วมขบวนการที่เหลือต่อเนื่อง จากหลักฐานที่มีอยู่แน่ชัดแล้วในขณะนี้พบมีผู้ร่วมขบวนการหรือมีส่วนเกี่ยวข้องอีกประมาณ 1-2 ราย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า