บุรีรัมย์ 29 ต.ค. – “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” แถลงปิดคดีหนุ่มบุรีรัมย์กลับจากต่างประเทศถูกเผาปริศนาภายในโรงเรียนที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ พบเป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องจากผู้ตายป่วยซึมเศร้ามานานและมีอาการทางจิต
ความคืบหน้ากรณีพบศพนายธนทัต อายุ 23 ปี ถูกเผาเสียชีวิตปริศนาภายในโรงเรียนที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังกลับจากต่างประเทศพร้อมครอบครัวได้เพียงวันเดียว เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปว่าการเสียชีวิตของนายธนทัตเกิดจากการถูกฆาตกรรมหรือการฆ่าตัวตาย แต่ญาติเชื่อว่าถูกฆาตกรรม เจ้าหน้าที่จึงส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียด
ล่าสุดเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะแพทย์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.บุรีรัมย์ ร่วมกันแถลงสรุปคดีดังกล่าวที่ สภ.ประโคนชัย โดยมีนางพรพรรณ แม่ของผู้เสียชีวิต น.ส.ยุพาภรณ์ ภรรยาผู้ตาย และญาติ ร่วมรับฟังการแถลง
จากการชันสูตรพลิกศพของผู้ตายพบว่ามีร่องรอยถูกไฟไหม้ตลอดช่วงลำตัวและด้านล่างของศพ ไม่พบร่องรอยบาดแผลอื่นใดจากการถูกทำร้ายหรือถูกกระแทกจากของมีคมและไม่มีคม คาดว่าผู้ตายจะใช้น้ำมันราดตัวเองในท่านั่ง ก่อนจุดไฟเผาตัวเองจนเสียชีวิต
จากการสืบสวบเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าผู้เสียชีวิตป่วยซึมเศร้ามาเป็นเวลานาน รวมถึงมีอาการทางจิต เนื่องจากผลข้างเคียงจากการใช้ยาเสพติด ต้องมีการไปปรึกษาแพทย์และกินยารักษาอาการ นอกจากนี้ยังมีปัญหากับภรรยาซึ่งเกิดอาการหึงหวงระหว่างคู่รัก และมีความขัดแย้งในครอบครัวเป็นประจำ โดยขณะแถลงเปิดโอกาสให้แม่และญาติผู้เสียชีวิตซักถามถึงประเด็นข้อสงสัยต่างๆ ซึ่งแม่ผู้ตายมีข้อสงสัยหลายอย่าง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่และแพทย์อธิบายอย่างละเอียด ทำให้คลายความสงสัย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นการเสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติ สภาพศพถูกเผา จากพฤติการณ์ดังกล่าวมีความจำเป็นต้องสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต เพื่อทำข้อเท็จจริงให้กระจ่าง จากการชันสูตรพลิกศพระบุว่าไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย สภาพสถานที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือทำร้าย ประกอบกับผลการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่าผู้เสียชีวิตมีอาการซึมเศร้า และมีปัญหาทะเลาะกับภรรยา แต่ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับบุคคลอื่นแต่อย่างใด เนื่องจากเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ จึงสามารถสรุปสาเหตุได้ว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เพราะไม่มีพยานหลักฐานอื่นที่บ่งชี้ว่าเกิดจากการฆาตกรรม อย่างไรก็ตาม หากแม่ผู้เสียชีวิตยังสงสัยหรือคาใจอะไรสามารถมาพบตำรวจในท้องที่ หรือแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมกับทางเจ้าหน้าที่ได้
ด้านแม่ผู้เสียชีวิต บอกว่ายอมรับในผลการแถลงสรุปคดีของเจ้าหน้าที่ แม้ส่วนตัวจะยังติดใจในหลายประเด็น แต่จะมีการเดินหน้าให้พิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตต่ออีกหรือไม่ หรือจะเผาศพลูกวันไหนนั้น ต้องปรึกษากับครอบครัวอีกครั้งก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร.-สำนักข่าวไทย