ขยายผลยึดปืนที่ใช้ก่อเหตุปล้นยาเสพติดได้แล้ว 3 กระบอก

สงขลา 22 ต.ค. – ตำรวจขยายผลตามยึดปืนที่กลุ่มคนร้ายใช้ก่อเหตุปล้นยาเสพติดและอาวุธปืน คืนได้แล้ว 3 กระบอก เตรียมขอหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุเพิ่มอีก 4 คน วันนี้ (22 ต.ค.)


ตำรวจขยายผลตามยึดปืนที่กลุ่มคนร้ายใช้ก่อเหตุบุกปล้นของกลางยาเสพติด อาวุธปืน ขณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษสงขลาไปล่อซื้อยาเสพติด คืนได้แล้ว 3 กระบอก รวมทั้งยาบ้า ขณะที่วันนี้เตรียมออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่มอีก 4 คน

ความคืบหน้าแก๊งค้ายาเสพติดบุกชิงตัวผู้ต้องหาค้ายาเสพติด รวมถึงปล้นของกลางยาบ้าและอาวุธปืน ขณะชุดปฏิบัติการพิเศษสงขลา นำโดยปลัดอำเภอ และ อส. รวม 6 นาย ล่อซื้อยาเสพติด เหตุเกิดบริเวณทางเข้าบ้านนิคมร่วมพัฒนา หมู่ 11 ต.แพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา พื้นที่ สภ.รัตภูมิ เมื่อช่วงค่ำคืนวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา


คดีนี้จากการสืบสวนพบว่ามีผู้ก่อเหตุทั้งหมด 9 คน เป็นทีมปล้น 8 คน และร่วมวางแผนให้ที่พักอีก 1 คน โดยวานนี้ (21 ต.ค.) สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 5 คน พร้อมรถยนต์ของคนร้าย และรถเก๋งสีดำของปลัดที่ถูกขับไปทิ้งไว้ในอ่างเก็บน้ำบ้านควนนา หมู่ 7 ต.กำแพงเพชร ในพื้นที่ อ.รัตภูมิ

ขยายผลยึดปืนที่ใช้ก่อเหตุได้ 3 กระบอก
ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 9 ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ตำรวจกองปราบปราม ควบคุมตัวนายกัมปนาท หรือบังดล และนายเสริมศักดิ์ ไปค้นหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ พบว่าถูกนำไปซุกซ่อนไว้ในพงหญ้าริมถนนสายห้วยโอน-คลองต่อ หมู่ 10 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ โดยพบอาวุธปืน 3 กระบอก เป็นปืนสั้น 9 มม. 2 กระบอก และปืน M4 อีก 1 กระบอก ถูกห่อด้วยเสื้อกันฝน ส่วนยาบ้าที่คนร้ายชิงไป 20,000 เม็ด มีรายงานเจ้าหน้าที่ตามคืนมาได้แล้ว พบว่าถูกนำไปซุกไว้ในพงหญ้าบริเวณเดียวกัน

สำหรับพฤติกรรมการก่อเหตุ สอบสวนผู้ต้องหา โดยเฉพาะนายเสริมศักดิ์ ซึ่งเป็นตัวหลักและคนวางแผนทั้งหมด เป็นผลมาจากแก๊งค้ายาเสพติดแก๊งนี้เข้าใจผิดว่าชุดทำงานของปลัดและ อส. เป็นแก๊งที่จับกุมนายธนกร เครือข่ายค้ายาเสพติดในกลุ่มเดียวกันไป จึงร่วมกันวางแผนบุกชิงตัวผู้ต้องหา แต่มารู้ว่าเป็นปลัดและ อส. ตอนที่บุกชิงตัว


ตร.ขอหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุเพิ่มอีก 4 คน
มีรายงานว่าวันนี้ (22 ต.ค.) เจ้าหน้าที่จะรวบรวมหลักฐานเสนอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาที่เหลืออีก 4 คน เป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดที่อยู่ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หนึ่งในนั้นชื่อนายบ่าว ซึ่งผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ซัดทอดว่าเป็นคนนำปืนของปลัดและ อส. ทั้ง 5 กระบอกไปฝังดิน โดยจะร่วมกับหน่วยงาน ทั้งกองปราบฯ และตำรวจในพื้นที่ เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี

ขณะนี้จับกุมผู้ต้องหาได้ 5 คนแล้ว คือ 1. นายอัฟฟาน หรือบี 2.นายธีระวุฒิ หรือเลี่ยม 3.นายกัมปนาท หรือบังดล 4.นายเสริมศักดิ์ ส่วนอีก 1 คน ไม่ทราบชื่อ ซึ่งตำรวจ สภ.รัตภูมิ จะนำตัวทั้ง 5 คน ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสงขลา ผัดแรก ในช่วงเที่ยงวันนี้ (22 ต.ค.)

ส่วนรถที่ใช้ก่อเหตุทั้งหมดมี 3 คัน คือ รถเก๋งสีขาว รถกะบะสีดำแคป และรถเก๋งยาริสสีขาว รวมถึงรถของจ่าเอกไพรัช ที่คนร้ายนำไปทิ้งในบ่อน้ำ ซึ่งทั้ง 4 คัน เจ้าหน้าที่ยึดได้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (21 ต.ค.) รวมถึงยาบ้า และอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ อีก 3 กระบอก ส่วนอาวุธปืน 5 กระบอกของเจ้าหน้าที่ อส. ที่คนร้ายขโมยไปนั้น ล่าสุดยังไม่เจอ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส