ล่าแก๊งค้ายาอุกอาจชิงปืน-ยาบ้าจาก จนท.ล่อซื้อ

สงขลา 20 ต.ค. – แก๊งค้ายาเสพติดยกพวก 20 คน พร้อมอาวุธครบมือ หวังบุกชิงตัวผู้ต้องหา ขณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง จ.สงขลา ทำการล่อซื้อยาเสพติด ทำให้คนร้ายได้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ไป 5 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง รถเก๋ง 1 คัน และยาบ้าของกลาง 10 มัด เจ้าหน้าที่เร่งหาเบาะแสไล่ล่ากลุ่มคนร้าย


เหตุอุกฉกรรจ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.45 น. ของคืนวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา บริเวณทางเข้านิคมร่วมพัฒนา หรือศาลาเขียว พื้นที่หมู่ 11 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยเหตุการณ์นี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 17 ต.ค. เวลา 21.30 น. จ่าเอกไพรัช แก้วมณี เจ้าพนักงานปกครอง รองหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสงขลา พร้อม อส. 5 นาย ได้ทำการล่อซื้อยาบ้า จากนายธนกร อายุ 35 ปี ชาว จ.เชียงราย ได้ของกลางยาบ้า จำนวน 10 มัด ที่บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านควนสะตอ หมู่ที่ 3 ต.ท่าชะมวง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ให้นายธนกร ทำการล่อซื้อยาเสพติด ซึ่งเป็นยาไอซ์ จำนวน 8 กิโลกรัม จากนายดำ ไม่ทราบชื่อจริง อยู่ที่ จ.สตูล โดยนัดส่งมอบของกันในเวลา 19.45 น. ที่บริเวณแยกศาลาเขียว หมู่ที่ 11 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ

เจ้าหน้าที่ใช้รถยนต์ 2 คัน คือ มิตซูบิชิ รุ่นมิราจ สีดำ ทะเบียน กจ 5064 กรุงเทพมหานคร โดยมีจ่าเอกไพรัช กับ อส. 4 นาย พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 10 มัด ซึ่งล่อซื้อมาจากนายธนกร และคันที่ 2 เป็นรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ทะเบียน บษ 8065 เชียงราย ซึ่งเป็นของนายธนกร (ผู้ต้องหา) โดยในรถคันนี้มี อส. 1 คน และนายธนกร ผู้ต้องหา นั่งอยู่


เมื่อไปถึงจุดนัดพบ เพื่อทำการล่อซื้อ มีรถยนต์ 4 คัน ประกอบด้วย รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ มีรั้วกั้นด้านหลัง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน, รถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน, รถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และรถกระบะ ไม่ทราบยี่ห้อและสี ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เข้ามาจอดปิดล้อมรถของจ่าเอกไพรัช และเจ้าหน้าที่ อส.ที่นั่งมาด้วย โดยมีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 20 คน พร้อมอาวุธปืนพกสั้น และมีอาวุธปืนยาว M4 จำนวน 1 กระบอก บังคับให้ทุกคนลงจากรถและถอดเสื้อ และให้ปลดอาวุธปืนพกประจำกาย ซึ่งประกอบด้วย ปืนพกสั้น 9 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน ของจ่าเอกไพรัช, ปืนพกสั้น 9 มม. 1 กระบอก และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ของ อส.เลิศฤทธิ์, ปืนพกสั้น 9 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน ของ อส.พิษณุ, ปืนพกสั้น 9 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ของ อส.อดิศักดิ์ และอาวุธปืนพกสั้น 9 มม. 1 กระบอก ของ อส.เฉลิมศักดิ์

ต่อมาคนร้ายได้ให้จ่าเอกไพรัช และเจ้าหน้าที่ อส. รวม 5 คน ขึ้นรถกระบะคันที่มีรั้ว แล้วขับออกมาประมาณ 50 เมตร ก่อนที่คนร้ายจะให้จ่าเอกไพรัช กับพวก ลงจากรถ จากนั้นคนร้ายก็ขับรถหลบหนีไป พร้อมกับขับรถเก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นมิราจ สีดำ ทะเบียน กจ 5064 กรุงเทพมหานคร ของจ่าเอกไพรัช พร้อมยาบ้าของกลาง จำนวน 10 มัด รวมทั้งอาวุธปืนพกสั้นของเจ้าหน้าที่ จำนวน 5 กระบอก และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง หลบหนีไป

ส่วน อส.สุทธิพงษ์ ที่ขับรถกระบะอยู่ด้านหลัง มากับนายธนกร ผู้ต้องหา เมื่อเห็นเหตุการณ์จึงขับรถกลับมาแจ้งเหตุที่ สภ.รัตภูมิ ตำรวจ สภ.รัตภูมิ จึงนำกำลังไปช่วยจ่าเอกไพรัช กับพวก ออกจากที่เกิดเหตุ พามาที่ สภ.รัตภูมิ และแจ้งความร้องทุกข์


ล่าสุดเมื่อวานนี้ (19 ต.ค.) ตำรวจชุดสืบสวนภาค 9 ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา นำโดย พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ รองผู้บังคับการสืบสวนภาค 9 และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ได้ลงพื้นที่ประชุมสรุปเหตุการณ์และวางแนวทางการสืบสวนล่าตัวคนร้าย โดยได้ควบคุมตัวนายธนกร มาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายทั้ง 20 คน เพราะเชื่อว่าน่าจะรู้จักกับกลุ่มคนร้าย นอกจากนี้ ยังได้เชิญตัวจ่าเอกไพรัช พร้อม อส. 5 นาย มาสอบสวนในรายละเอียดเพิ่มเติมด้วย

และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี ทำให้ทราบว่า กลุ่มคนร้ายขับรถหลบหนีเข้าไปในชุมชนทางเข้าบ้านนิคมร่วมพัฒนา

หลังรับฟังรายงานสรุปคดีนี้ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดเผยว่า จากการสอบถามปลัดและ อส. การก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายต้องการชิงตัวผู้ต้องหาในคดียาเสพติดที่เจ้าหน้าที่จับกุมตัวไว้ และพาไปขยายผล แต่ปรากฏว่า ผู้ต้องหาอยู่ในรถอีกคัน ทำให้คนร้ายได้เพียงยาบ้า 10 มัด จำนวน 20,000 เม็ด พร้อมอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงอยู่ระหว่างการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อหาเบาะแสของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย