ภูมิภาค 19 ต.ค. – ผู้ว่าฯ พังงา สั่งทุบเกาะกลางถนน ขวางการระบายน้ำท่วม ถ.เพชรเกษม สายตะกั่วป่า-เขาหลัก ส่วนสตูลสาหัสน้ำท่วมแล้ว 5 อำเภอ
ที่ จ.พังงา หลังจากฝนตกหนักในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วม ถ.เพชรเกษม สายตะกั่วป่า-เขาหลัก จากบริเวณหน้าตลาดสด บขส.บางเนียง จนถึงหน้าศูนย์การแพทย์เขาหลักหมู่ 3 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา รถจักรยานยนต์และรถเล็ก สัญจรไปมาไม่ได้ เจ้าหน้าที่ต้องจัดการจราจรให้ใช้ช่องทางอีกฝั่งที่น้ำไม่ท่วม ขณะที่ร้านค้าริมถนนเร่งขนของขึ้นที่สูง ส่วนเจ้าหน้าที่เร่งเข้าติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบายน้ำออก ขณะที่ในพื้นที่ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าฯ พังงา ลงพื้นที่ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้ความช่วยเหลือ โดยพบว่าปัญหาเกิดจากน้ำที่ไหลหลากมาจากพื้นที่สูงระบายไม่ทัน จากระบบระบายของถนนไม่ดี ทำให้เกาะกลางถนนกลายเป็นตัวกั้นน้ำ ส่งผลระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ใช้เครื่องสูบน้ำช่วยระบายไม่ทัน จึงสั่งการทุบเกาะกลางถนนเป็นช่องช่วยระบายน้ำออกจากพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาเป็นการชั่วคราว ก่อนจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือแก้ปัญหาให้เป็นการถาวรต่อไป
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สตูล ฝนยังไม่หยุดตก ขยายวงกว้างเป็น 5 อำเภอ คือ อ.ทุ่งหว้า อ.ควนกาหลง อ.มะนัง อ.ละงู และ อ.ท่าแพ โดยเฉพาะที่ อ.ละงู ยังสาหัส 3 ตำบล น้ำไหลทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ทางมูลนิธิ และ อบต. เร่งช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายข้าวของและรถจักรยานยนต์นำไปจอดในที่ปลอดภัย นายเจ๊ะ ชูทอง ชาวบ้าน ม.5 ต.เขาขาว เล่าว่า น้ำมาเร็วมากจนต้องเร่งขนย้ายสิ่งของในบ้านก่อน ส่วนรถจักรยานยนต์เอาออกไม่ทัน โชคดีที่ อบต. ติดต่อกู้ภัยให้นำเรือท้องแบนมาช่วย ส่วนตนต้องเดินลุยน้ำออกมาหาเสบียงเพราะระดับน้ำสูงถึงอก น้ำครั้งนี้ถือว่าสูงสุดในรอบ 10 ปี แต่ยังไม่ทำลายสถิติในปี 54 ที่ชาวบ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอกไปเลย น้ำท่วมขนาดนี้ต้องรออีก 3 วันถึงจะลด จำเป็นต้องเดินลุยน้ำออกมาซื้อของ
ส่วนที่ ต.ละงู ทหาร ร.5 พัน 2 นำกำลังพล ออกช่วยเหลือชาวบ้าน ขนย้ายข้าวของและรถยนต์ที่นำออกมาไม่ได้ และที่ ต.กำแพง ทาง อบต.กำแพง นำเจ้าหน้าที่ออกสำรวจให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยที่ไป รพ. และกลับเข้าบ้านไม่ได้เนื่องจากน้ำท่วม โดยนำเรือท้องแบนมาให้ไว้สัญจรเข้าออก สำหรับ ต.กำแพง รับน้ำมาจาก ต.เขาขาว ถือว่าน้ำไหลเร็วมากจนต้องนำกำลังเจ้าหน้าที่ไปคุ้ยเศษสวะที่ปิดกั้นท่อระบายน้ำเพื่อให้ระบายได้ดีขึ้น พร้อมเร่งสำรวจความเสียหาย ทั้งนี้ จ.สตูล ได้ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฯ ขึ้นแล้ว เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยพื้นที่ได้รับความเสียหาย พืชผลทางการเกษตร 5 อำเภอ ทั้งนาข้าว พืชผัก ยางพารา มะพร้าวและปาล์มน้ำมัน ประมาณ 2,190 ไร่ .-สำนักข่าวไทย