นครพนม 11 ต.ค. – นักท่องเที่ยวทั้งไทย และลาว แห่จับจองริมฝั่งโขงแน่นขนัด ชื่นชมความสวยงามตระการตา งานประกวดไหลเรือไฟออกพรรษา จ.นครพนม คาดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
เมื่อคืนที่ผ่านมามีการจัดประกวดไหลเรือไฟ จากตัวแทนชาวบ้าน ศิลปินเรือไฟ จากทั้ง 12 อำเภอ รวม 12 ลำ ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ต่อเติมสร้างเรือไฟมานานนับเดือน กว่าจะมาเป็นเรือไฟขนาดใหญ่ ส่งเข้าประกวด สืบสานประเพณี งานประกวดไหลเรือไฟออกพรรษา จังหวัดนครพนม โดยในปีนี้จัดประกวดเรือไฟ 2 ประเภท ทั้งความคิดสร้างสรรค์ และความสวยงาม มีขนาดความยาว ตั้งแต่ 50-90 เมตร ความสูงประมาณ 20-30 เมตร ประดับตกแต่งด้วยตะเกียงไฟ ประมาณ 20,000-30,000 ดวง บางลำทุ่มทุนสร้าง นับล้านบาท โดยชาวบ้านศิลปินเรือไฟ ต่างทุ่มเทแรงกายแรงใจ ไม่เน้นค่าจ้างรางวัล แต่ได้ความภาคภูมิใจ ที่ได้สืบสานประเพณี และสร้างความประทับใจให้กับประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ชื่นชมความสวยงามตระการตา
โดย 1 ใน 12 อำเภอ เรือไฟที่สร้างความยิ่งใหญ่ตระการตา และสร้างความสวยงาม ประทับใจประชาชน นักท่องเที่ยว เป็นอย่างมาก คือ เรือจากนายอำเภอโพนสวรรค์ ซึ่งนายนิพพิชฌน์ อติอนวรรตน์ นายอำเภอโพนสวรรค์ ได้ระดมตัวแทนศิลปินเรือไฟ แรงงานชาวบ้าน ร่วมต่อเติม สร้างสรรค์เรือไฟขนาดใหญ่ เพื่อสร้างสถิติ เรือไฟใหญ่ที่สุดในโลก ขนาดความยาวมากถึง 88 เมตร ความสูงประมาณ 30 เมตร ฐานกว้างประมาณ 15 เมตร ใช้ไม้ไผ่มากกว่า 5,000 ลำ ประดับตกแต่งด้วยตะเกียงไฟมากกว่า 25,000 ดวง เน้นสัญลักษณ์ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พระธาตุประจำอำเภอโพนสวรรค์ พระธาตุประจำวันเกิด รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของ จ.นครพนม
นางสาวกนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อำนวยสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาขานครพนม บอกว่างานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟปีนี้ ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี หลังจาก 2 ปีที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากโควิดระบาด ทำให้ซบเซา ปีนี้คาดว่า เงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ในช่วงงานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ บวกกับช่วงหยุดยาวต่อเนื่องยิ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ .-สำนักข่าวไทย