หลายจังหวัดจมบาดาล พิจิตรท่วมสูง 3 เมตร พื้นที่เศรษฐกิจอุบลฯ ไม่รอด น้ำมูลทะลัก

อุบลราชธานี 9 ต.ค. –แม่น้ำมูลเริ่มไหลท่วมพื้นที่เศรษฐกิจอุบลราชธานี ส่วนที่ จ.พิจิตร ยังอ่วม บางจุดท่วมสูงกว่า 3 เมตร เช่นเดียวกับที่ จ.เพชรบูรณ์ แม่น้ำป่าสักทะลักท่วมนาข้าวกว่า 100 ไร่ จมบาดาล ถนนถูกกัดเซาะขาดเป็นแนวยาว ขณะที่ จ.นนทบุรี ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติอุทกภัย 7 ตำบล ด้านเจ้าอาวาสวัดแหลมเขาจันทร์ จ.ฉะเชิงเทรา ไม่นิ่งดูดาย ลุยน้ำแจกถุงยังชีพ ชาวบ้านดีใจพระมาโปรด


แม่น้ำมูลเริ่มไหลท่วมถนนบูรพาใน ถนนพิชิตรังสรรค์ เทศบาลนครอุบลราชธานี น้ำท่วมสูงประมาณ 20 เซนติเมตร ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ชุมชนบ้านดู่ ชุมชนบูรพา ต้องอพยพทรัพย์สินหนีน้ำไปไว้ตามบ้านญาติ ถนนสายนี้ ถือเป็นย่านเศรษฐกิจชานเมือง มีตลาดสด ธนาคาร โรงแรมระดับ 4 ดาว โรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ แหล่งบันเทิงจำนวนมากตั้งอยู่ ชาวบ้านบอกว่า สาเหตุที่น้ำท่วมสูงกว่าหลายปี ส่วนหนึ่งมาจากการจัดการของภาครัฐที่ช้าเกินไป อาจเป็นเพราะช่วงรอยต่อเปลี่ยนแปลงผู้ว่าราชการจังหวัด ทำให้ไม่มีแผนเตรียมรับน้ำที่ดี เมื่อมีพายุเข้ามาเติม น้ำที่ท่วมอยู่แล้วสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนความช่วยเหลือปีนี้ก็เงียบมาก ไม่เหมือนปี 2562 ที่มีการระดมช่วยเหลือ อาจเพราะมีน้ำท่วมหลายจังหวัดพร้อมกัน

น้ำท่วมพิจิตรยังไม่คลี่คลาย บางจุดสูงกว่า 3 เมตร
สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.พิจิตร ยังคงไม่คลี่คลาย ปริมาณน้ำสะสมทั้งน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ และน้ำจากแม่น้ำน่าน มีความสูงเท่ากัน และมวลน้ำมีปริมาณมาก ทำให้การระบายน้ำไม่สามารถทำได้ เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างในอำเภอบางมูลนาก จ.พิจิตร น้ำล้อมหมู่บ้าน ท่วมถนนเส้นทางเข้าสูงกว่า 3 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถเดินทางเข้าไปในหมู่บ้านได้ ต้องใช้เรือสัญจรเพียงอย่างเดียว ออกไปซื้ออาหารยากลำบาก


แม่น้ำป่าสัก ท่วมนาข้าวกว่า 100 ไร่
ที่ จ.เพชรบูรณ์ ถนนคอนกรีตเสริมเหล็กริมแม่น้ำป่าสัก เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างหมู่ที่ 1 กับหมู่ที่ อ.เมืองเพชรบูรณ์ ถูกกระแสน้ำในแม่น้ำป่าสักกัดเซาะจนขาดเป็นแนวยาวกว่า 10 เมตร ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร นาข้าวที่กำลังตั้งท้องใกล้จมอยู่ใต้น้ำกว่า 100 ไร่

ชาวบ้านเปิดเผยว่า ไม่เคยเห็นน้ำในแม่น้ำป่าสักมากขนาดนี้มาก่อน ล้นถนนคอนกรีต กัดเซาะใต้พื้นถนน จนถนนทรุดตัว เจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยกันป้องกันและแก้ไขมา 6 วันแล้ว แต่ด้วยกระแสน้ำที่มากและรุนแรง ทำให้ไม่สามารถป้องกันได้ กระทั่งประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา ถนนถูกน้ำกัดเซาะกว้างขึ้นเรื่อยๆ กว่า 10 เมตรแล้ว

เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม 3,048 ลบ.ม./วินาที
เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ระบายน้ำเพิ่มเป็น 3,048 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตั้งแต่เมื่อช่วง 1 ทุ่ม เมื่อวานนี้ ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.สรรพยา ขยายวงกว้างและท่วมสูงมากขึ้น มีน้ำล้นตลิ่งท่วมหมู่บ้านเพิ่มขึ้นหลายจุด เช่น ที่หมู่ 2 ต.ตลุก อ.สรรพยา น้ำล้นตลิ่งไหลข้ามถนน หลากเข้าท่วมหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านต้องรีบเก็บของขึ้นที่สูง ขนย้ายสิ่งของบางส่วน และนำสุนัขเดินลุยน้ำ หนีออกไปอยู่ริมถนนคลองมหาราช


นนทบุรี ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติอุทกภัย 7 ตำบล
นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าจังหวัดนนทบุรี ประกาศให้ 7 ตำบล อ.ปากเกร็ด เป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน( อุทกภัย ) รวมทั้งตำบลเกาะเกร็ด หมู่ที่ 1 ถึงหมู่ที่ 6 โดยให้ชาวบ้านคอยเฝ้าระวังเนื่องจากระดับน้ำจะมีปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ระดับน้ำในตำบลเกาะ หมู่ 5 และ 6 บริเวณพื้นถนน ระดับน้ำสูง 40-50 ซม. ส่วนพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในตำบลเกาะเกร็ด เดือดร้อน สัญจรลำบาก ต้องใช้เรือพาย ส่วนร้านค้าที่เคยเปิดขาย ตอนนี้ได้ปิดตัวลงเกือบทั้งหมด ต้องหนุนข้าวของขึ้นที่สูง บางรายต้องปล่อยข้าวของเครื่องใช้จมอยู่ใต้น้ำ เนื่องจากน้ำมีปริมาณสูง และไหลอย่างรวดเร็วทำให้ที่ย้ายของไม่ทัน

พระมาโปรด เจ้าอาวาสลุยน้ำแจกถุงยังชีพชาวบ้าน
ส่วนที่ จ.ฉะเชิงเทรา พระปลัดอาทร สายทอง เจ้าอาวาสวัดแหลมเขาจันทร์ หรือท่าไม้แดง ได้ร่วมกับคณะสงฆ์ ลูกศิษย์ อำเภอพนมสารคาม และอำเภอสนามชัยเขต ร่วมกันเป็นตัวแทนผู้มีจิตศรัทธาเมตตาร่วมถวายข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม จัดทำเป็นถุงยังชีพ โดยในวันนี้ได้ลงพื้นที่ตำบลเกาะขนุน และตำบลท่าถ่าน อำเภอพนมสารคาม ลุยส่งมอบถุงยังชีพให้ญาติโยมกว่า 500 หลังคาเรือน ตั้งแต่ช่วงเช้า

หลังจากพักฉันเพลเสร็จก็ลุยต่อทั้งแบบเดินท่องน้ำ ลงเรือ ทั้งแบก หาม กระทั่งช่วงเย็น พระอาจารย์ปลัดอาทร ตะโกนบอกคณะว่า พบรักแท้แล้ว ถูกปลิงกัด ดูดจนเลือดแดง แต่สักพักก็ลุยต่อไปยังพื้นที่ชุมชนตำบลท่าถ่าน ชุมชนท้ายบ้านเจ๊เล็กที่ระดับน้ำท่วมสูงมาก เพราะอยู่ติดริมคลองท่าลาด การนำมอบสร้างรอยยิ้มทั้งผู้ให้และผู้รับ ชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ส.อบต.ในแต่ละชุมชนต่างรู้สึกดีใจที่พระมาโปรด เพราะกว่า 1 สัปดาห์ แม้จะมีนายก อบต.เกาะขนุน หน่วยงานต่างๆ มาช่วย แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่มีพระมา

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนอากาศแปรปรวน
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 2 เมื่อช่วงตี 5 ที่ผ่านมา “อากาศแปรปรวนบริเวณประทศไทยตอนบนและฝนตกหนักบริเวณภาคใต้” ในช่วงวันที่ 9-14 ตุลาคม 2565 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฝนตกหนักบางแห่งเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 9-11 ตุลาคม 2565 หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาพอากาศแปรปรวนที่มีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และอุณหภูมิลดลง รวมถึงดูแลสุขภาพไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 9-11 ตุลาคม 2565


จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
วันที่ 9 ตุลาคม 2565
ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

วันที่ 10 ตุลาคม 2565
ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดนครราชสีมา และบุรีรัมย์
ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต

วันที่ 11 ตุลาคม 2565
ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังในช่วงวันที่ 9 -14 ตุลาคม 2565 . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย