ภูมิภาค 7 ต.ค. – ตำรวจภาค 5 ระดมกำลังพร้อมเครื่องจักร ทำความสะอาดทะเลโคลนที่สูงกว่า 30 ซม. หลังแม่น้ำปิงลดระดับลงต่ำกว่าตลิ่ง ส่วน จ.นนทบุรี น้ำซัดกำแพงบ้านถล่ม น้ำทะลักท่วมบ้านเสียหายนับแสนบาท หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง
หลังแม่น้ำปิงลดระดับลงต่ำกว่าตลิ่ง ได้ทิ้งร่องรอยความเสียหายเป็นทะเลโคลนสูงกว่า 30 เซนติเมตร กินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง รวมทั้งสถานีตำรวจภูธรภาค 5 ที่อยู่ติดริมตลิ่งแม่น้ำปิง จนต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จิตอาสา ช่วยกันลอกดินโคลน รอบสถานีตำรวจ รวมทั้งต้องใช้เครื่องจักรทุกประเภท ทั้งรถไถ รถตัก รถเกรด รถบรรทุก รถดูดโคลน รถน้ำดับเพลิงมากกว่า 10 คัน มาช่วยกันฉีดล้างทำความสะอาด คาดว่าน่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 วัน จึงจะแล้วเสร็จ
ขณะเดียวกันถนนป่าพร้าวนอก เต็มไปด้วยทะเลโคลน เจ้าหน้าที่ต้องนำรถมาปรับไถโคลนที่สูงกว่า 20 เซนติเมตร และล้างทำความสะอาดบนผิวการจราจร
ส่วนที่สระบุรี เจ้าหน้าที่ปิดการจราจรชั่วคราว บริเวณสะพานดำ เขตรอยต่อระหว่าง ต.ปากเพรียว-ต.ตะกรุด จุดที่ตั้งศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรี โดยให้ผู้ที่ใช้เส้นทางดังกล่าวเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น เนื่องจากกระแสน้ำในแม่น้ำป่าสักไหลเชี่ยวรุนแรง มาก น้ำเอ่อท่วมถนน ตัดขาดในหลายพื้นที่ของชุมชนเขตเทศบาลเมืองสระบุรี ทำให้ชุมชนประปา บริเวณสะพานดำ มีน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร รถใหญ่ รถเล็ก ไม่สามารถสัญจรไปมาได้
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ใช้รถแบ็กโฮจัดเก็บผักตบชวาที่มีจำนวนมาก เกรงว่าจะขวางทางน้ำไหล และผลักดันให้สะพานชำรุดเสียหายได้
นอกจากนี้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่แนวริมตลิ่งแม่น้ำป่าสัก ถูกน้ำท่วมบ้านนับ 100 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องเร่งขนของขึ้นที่สูง ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก บ้านหลายหลังถูกน้ำท่วมมิดหลังคา
ที่นนทบุรี สมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์คลิปขณะน้ำทะลักเข้าบ้าน หลังแรงดันน้ำซัดกำแพงบ้านพัง ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายอย่าง ลอยอยู่เหนือน้ำได้รับความเสียหาย ที่ ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปพบกับนายณัฐวุฒิ อายุ 39 ปี เจ้าของร้านอาหารบ้านนายยิ้ม พาเดินดูสภาพภายในบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ มีน้ำท่วมสูงกว่า 40-50 เซนติเมตร ตั้งแต่ทางเข้าบ้านจนถึงในบ้าน พบว่าของเครื่องใช้ภายในบ้านพังเสียหายหลายอย่าง รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท
นายณัฐวุฒิ เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ตอนประมาณ 6 โมงเย็น มวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาท่วมสูง ตนจึงก่อกำแพงอิฐบล็อก 4 ชั้น ไว้ตรงหน้าประตู และขนของขึ้นบนบ้าน แต่ยังไม่ทันขนย้ายหมด ปรากฏว่ามวลน้ำดันกำแพงที่ก่อพังลงมา น้ำท่วมทะลักเข้าบ้าน ตอนนั้นตนอยู่บนบ้าน ลงมาของก็ลอยหมดแล้ว ทั้งตู้เย็น สิ่งของต่างๆ แต่ตนไม่กล้าเข้ามา เนื่องจากกลัวกระแสไฟ เลยพายเรือดูข้างๆ ตนและแม่รู้สึกหดหู่ใจ พราะมูลค่าความเสียหายทั้งหมดเกือบแสนบาท หากน้ำลดต้องมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้าน และซื้อสิ่งของเครื่องใช้ใหม่อีก.-สำนักข่าวไทย