ภูมิภาค 6 ต.ค. – เกาะเกร็ดอ่วมน้ำท่วมสูงโป๊ะเรือจม ชาวบ้านเดือดร้อนขึ้นเรือลงเรือลำบาก นครราชสีมาน้ำล้นอ่างเก็บน้ำ 16 แห่ง ท่วม 595 หมู่บ้าน น้ำเหนือไหลลงเจ้าพระยาเพิ่มเป็น 3,000 ลบ.ม./วินาที
ผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ภาพเป๊ะเรือแห่งหนึ่งในชุมชนตำบลเกาะเกร็ด เอียงและจมน้ำทำให้ไม่สามารถใช้บริการได้ ระบุข้อความว่า “ใครใช้บริการท่าเรือเย็นฤดี หมู่6 ขณะนี้โป๊ะจมให้ใช้บริการโป๊ะใกล้เคียงแทน”
เช้าวันนี้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบว่าโป๊ะดังกล่าวเป็นโป๊ะปูนขนาดกลางจมหายไปอยู่ใต้น้ำ เห็นเพียงบันไดเหล็กที่ยังโผล่พ้นน้ำ เนื่องจากระดับน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยายังคงท่วมสูง
ชาวบ้าน บอกตอนนี้ลำบากมาก โปะเอียงอยู่ 2-3 วันแล้ว เมื่อวานโป๊ะจมหายไปเลย โป๊ะเรือที่จมตรงนี้คนใช้เยอะมาก คนไปทำงานหรือไปธุระก็จะลงเรือที่โป๊ะนี้ เพราะโป๊ะตรงอื่นมันเดินไกล
นายสุธี ทับทองคำ ผู้ใหญ่บ้าน อบต.เกาะเกร็ดหมู่ 6 กล่าวว่า หลังโป๊ะล่มได้เข้าตรวจสอบ และนำเครื่องสูบน้ำมาเร่งสูบน้ำที่ข้างโป๊ะ แต่มีอุปสรรคระดับน้ำเมื่อวานท่วมสูงมาก และฝนกระหน่ำลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่สามารถสูบน้ำได้เกรงเกิดอันตราย ฝากประสัมพันธ์ให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณหมู่ 6 และบริเวณใกล้เคียงงดใช้โป๊เย็นฤดีไปก่อน โดยให้ใช้โป๊ะท่าเรือมะขามทอง และท่าเรือวัดเสาธงทอง เบื้องต้นเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครราชสีมา รายงานสถานการณ์น้ำท่วมภาพรวม ขณะนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 22 อำเภอ จากทั้งหมด 32 อำเภอ พื้นที่การเกษตรเบื้องต้นได้รับความเสียหายประมาณ 125,000 ไร่ อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม และมีผู้เสียชีวิต 3 คน ขณะเดียวกันอ่างเก็บน้ำทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่รวม 27 แห่ง พบว่ามีปริมาณน้ำล้นความจุแล้ว 16 แห่ง
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า น้ำเหนือไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3,000 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยาสูงขึ้น ส่งผลกระทบหลายพื้นที่ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยนาท วัดสิงห์ และมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี และอำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ จึงปรับเพิ่มปริมาณน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งเหนือเขื่อนเจ้าพระยาสำหรับรับเข้าทุ่งลุ่มต่ำและเพิ่มการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเล็กน้อย โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำมากขึ้น
ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์คงการระบาย 800 ลบ.ม./วินาที โดยวันนี้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนเกินความจุคิดเป็น 109% เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ซึ่งเกินความจุ 105% แต่มีความจำเป็นต้องคงการระบายเพื่อจัดจราจรน้ำให้น้ำที่ระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยาไหลออกทะเลไปก่อน เพื่อลดผลกระทบบริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำทั้ง 2 สายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา.-สำนักข่าวไทย