ภูมิภาค 5 ต.ค. – น้ำท่วมหลายจังหวัดยังต้องเฝ้าระวัง และเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย แม้ว่าบางจังหวัดไม่มีฝนตกลงมาซ้ำ แต่ระดับน้ำยังท่วมสูง ขณะที่ชัยภูมิ เกิดเรื่องเศร้า พระครูเจ้าอาวาสวัดดัง จมน้ำมรณภาพ
แม่น้ำน่านที่ผ่านพิษณุโลกผ่านจุดวิกฤติ
ชลประทานจังหวัดพิษณุโลก เฝ้าระวังแม่น้ำน่านที่ไหลผ่านตัวเมืองพิษณุโลก ที่คาดว่าจะขึ้นกว่า 9 เมตร แต่จนถึงเวลา 13.00 น. ระดับน้ำลดลง ซึ่งถือว่าได้ผ่านจุดวิกฤติ แต่ก็ยังเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เกรงว่าจะมีฝนตกลงมาอีก จะทำให้มวลน้ำหลากลงสู่แม่น้ำน่าน
กรมชลประทาน ได้ปรับแผนการระบายน้ำของเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เนื่องจากน้ำในแม่น้ำน่าน ที่ไหลผ่านตัวเมืองพิษณุโลก มีมวลน้ำมาก ส่งผลเขื่อนแควน้อย ต้องชะลอการระบายน้ำ ซึ่งอาจส่งผลให้ในช่วง 2-3 วันนี้ น้ำในเขื่อนแควน้อยจะเต็มที่ 100% อย่างไรก็ตาม หลังจากแม่น้ำน่านที่ไหลผ่านตัวเมืองพิษณุโลก ผ่านจุดวิกฤติไปแล้ว ทางเขื่อนแควน้อย ก็จะเพิ่มการระบายน้ำกลับมาเหมือนเดิม
แม่น้ำยมระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ที่จังหวัดพิจิตร แม่น้ำยมมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรับน้ำจากจังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก ทำให้พื้นที่อำเภอสามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง และอำเภอโพทะเล ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำยมล้นตลิ่ง ไหลท่วม 4 อำเภอ บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมเกือบ 1,000 หลังคาเรือน และพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะบ้านหักรถ หมู่ที่ 1 ตำบลวังจิก อำเภอโพธิ์ประทับช้างกว่า 30 ครอบครัว ประสบปัญหาน้ำท่วมเส้นทางสัญจรเข้า-ออก หมู่บ้าน ชาวบ้านติดเกาะไม่สามารถใช้รถสัญจรเข้า-ออกหมู่บ้านได้ เทศบาลต้องนำเรือท้องแบนออกให้บริการประชาชนและนักเรียนในการเดินทางที่ต้องข้ามผ่านแม่น้ำยมที่ระดับน้ำสูงและกระแสน้ำเชี่ยวกราก
น้ำกัดเซาะพนังใต้ดินทะลักท่วม
ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีระดับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จากการเพิ่มระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ความแรงของกระแสน้ำได้กัดเซาะดินใต้พนังกั้นน้ำบริเวณบ้านโพธิ์เตี้ย ม.5 ต.สรรพยา ยาวกว่า 10 เมตร ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว ช่วงเวลา 3 ชั่วโมง น้ำท่วมสูงเลยหัวเข่า ชาวบ้านต้องรีบเก็บข้าวของกันอย่างเจ้าละหวั่น ขับรถหนีน้ำออกไปจอดริมถนนทางหลวง
นายเชิด กล่ำป่วน เจ้าของบ้านที่อยู่ตรงจุดที่น้ำเซาะพนัง เล่าว่าช่วงเช้า เห็นมีน้ำผุด ลอดใต้พนังยาวประมาณ 50 เซนติเมตร จึงรีบไปบอกเทศบาล ต.สรรพยา ให้มาอุดน้ำ แต่พอกลับมาบ้านช่องน้ำผุดได้ขยายวงกว้างขึ้นยาวกว่า 10 เมตร น้ำทะลักเข้าท่วมในหมู่บ้าน ม.4, ม.5 และท่วมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ถึง 3 ชั่วโมง ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ต้องปล่อยบางอย่างให้จมน้ำ
เหตุดังกล่าวเด็กนักเรียนโรงเรียนสรรพยาวิทยา ต้องรีบหยุดเรียนแล้วกลับบ้านไปช่วยพ่อแม่ และชาวบ้านขนของหนีน้ำท่วม ขณะที่ เทศบาล ต.สรรพยา รีบนำเครื่องจักรเครื่องมือ ขนดินและกระสอบทรายไปทำคันกั้นน้ำ บริเวณข้างโรงพักเก่าสรรพยา เพื่อป้องกันน้ำไม่ให้เข้าท่วมภายในตลาดสรรพยา พื้นที่เศรษฐกิจของอำเภอ ที่อยู่ห่างจากจุดน้ำเซาะพนังไปเพียง 1 กิโลเมตร พร้อมกับประกาศให้ชาวบ้านและร้านค้าในตลาดสรรพยา เร่งเก็บข้าวของขึ้นที่สูง
ช่วยสองตายายฝาบ้านระเบิด
ส่วนสองตา-ยาย เกาะเกร็ด ที่วิ่งหนีตายเกือบถูกไฟดูดเสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม หลังจากฝนกระหน่ำ กว่า 3 ชั่วโมง ทำให้น้ำท่วมสูง จนแรงดันน้ำทำฝาบ้านระเบิด น้ำทะลักเข้าบ้านจมทั้งหลัง ต้องไปอาศัยนอนศาลาวัด ล่าสุด พระครูนนทกิจโกศล เจ้าคณะอำเภอไทรน้อย เจ้าอาวาสวัดอ่วมอ่องประชานฤมิตร นำข้าวสารอาหารแห้งและปัจจัย จำนวน 9,000 บาท มอบให้นางวันดี ตันดิลก และนายไมตรี อินทนาม
นางวันดี กล่าวว่ายังไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง อาศัยอยู่กับชาวบ้านที่ใจบุญ ลูกๆ นอนที่ร้านชำ และศาลาวัด สามีก็ทำงานไม่ได้เพราะน้ำท่วม ต้องขอกราบขอบคุณทางเจ้าอาวาสวัดอ่วมอ่องประชานฤมิตร ที่เดินทางมาช่วยเหลือ มอบถุงยังชีพและปัจจัยมาช่วยเหลือในเบื้องต้น
น้ำเริ่มไหลเข้าหอพักและพื้นที่เศรษฐกิจมหาสารคาม
อ่างเก็บน้ำแก่งเลิงจาน จ.มหาสารคาม มีน้ำล้นความจุและมีการรั่วของพนังคลองผันน้ำทำให้น้ำทะลักท่วม ถนนบายพาสหมายเลข 291 รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ และน้ำได้ไหลเข้าไปพื้นที่เขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม หลังมหาวิทยาลัยกีฬามหาสารคาม นักศึกษาช่วยกันเร่งขนย้ายรถจักรยานยนต์ และสิ่งของจำเป็นออกจากหอพัก ที่มีอยู่กว่า 30 แห่ง ช่วงท้ายซอยน้ำมีความสูงเกือบ 70 ซ.ม. ชาวบ้านในชุมชน และเจ้าของหอพัก เผยว่าน้ำไม่เคยท่วมมากว่า 20 ปี ท่วมล่าสุดปี 2545
น้ำบางส่วน ยังได้เริ่มไหลเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ทางลำห้วยคะคาง เทศบาลเมืองมหาสารคาม ประกาศแจ้งหลีกเลี่ยงเส้นทาง บายพาสเลี่ยงเมืองมหาสารคาม (แยกแก่งเลิงจาน – แยกพลศึกษา) เส้นมหาสารคาม – โกสุม (แยกพลศึกษา – บ้านท่าสองคอน) ชุมชนที่อยู่อาศัยด้านหลังมหาวิทยาลัยกีฬา ม.ราชภัฏมหาสารคาม คุ้มศรีสวัสดิ์ รัตนโกสินทร์ เตรียมรับมวลน้ำเพิ่มสูงขึ้น พื้นที่เตรียมรับมวลน้ำสูงขึ้น ยกของขึ้นที่สูง
เพิ่มการระบายของเขื่อนอุบลรัตน์
ที่คลองส่งน้ำ 3L บ้านบึงใคร่นุ่น เจ้าหน้าที่ชลประทานจังหวัดขอนแก่น ต้องใช้รถแบ็กโฮมาเสริมคันดิน หลังมีน้ำทะลักไหลเข้าในคลองชลประทาน เพื่อป้องกันไม่ให้มีน้ำไหลเข้าไปเพิ่มเติม รักษาความแข็งแรงของคันคลองตลอดสาย หลังพบว่ามีน้ำที่ล้นตลิ่งจากลำน้ำพองได้ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ตำบลบึงเนียม และขยายเป็นวงกว้าง โดยให้ที่ประตูระบายน้ำห้วยพระ เป็นจุดกรอกกระสอบทราย เพื่อนำไปวางตามแนวคันคลอง 3L ซึ่งมีความยาวกว่า 5 กิโลเมตร
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่สำนักชลประทานที่ 6 มีพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมไปแล้วกว่า 3 แสนไร่ คาดว่าน้ำจะท่วมนานกว่า 1 เดือน ซึ่งขณะนี้จะต้องเฝ้าดูมวลน้ำ ที่ไหลมาจากจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณมาก ส่วนน้ำจากการระบายของเขื่อนอุบลรัตน์ ก็จะไหลมารวมกันที่อำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่น หากน้ำมารวมกันจะทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้าง ขณะนี้ได้เร่งระบายน้ำจากแม่น้ำชี ตั้งแต่จังหวัดยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้น้ำไหลลงแม่น้ำโขงให้เร็วที่สุด
ซึ่งทางสำนักงานชลประทานที่ 6 ได้ให้สำนักงานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย เร่งรับมือน้ำที่จะล้นคลอง 3L เพราะเป็นจุดสำคัญป้องกันน้ำเข้าท่วมเมืองขอนแก่น ขอให้ประชาชนที่อยู่ติดลำน้ำพอง เตรียมตัวรับน้ำที่จะไหลเข้าท่วม โดยเหตุการณ์จะใกล้เคียงกับปี 2560
เร่งช่วยขนย้ายวัว-ควาย จ.ศรีสะเกษ
ที่จังหวัดศรีสะเกษ ล่าสุดถนนทางหลางที่ 2373 ช่วงหน้า อบต.คูซอด อำเภอเมืองศรีะเกษ ถึงสะพานข้ามแม่น้ำมูล มีน้ำท่วมถนนสูง 10-30 เซนติเมตร ระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ต้องต้องปิดการจราจร ชาวบ้านนำรถไถขนาดใหญ่พวงหลัง มาคอยให้บริการรับส่งประชาชนที่จะนำรถข้ามไปอีกฝั่ง
ขณะที่บ้านหนองโอง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ที่มีปัญหา วัว-ควาย กว่า 200 ตัวติดเกาะ ปศุสัตว์อำเภอเร่งหาแนวทางช่วยเหลือ ด้วยการต่อแพ ก่อนจะนำเรือรากจูงวัว-ควาย ให้เดินไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ ซึ่งแล้วแต่ความสมัครใจของเจ้าของวัว-ควาย ล่าสุดนำวัว-ควาย ออกมาได้เพิ่มกว่า 10 ตัว ยังเหลือที่ไม่สามารถนำออกมาได้อีกกว่า 200 ตัว เนื่องจากสถานการณ์น้ำที่เพิ่มสูงขึ้น
พระครูเจ้าอาวาสวัดดัง วัย 90 ปี จมน้ำมรณภาพ
ร้อยเวร สภ.เมืองชัยภูมิ ได้รับแจ้งเหตุ พระครูอนุรักษ์ชัยธรรม (สุคนธ์ ชาคโร) อายุ 90 ปี เจ้าอาวาส วัดบริบูรณ์ (บ้านขี่เหล็กใหญ่) ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จมน้ำมรณภาพภายในวัด เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำร่างขึ้นมาบนศาลาการเปรียญ ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชม. คาดว่าพระครู อาจจะออกมาเดินดูระดับน้ำป่าที่ท่วมวัดฯ และน่าจะลื่นล้ม จมลงไปในน้ำ แล้วช่วยตัวเองไม่ได้ เนื่องจากอายุมาก และตอนเกิดเหตุไม่มีใครเห็นหรือได้ยินเสียง ซึ่งจะเรียกพระในวัดมาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
เลย ท่วมหนักสุดในรอบ 20 ปี นั่งเรือแจกอาหาร
น้ำท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจ จ.เลย ระดับน้ำเริ่มลดลง ท้องฟ้าเริ่มมีแดด ขณะที่บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำเลย ในพื้นที่ลุ่มต่ำยังจมมิดหลังคา ทุกภาคส่วนยังช่วยกันนำอาหารและน้ำไปแจกจ่าย น้ำในแม่น้ำเลยยังล้นตลิ่งท่วมถนนเจริญรัฐ หน้าวิทยาลัยอาชีวะศึกษาเลย ยาวไปจนถึงหน้าวิทยาลัยเทคนิคนิดเลย ระดับน้ำที่ถนนวัดได้ประมาณ 30-60 เซนติเมตร รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้
ขณะที่พื้นที่เศรษฐกิจ ถนนนกแก้ว จากข้างวิทยาลัยอาชีวะเลย ไปจนถึงวงเวียนน้ำพุ ซึ่งเป็นใจกลางเมืองเลย ระดับน้ำเริ่มลดลง รวมถึงถนนร่วมใจ ขณะที่ชาวบ้านยังไม่นำกระสอบทรายกั้นหน้าบ้านออก เพราะยังหวาดระแวงว่าน้ำจะลงมาซ้ำ .-สำนักข่าวไทย