สุราษฎร์ธานี 5 ต.ค. – วัยรุ่น 16 ปี ก่อเหตุขโมยสร้อยข้อมือทองคำ ในร้านทองกลางเมืองสุราษฎร์ธานี ร้านเดียวถึง 2 ครั้งในวันเดียว ได้ไป 8 บาท มูลค่ากว่า 2 แสนบาท แต่สุดท้ายไม่รอด ตำรวจเปิดกล้องวงปิดจนจับกุมตัวได้
ภาพวงจรปิดจากร้านทองห้างทองไทยทองดี ถนนหน้าเมือง ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่บันทึกภาพวานนี้ ( 4 ต.ค.) เมื่อเวลา 12.12 น. มีหญิงวัยรุ่นสวมหมวกแก๊ปสีชมพู ใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีขาว สวมเสื้อแจ็กเก็ตแขนยาวสีดำ ปิดบังใบหน้าด้วยหน้ากากอนามัย เข้ามาทำทีขอซื้อสร้อยข้อมือทองคำรูปพรรณ ขณะดูของ พนักงานขายเผลอ ใช้โทรศัพท์บัง พร้อมใช้มือขวาจับสร้อยข้อมือน้ำหนัก 4 บาท ใส่ในกระเป๋าสะพายที่อยู่บริเวณหน้าอกแล้วออกไป
เวลา 14.15 น. ของวันเดียวกัน ย้อนกลับมาที่ร้านเดิมอีกครั้ง และทำทีขอซื้อสร้อยข้อมือลักษณะคล้ายทอง (ไม่ใช่ทองแท้) พร้อมจี้รูปหัวใจ สร้อยข้อมือ พร้อมแหวน ในราคาประมาณ 22,000 บาท และเมื่อพนักงานขายเผลอ ก็ก่อเหตุลักสร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 4 บาท ไปอีก 1 เส้น รวมการก่อเหตุวันเดียว 2 ครั้ง ขโมยสร้อยข้อมือทองคำรูปพรรณ รวมน้ำหนัก 8 บาท มูลค่า 246,400 บาท
ต่อมาในเวลา 16.00 น. ก่อนปิดร้าน เจ้าของร้านทองได้ตรวจสอบพบว่ามีสร้อยข้อมือหายไป 2 เส้น จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ จนทราบว่าตัวผู้ก่อเหตุ และได้ร่วมกันจับกุมตัว นางสาวบี (นามสมมุติ ) อายุ 16 ปี ได้ภายในหมู่บ้าน ถนนนาเนียน ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมของกลางที่ผู้ก่อเหตุนำไปขายและตำรวจตามไปยึดมาได้ พร้อมชุดที่ใส่ในการก่อเหตุ
ผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่า นำทองไปขายที่ร้านทองที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง และนำเงินย้อนกลับมาซื้อสร้อยข้อมือและแหวน พร้อมกับขโมยสร้อยข้อมือไปอีกครั้ง และนำทองไปขายก่อนกลับเข้าบ้าน พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ โดยปลอมหน้า หรือทำด้วยประการอื่น เพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม
อย่างไรก็ตาม ตรวจสอบประวัติพบว่า ก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุเข้าไปลักทรัพย์ ที่ร้านจำหน่ายโทรศัพท์แถวตลาดไดมอนด์ เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีมาแล้ว แต่ผู้ปกครองเข้าไปเคลียร์กับเจ้าของร้าน จนยอมความกันได้ ผู้เสียหายจึงไม่เอาเรื่อง และยังมีประวัติรักษาตัวที่โรงพยาบาลสวนสราญรมณ์ ด้วยอาการของโรคซึมเศร้า. – สำนักข่าวไทย