ภูมิภาค 29 ก.ย. – เกาะติดสถานการณ์พายุ “โนรู” หลังเมื่อคืนนี้อุตุฯ เตือนว่าพายุจะเคลื่อนเข้าร้อยเอ็ด และพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบคือ อ.หนองพอก และ อ.โพนทอง ส่วนที่ อ.จังหาร น้ำได้ปิดล้อมหมู่บ้าน 33 หลัง มีผู้อยู่อาศัยประมาณ 200 คน ได้รับผลกระทบ
ที่ จ.ร้อยเอ็ด จากการตรวจสอบพบปริมาณฝนตกไม่มาก และไม่มีพายุพัดแรง มีเพียงฟ้าครึ้ม ฝนตกปรอยๆ แต่จังหวัดก็ได้ออกหนังสือเตือนไปยังทุกอำเภอให้เตรียมพร้อมรับมือ และเฝ้าระวังสภาวะฝนตกหนัก พายุลมแรง น้ำท่วมขัง โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงติดลุ่มน้ำ ทั้งลำน้ำชี ลำน้ำเสียว ลำน้ำยัง ลำน้ำเตา รวมถึงพื้นที่ติดลำน้ำสาขา ในเขตพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ อ.เกษตรวิสัยสุวรรณภูมิ อ.โพนทราย ในเขตพื้นที่ลุ่มลำน้ำดัง อ.จังหาร อ.เชียงขวัญ อ.ทุ่งเขาหลวง และนอกจากนั้นในเขตพื้นที่ติดลุ่มลำน้ำยัง ในเขต อ.โพนทอง อ.หนองพอก และ อ.เสลภูมิ เกาะติดสถานการณ์เฝ้าระวังตลอด 24 ชม.
ส่วนด่านแรกที่รับผลกระทบมีน้ำท่วมขังขึ้นในเขต อ.จังหาร บ้านหนองแค หมู่ที่ 9 ตำบลม่วงลาด โดยน้ำได้ปิดล้อมหมู่บ้าน 33 หลัง ซึ่งมีผู้อยู่อาศัยประมาณ 200 คน ได้รับผลกระทบ ทำให้ต้องนำสิ่งของออกมาไว้บนที่สูงห่างจากหมู่บ้าน 1 กิโลเมตร ในขณะที่นาข้าว 800 ไร่ โดนน้ำท่วมมิด ส่วนพื้นที่บ้านดินดำ หมู่ที่ 9 ตำบลดินดำ อำเภอจังหาร ระดับน้ำจากลำน้ำชีเริ่มล้นฝั่งเข้าท่วมหมู่บ้านบางหลังและเริ่มท่วมถนนที่ใช้สัญจรในหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน ทหารต้องช่วยนำกระสอบทรายเข้ามากั้นตลอดแนวสุ่มเสี่ยง เพื่อกันน้ำทะลักเข้ามาเพิ่ม
ส่วนที่ศรีสะเกษ พายุโนรู พ่นพิษทำฝนตกหนักน้ำเอ่อท่วม บขส. และบ้านเรือน โดยที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร บขส.กันทรลักษ์ น้ำได้เอ่อเข้าท่วมขังเต็มพื้นที่ เจ้าหน้าที่จากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 จัดกำลังเข้าช่วยเหลือ โดยได้นำกระสอบทรายเสริมแนวกั้นน้ำเพื่อบรรเทา ไม่ให้น้ำเข้าไปยังสำนักงานบริษัทขนส่ง ขณะที่ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ขณะที่ชุมชนชิดบัญชา ม.8 ต.น้ำอ้อม อ.กันทรลักษ์ เจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของขึ้นไปบนชั้น 2 เนื่องจากน้ำเพิ่มสูงขึ้นจะเข้าสู้ตัวบ้าน ที่มีผู้ป่วยติดเตียงอาศัยอยู่ พร้อมทำแนวกระสอบทรายกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าตัวบ้านเพิ่ม โดยสถานการณ์ล่าสุดฝนยังคงตกหนักต่อเนื่อง ปริมาณน้ำมากเข้าเอ่อท่วมถนนหลายจุด ทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางหมู่บ้าน บางเส้นทางรถเล็กสัญจรด้วยความยากลำบาก เพราะมีน้ำท่วมขัง
ขณะที่จังหวัดอุบลราชธานี ทหารช่วยอพยพชาวบ้านหนีน้ำรอบ 2-3 เพราะ กอนช.คาดแม่น้ำมูลล้นตลิ่งเกือบ 3 เมตร โดยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ หรือ กอนช. สั่งย้ายชาวบ้านที่อพยพหนีแม่น้ำมูลล้นตลิ่งสูงกว่า 2 เมตร จากจุดแรกที่เข้าพักอาศัยไปอยู่ที่ใหม่ รับมือน้ำอาจขึ้นสูงแล้วไหลท่วมศูนย์อพยพ ทำให้ชาวบ้านบางครอบครัวต้องย้ายหนีน้ำท่วมครั้งนี้ 2-3 รอบ ส่วนทหารเร่งนำกำลังเข้าช่วยย้ายเต็นท์ที่พักของชาวบ้าน 150 ครอบครัว ซึ่งหนีน้ำเป็นกลุ่มแรก ๆ ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมเข้าพักอาศัยอยู่บริเวณรอบที่ทำการโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำ (บ่อบำบัดน้ำเสีย) เทศบาลเมือง วารินชำราบ ให้ย้ายไปอยู่บนถนนข้างสำนักงานเทศบาล ในศูนย์การกีฬาเทศบาล และรอบวัดแสนสำราญ
ทั้งนี้ ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคตะวันออก เฉียงเหนือ กอนช.คาดว่า อิทธิพลฝนของพายุโนรูที่ตกลงมาในพื้นที่อุบลราชธานี และด้านเหนือของจังหวัด จะไหลมารวมกันที่ปลายน้ำอำเภอวารินชำราบ ซึ่งจะทำให้แม่น้ำมูลมีน้ำล้นตลิ่งสูง 2.72 เมตร หรือคิดเป็นความสูงรวมของแม่น้ำ 9.72 เมตร ในวันที่ 4 ตุลาคม จึงมีคำสั่งให้ทำการอพยพชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ถูกน้ำท่วมซ้ำไปพักอาศัยยังที่สูงกว่าที่อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งการขนย้ายเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากในพื้นที่ยังมีฝนตกและมีลมพัดเต็นท์ผู้อพยพเป็นระยะ ประกอบกับ ผู้อพยพบางคนมีอาการเหนื่อยล้า เพราะเพียง 2-3 สัปดาห์ ต้องอพยพหนีน้ำ 2-3 รอบแล้ว.- สำนักข่าวไทย