เขื่อนลำพระเพลิง จ.นครราชสีมา เร่งระบายน้ำ เตือน 2 อำเภอ เฝ้าระวังน้ำท่วม

ภูมิภาค 26 ก.ย. – น้ำท่วมตัวเมืองสุรินทร์ ถนนหลายสายจมน้ำ บางจุดน้ำสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเร่งเก็บข้าวของขึ้นที่สูง ส่วนเขื่อนลำพระเพลิง จ.นครราชสีมา เร่งระบายน้ำ เตือน 2 อำเภอ เฝ้าระวังน้ำท่วม


หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่องพายุโนรู คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเวียดนาม ซึ่งจะทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับผลกระทบ อำนาจเจริญก็เป็นจังหวัดหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากพายุลูกดังกล่าว

ล่าสุดที่อ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในตัว จ.อำนาจเจริญ ขณะนี้มีปริมาณน้ำกักเก็บ 103% จากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำในอ่างเริ่มไหลล้นสปิลเวย์ ชาวบ้านต่างพากันหวั่นจะเกิดน้ำท่วมเมืองซ้ำรอยปี 62 ซึ่งทางชลประทานเร่งระบายน้ำภายในอ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน เพื่อเตรียมรับมือปริมาณน้ำฝนที่จะมาจากพายุโนรู เนื่องจากระดับวิกฤติของอ่างเก็บน้ำอยู่ที่ 115%


อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะนำกระสอบสายมาวางตามจุดเสี่ยงต่างๆ บริเวณสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำ และฝากเตือนประชาชนทุกคนติดตามข่าวสารตลอดเวลา

น้ำท่วมตัวเมืองสุรินทร์ ถนนหลายสายจมน้ำ บางจุดน้ำสูงกว่า 1 เมตร
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สุรินทร์ โดยเฉพาะเขตเทศบาลเมือง ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และน้ำจากพื้นที่อื่นไหลมาสมทบ ทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างหนัก บางแห่งระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร ชาวบ้านต้องเร่งเก็บข้าวของขึ้นที่สูง บางพื้นที่เก็บไม่ทันถูกน้ำไหลเข้าท่วมบ้านทรัพย์สินได้รับความเสียหาย การสัญจรในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์เป็นไปด้วยความลำบาก โรงเรียนทุกแห่งในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ และตำบลนอกเมือง ย่านตลาดสด ถูกน้ำท่วม ศูนย์การค้าต่างๆ ถนนทางเข้าห้างฯ ถูกน้ำท่วมสูง เช่นเดียวกับหมู่บ้านจัดสรรรอบศูนย์การค้ากว่า 5 หมู่บ้าน ถูกน้ำไหลเข้าบ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อน

เขื่อนลำพระเพลิงเร่งระบายน้ำ เตือน 2 อำเภอ เฝ้าระวังน้ำท่วม
นายขวัญชัย อุตตะเวช ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง ดูแลเขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ออกหนังสือด่วนแจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำลำพระเพลิงอย่างใกล้ชิด และได้ปรับแผนการระบายน้ำ เพื่อเตรียมรับมือปริมาณน้ำไหลเข้าสู่อ่างลำพระเพลิง


สถานการณ์เขื่อนลำพระเพลิงในวันนี้ ปริมาณน้ำ 118 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 76% ของความจุ และได้แจ้งเตือนประชาชนบ้านตะเคียนคู่ และบ้านโคกสำราญ ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย ที่อยู่ในเขตอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำ เตรียมเก็บทรัพย์สินขึ้นที่สูง และย้ายไปอยู่ในที่สูง รวมถึงประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุมต่ำ ริมคลองธรรมชาติลำพระเพลิง ลำสำลาย ลำซอ และลำเชียงสา เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในคลองธรรมชาติเพิ่มสูงขึ้น.

บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น เตรียมอพยพหลังน้ำเต็มบึงใหญ่
ส่วนบริเวณถนนมะลิวัลย์ ขาเข้าขอนแก่น พื้นที่ ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น ยังคงมีน้ำท่วมสูง ระยะทางประมาณ 500 เมตร บางจุดไหลบ่าข้ามไปยังถนนฝั่งตรงข้าม เข้าท่วมชุมชนและสถานที่ต่างๆ หนึ่งในจุดที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักคือ ซอยโรงเรียนการศึกษาคนตาบอด แต่ระดับน้ำลดลงจากเมื่อเช้า

เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบ้านเป็ดกำลังประเมินว่าจะเจาะเกาะกลางถนนมะลิวัลย์เปิดทางให้น้ำไหลสะดวกกว่านี้หรือไม่ ซึ่งต้องพิจารณาอย่างละเอียด ทั้งสถานการณ์เหนือน้ำและท้ายน้ำ ซึ่งภาพรวมมีประชาชนตามหมู่บ้าน ชุมชนต่างๆ ได้รับความเดือดร้อนนับหมื่นคน พร้อมประกาศให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมสำหรับการอพยพ เพราะแหล่งน้ำขนาดใหญ่อย่างบึงหนองโคตร เต็มความจุแล้ว ขณะนี้รับน้ำทุกทิศทาง แต่ระบายออกได้ทางเดียว

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ลงไปบัญชาการเหตุการณ์ด้วยตัวเอง พร้อมเจ้าหน้าที่กองบัญชาการกองทัพไทย ที่นำเครื่องมือมาตรวจกระแสไฟฟ้ารั่ว เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่ พร้อมเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของประชาชน มีอาหารเพียงพอ วางแผนอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง หากน้ำเพิ่มระดับ และชี้แจงประชาชนให้เข้าใจสถานการณ์ อย่าให้ประชาชนสับสน

เก๋ง 4 พ่อแม่ลูกถูกน้ำป่าพัด หนูน้อย 9 ขวบดับสลด
ที่ จ.ชัยภูมิ น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม น้ำป่าที่ไหลจากเทือกเขาพังเหย ช่วง อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ไหลทะลักจากเทือกเขาผ่านลำห้วยคลองน้ำมุด บ.บ้านไร่พัฒนา ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต พัดรถเก๋ง มีนายทองสุข อายุ 43 ปี ผู้เป็นพ่อ เป็นคนขับ พาครอบครัว รวม 4 คน กลับจากบ้านญาติ ขณะที่ขับอยู่บนถนนบริเวณสันฝ่ายน้ำล้น เกิดฝนตกหนักและมีน้ำป่าสีแดงขุนไหลเชี่ยวพัดรถตกลงไปในลำคลองห้วยน้ำมุด จมหายไปในสายน้ำ คนที่อยู่ในรถต่างพยามหาทางหนีออกจากตัวรถรอด 3 คน คือพ่อ แม่ และลูกชายคนโต ส่วนลูกสาวคนเล็ก อายุ 4 ขวบ หายไปในสายน้ำ และพบเป็นศพห่างจากที่เกิดเหตุ 3 กม. ในเวลาต่อมา

อ.ศรีราชา น้ำระบายไม่ทัน เอ่อท่วมถนน
เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ถนนบางจุดน้ำเอ่อขึ้นมาบนถนน และบางจุดมีกระแสน้ำค่อนข้างแรง เช่นเดียวกับถนนในซอยแถวปิ่นทอง ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่ปริมาณน้ำไหลทะลักขึ้นมาท่วมสูงกว่า 50 ซม.

ระยองฝนถล่มยันเช้า น้ำท่วมขังในเขตเทศบาลหลายจุด
ฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ จ.ระยอง ตั้งแต่กลางคืน เรื่อยมาจนถึงรุ่งเช้าวันนี้ และยังตกโปรยปรายต่อเนื่อง ส่งผลให้ถนนหลายสายในเขตเทศบาลนครระยองถูกน้ำท่วมขัง กลายเป็นลำคลองไปในทันที เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรเป็นบางช่วงเพื่อไม่ให้รถผ่าน โดยเฉพาะถนนสาย ค.2 ระดับน้ำท่วมสูงล้นขอบเกาะกลางถนนเป็นบางช่วง

ขณะเดียวกันถนนสาย 36 ช่วงหลัก กม.42 ทั้งฝั่งขาเข้า-ออกเมืองระยอง เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมผิวถนนเป็นระยะทางยาวกว่า 300 เมตร ระดับน้ำท่วมสูง 50 ซม. เจ้าหน้าที่แขวงการทางระยองต้องปิดเส้นทางการจราจรให้รถผ่านไปมาได้เพียง 1 ช่องทางเท่านั้น

ส่วนบริเวณสี่แยกไฟจราจรเกาะกลอย ถนนสายะระยอง-บ้านค่าย ขาเข้าและออกเมืองระยอง มีน้ำท่วมขัง ระยะทาง 500 เมตร ระดับน้ำ 30 ซม. รถยังสามารถผ่านได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตร.แจ้ง 2 ข้อหามือมีดทำร้าย “เป๊ก” คาดปมเข้าใจผิด

3 ส.ค.- ตำรวจ สน.หัวหมาก แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มวัย 21 ใช้มีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” นักร้องชื่อดัง บาดเจ็บที่คางเป็นแผลฉกรรจ์ อ้างถูกหาเรื่องก่อน เบื้องต้นคาดปมเข้าใจผิด จ่อสอบปากคำเพิ่มเติม เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 3 ส.ค.68 ร.ต.อ.ชัยนรินทร์ กวีพราหมณ์ รอง.สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีด มีผู้บาดเจ็บ ภายในปั๊มน้ำมัน ซอยรามคำแหง 76 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมกำลังสายตรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.หัวหมาก และอาสามูลนิธิสยามร่วมใจปู่อินทร์ ที่เกิดเหตุอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน พบร่างนายผลิตโชค หรือ เป๊ก อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง มีบาดแผลฉกรรจ์ถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่บริเวณใต้คาง 1 แผล ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงเร่งทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเร่งนำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมิติเวช ส่วนผู้ก่อเหตุไม่หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ […]

เฝ้าระวังตลอดคืน พบโดรนปริศนาบินล้ำเขตแดนอรัญฯ

สระแก้ว 3 ส.ค.- พบโดรนปริศนาไม่ทราบฝ่ายบินล้ำแดนจากกัมพูชาเข้ามาในไทย ชาวบ้าน-ชรบ.ในพื้นที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เฝ้าระวังตลอดทั้งคืน คืนที่ผ่านมา เวลา 21.00 น. ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยจุดที่ทีมข่าวเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ห่างจากแนวชายแดนเพียง 2 กิโลเมตร บรรยากาศในพื้นที่ขณะนั้นมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ออกมาคอยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง หลังได้รับแจ้งว่าอาจมีโดรนปริศนาเข้ามาในพื้นที่ ระหว่างที่ทีมข่าวกำลังสัมภาษณ์พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ พบโดรนลำหนึ่งบินเข้ามาจากเขตชายแดนฝั่งกัมพูชา ล้ำเข้ามาในอาณาเขตประเทศไทยลึกประมาณ 2 กิโลเมตร ขณะที่โดรนลำนั้นลอยอยู่เหนือพื้นที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ใช้ไฟสปอร์ตไลต์กำลังแรงสูงร่วมกับแสงเลเซอร์จากอุปกรณ์ของทหาร ส่องไปยังโดรนปริศนาอย่างชัดเจน ทำให้เห็นลำตัวของโดรนแม้อยู่ในความมืด สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่มีการเปิดเผยว่าโดรนลำนั้นมีเป้าหมายใดหรือเป็นของฝ่ายใด ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงยังคงเพิ่มมาตรการตรวจตราและเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดคิดหรือภัยคุกคามความมั่นคงในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารไทยบึ้มบันไดช่องคานม้า สกัดเส้นทางขึ้นภูมะเขือ

3 ส.ค. – เปิดภาพทหารไทยบึ้มบันไดช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ สกัดเส้นทางขึ้นภูมะเขือ ห้วงปะทะวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา วันนี้ (3 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา ทหารได้ทำลายบันไดช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ ซึ่งสามารถขึ้นมาถึงภูมะเขือได้ หลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ภูมะเขือ ผลักดันทหารกัมพูชาอยู่บนจะงอยหน้าผาออกไปทั้งหมด พร้อมทำลายกระเช้า และฐานทหารกัมพูชาด้านล่างภูมะเขือ โดยการใช้โดรนติดระเบิด ล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพทหารทำลายบันไดช่องคานม้า ในระหว่างยึดพื้นที่ได้จากการเหตุปะทะช่วง 5 วันที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

ชาวเชียงใหม่ร่วมจุดเทียนสดุดี 15 วีรบุรุษชายแดน

3 ส.ค.- ชาวเชียงใหม่ ร่วมกันจุดเทียน แสดงความไว้อาลัย สดุดี 15 วีรบุรุษทหารที่พลีชีพปกป้องแผ่นดินไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บริเวณ หน้าลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ตัวเมืองเชียงใหม่ ประชาชนได้รวมตัวทำกิจกรรมร้องเพลง เขียนข้อความ พร้อมโบกธงชาติไทย เพื่อส่งกำลังใจให้กับทหารที่อยู่แนวหน้า ชายแดนไทย-กัมพูชา และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย เพื่อเป็นการสดุดีทหาร 15 นายที่พลีชีพในการสู้รบปกป้องอธิปไตย อีกทั้งอ่านรายชื่อทหาร วางพวงหรีดและจุดเทียน แสดงความไว้อาลัยพร้อมทั้งยืนสงบนิ่ง อธิฐานขอให้เจ้าหน้าที่ที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ปลอดภัยทุกนาย นอกจากนี้ บริเวณย่านถนนท่าแพ หน้าอาคารพุทธสถานเชียงใหม่ มีการนำภาพทหารที่เสียชีวิตทั้ง 15 นายติดไว้ริมถนนและมีการตั้งโต๊ะเพื่อให้ประชาชน มาวางดอกไม้ แสดงความอาลัย -สำนักข่าวไทย