เหตุสารเคมีรั่วไหลจากโรงงาน ไม่พบสารอันตรายในบรรยากาศแล้ว

นครปฐม 22 ก.ย. – เหตุสารเคมีรั่วไหลจากโรงงาน จ.นครปฐม ตรวจสอบล่าสุดไม่พบสารอันตรายในบรรยากาศแล้ว ด้านโรงงานที่เกิดเหตุทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ยืนยันไม่มีการรั่วไหลไปยังแหล่งน้ำสาธารณะ และไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของโรงงาน


สารเคมีกลุ่มอะโรมาติกเบนซิน รั่วไหล 30 ลิตร จากโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกแห่งหนึ่งใน ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม กลิ่นคล้ายโซดาไฟฟุ้งกระจายทั่วบริเวณ ในพื้นที่ อ.นครชัยศรี อ.สามพราน และ อ.พุทธมณฑล สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้าน

หลังเกิดเหตุ นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม และหน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบ โดยระบุว่า เหตุเกิดประมาณ 06.00 น. วันนี้ (22 ก.ย.) หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ เวลาประมาณ 08.30 น. ก็ไม่มีกลิ่นแล้ว ส่วนสาเหตุเกิดจากการรั่วไหลของน้ำมันในกระบวนการผลิตเม็ดพลาสติก ทำให้มีกลิ่นเหม็นฟุ้งกระจายเป็นบริเวณกว้าง แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือผู้ได้รับผลกระทบจากกลิ่นดังกล่าว แต่ได้แจ้งโรงพยาบาลและสถานีอนามัย ทั้งใน อ.นครชัยศรี อ.สามพราน และ อ.พุทธมณฑล หากมีประชาชนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวให้เร่งช่วยเหลือโดยด่วน


ส่วนบริษัทที่เกิดเหตุ ขณะนี้ได้สั่งหยุดการผลิตชั่วคราว และเมื่อซ่อมบำรุงเสร็จ ต้องให้อุตสาหกรรมจังหวัดเข้าตรวจสอบ ก่อนดำเนินการผลิตรอบใหม่ อย่างไรก็ตาม จากการติดตามผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ล่าสุดเวลา 15.26 น. ไม่พบสารอันตรายในบรรยากาศแล้ว

ขณะที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5 ออกประกาศชี้แจงสถานการณ์ว่า เกิดเหตุสารเคมีกลุ่มอะโรเมติกเบนซินรั่วไหล ไดฟีนิลออกไซด์ และไบฟีนิล ซึ่งเป็นสารที่มีน้ำหนักเบา ลอยไปในอากาศได้ระยะไกล หากสูดดมเข้าไปในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะ และส่งผลต่อทางเดินหายใจ ข้อปฏิบัติ ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และควรอยู่ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก หากพบความผิดปกติทางร่างกาย ควรพบแพทย์เพื่อประเมินอาการ

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งจากประชาชนว่ามีกลิ่นเหม็นเมื่อช่วงเช้า เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ พบที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์และเส้นใยประดิษฐ์ สารที่รั่วไหลเป็น Hot oil down term DT1 ซึ่งเป็นสารแลกเปลี่ยนความร้อนของระบบหล่อเย็น เป็นสารกลุ่มอะโรเมติกเบนซิน ชนิดไบฟีนิล และไดฟีนิลออกไซด์ 75% รั่วไหลบริเวณระบบการผลิตเม็ดพลาสติกของโรงกลั่นพลาสติก ประมาณ 30 ลิตร เป็นสารมีน้ำหนักเบา จึงลอยไปได้ไกล ผลกระทบของสาร การหายใจเอาไอระเหยเข้าไป จะทำให้เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ได้แนะนำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง ใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล และควรอยู่ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก


ขณะที่กรมควบคุมโรค ระบุว่า สารพิษอาจส่งผลให้มีความเสี่ยงป่วยจาก 3 กลุ่มโรค

  1. กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ อาเจียน คลื่นไส้
  2. กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ เช่น อาการคันตามร่างกาย มีผื่นแดงตามร่างกาย
  3. กลุ่มโรคตาอักเสบ เช่น อาการแสบหรือคันตา ตาแดง

หลักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อสัมผัสสารเคมี

  1. หากโดนผิวหนัง ใช้น้ำสะอาดล้างให้มากที่สุด เพื่อให้เจือจาง ถ้าถูกเสื้อผ้าให้ถอดเสื้อผ้าออกก่อน
  2. หากเข้าตา ล้างตาด้วยน้ำสะอาดอย่างน้อย 15 นาที รีบนำส่งโรงพยาบาล
  3. หากสูดดมเข้าไป ย้ายผู้ป่วยไปที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์หรือมีอากาศถ่ายเท และประเมินการหายใจ

ด้าน “อจ.อ๊อด” หรือ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อธิบายถึงสารไดฟีนิลออกไซด์ที่รั่วไหล ว่าเป็นสารอันตราย ทำให้ระคายเคืองตา ผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ แนะนำว่าให้อพยพออกจากพื้นที่โดยเร็ว ฟอกสบู่และล้างด้วยน้ำมากๆ

ส่วนสาร “โทลูอีน” ทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ถ้าสูดดมนานๆ หรือเข้าผิวหนัง ระยะยาวมีผลต่อไขกระดูกและโลหิต อาจกลายเป็นมะเร็งในเม็ดเลือด และทำให้เกิดการกลายพันธุ์ได้

จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณใต้ลมและบริเวณที่ได้รับผลกระทบ ในระยะ 1-20 กิโลเมตร จำนวน 6 จุด ประกอบด้วย

  1. โรงเรียนวัดปุรณาวาส แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร
  2. โรงเรียนสาธิตนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
  3. โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ มหามงคล ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
  4. โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
  5. โรงพยาบาลสามพราน ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม
  6. โรงเรียนตลาดบางคูลัด ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
    ทุกจุดตรวจไม่พบสารอันตรายในบรรยากาศ

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้โรงเรียนบางแห่งประกาศงดการเรียนการสอนเป็นกรณีพิเศษ 1 วัน อาทิ โรงเรียนสาธิตนานาชาติ ม.มหิดล, โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ มหามงคล และโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม (พระตำหนักสวนกุหลาบมัธยม)

ล่าสุดโรงงานที่เกิดเหตุได้ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ กรณีสารเคมีรั่วไหลว่า เป็นการรั่วไหลของไอระเหยในระบบการให้ความร้อนของเหลวโดยเชื้อเพลิง จากเครื่องทำความเย็นของระบบทำความร้อน HTM เมื่อเวลาประมาณ 05.45 น. วันนี้ (22 ก.ย.) ทั้งนี้ บริษัทสามารถควบคุมการรั่วไหลได้อย่างรวดเร็วภายใน 10 นาที โดยไม่มีการรั่วไหลไปยังแหล่งน้ำสาธารณะ และไม่มีพนักงานของบริษัท หรือบุคคลอื่นใดในชุมชนโดยรอบได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งไม่มีความเสียหายใดๆ ต่ออุปกรณ์ภายในโรงงาน ขณะนี้การรั่วไหลดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุม และไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของโรงงาน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลไม่ให้ประกันผู้ต้องหาคดีตึก สตง.ถล่ม ส่งคุมขังเรือนจำ

16 พ.ค.- ศาลไม่ให้ประกัน “เปรมชัย” และผู้ต้องหาคดีตึก สตง.ถล่ม คุมตัวทั้งหมดเข้าเรือนจำ ชี้คดีมีความเสียหายใหญ่หลวง น่าสะพรึงกลัว กระทบสังคม ญาติและทนายความของผู้ต้องหาทั้งหมดได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฝากขัง ศาลได้ไต่สวนพนักงานสอบสวน ผู้ร้อง และผู้ต้องหา แล้วมีคำสั่งเมื่อเวลา 20.00 น. ว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับคดีนี้จนเกิดความเสียหายใหญ่หลวงน่าสะพรึงกลัว กระทบต่อสังคมอย่างยิ่ง ทั้งพนักงานสอบสวนและผู้เสียหายคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เกรงจะหลบหนียากแก่การติดตามตัว ทั้งคดีต้องสอบสวนพยานอีก 15 ปาก กรณีมีเหตุผลอันสมควรจะรอผลการสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อนแล้วค่อยพิจารณามีคำสั่งโดยละเอียดรอบคอบต่อไป ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา ยกคำร้อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป.-สำนักข่าวไทย

จับครบทีม 4 คนร้ายฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพ-ฆ่าฝังดิน 1 ศพ

ตรัง 16 พ.ค. – ปิดคดีฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพ และฆ่าฝังดิน 1 ศพ ในสวนปาล์ม จ.ตรัง ตำรวจจับครบแล้ว 4 คน โดย 2 คนสุดท้ายเพิ่งนำตัวลงมาจากเขา คนร้ายที่ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพ และฆ่าฝังดิน 1 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ทนแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ไม่ไหว ล่าสุดยอมให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว เพราะกลัวจะถูกวิสามัญ โดย 2 คนแรกคือ นายศุภกรณ์ หรือ บิน หัวหน้าแก๊ง กับนายจรณชัย หรือ แต้ม ตำรวจควบคุมตัวได้ช่วงเช้ามืดวันนี้ ส่วนอีก 2 คนคือ นายปิยศักดิ์ หรือ แจ็ค และนายรพีพันธ์ หรือ เทือก ตำรวจเข้าควบคุมตัวได้ช่วงเย็นที่ผ่านมา ขณะที่หนีไปกบดานอยู่ในป่าบ้านถ้ำน้ำผุด อ.เมืองตรัง ซึ่งคือบ้านเกิดของนายแจ็ค […]

เปิดสัมพันธ์ลับ “ทิดแย้ม-สีกา”

16 พ.ค. – เปิดความสัมพันธ์ลับระหว่าง “ทิดแย้ม-สีกา” เริ่มตั้งแต่สีกายังเรียนหนังสือในโรงเรียนวัดไร่ขิง อดีตเจ้าอาวาสให้ความเมตตา จึงเอ่ยปากยืมเงิน 40 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนตั้งแต่ปี 2564 ความสัมพันธ์ระหว่างนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรืออดีตพระธรรมวชิรานุวัตร อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเจ้าคณะภาค 14 หรือ ทิดแย้ม กับสีกา คือ น.ส.อรัญญาวรรณ ซึ่งได้ข้อมูลจากการสอบปากคำทั้ง 2 คน ตลอดคืน รวมถึงหลักฐานสำคัญในโทรศัพม์มือถือของทั้ง 2 คน ทำให้พบว่าความสัมพันธ์นี้ถึงขั้นลึกซึ้ง น.ส.อรัญญาวรรณ รับสารภาพว่ารู้จักกับทิดแย้มมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดไร่ขิง โดยอดีตเจ้าอาวาสขณะนั้นให้ความเมตตา จึงลองเอ่ยปากขอยืมเงิน 40 ล้านบาท เพื่อนำมาลงทุนตั้งแต่ปี 2564 สอดคล้องกับที่ทิดแย้มให้การว่าได้โอนเงินไปให้กับ น.ส.อรัญญาวรรณ เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ช่วงปี 2564 นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐานสำคัญคือ คลิปการสนทนาระหว่างทิดแย้ม และ น.ส.อรัญญาวรรณ ที่มีการพูดคุยถึงเรื่องการทวงเงินเพราะครบดีล ถึง 4 ครั้ง ครั้งละ 5 […]

เตรียมฝากขัง “อดีตเจ้าคุณแย้ม” พรุ่งนี้ ค้านประกันตัว

นครปฐม 16 พ.ค. – ตำรวจเตรียมคุมตัว “อดีตเจ้าคุณแย้ม” ขออำนาจศาลฝากขัง พรุ่งนี้ (17 พ.ค.) พร้อมคัดค้านการประกันตัว หลังถูกกล่าวหายักยอกเงินวัดไปเล่นพนันออนไลน์ ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 06.30 น. นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. นำหมายศาลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 4 จุด ประกอบด้วย ในวัดไร่ขิง 3 จุด และนอกวัดไร่ขิง 1 จุด เพื่อขยายผลค้นหาพยานหลักฐานในคดีที่พระธรรมวชิรานุวัตร หรืออดีตเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และเจ้าคณะภาค 14 ถูกกล่าวหาว่าทุจริตยักยอกเงินวัดไร่ขิง กว่า 300 ล้านบาท ไปเล่นการพนันออนไลน์ พื้นที่เป้าหมายสำคัญจุดแรกคือ กุฏิของอดีตเจ้าคุณแย้ม โดยเจ้าหน้าที่ได้อ่านหมายค้น มีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เป็นผู้รับหมายและนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น เบื้องต้นมีการยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งคอมพิวเตอร์ มือถือ รวมถึงเอกสารรายรับ-รายจ่าย 10 ลัง เกือบ […]