เหตุสารเคมีรั่วไหลจากโรงงาน ไม่พบสารอันตรายในบรรยากาศแล้ว

นครปฐม 22 ก.ย. – เหตุสารเคมีรั่วไหลจากโรงงาน จ.นครปฐม ตรวจสอบล่าสุดไม่พบสารอันตรายในบรรยากาศแล้ว ด้านโรงงานที่เกิดเหตุทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ยืนยันไม่มีการรั่วไหลไปยังแหล่งน้ำสาธารณะ และไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของโรงงาน


สารเคมีกลุ่มอะโรมาติกเบนซิน รั่วไหล 30 ลิตร จากโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกแห่งหนึ่งใน ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม กลิ่นคล้ายโซดาไฟฟุ้งกระจายทั่วบริเวณ ในพื้นที่ อ.นครชัยศรี อ.สามพราน และ อ.พุทธมณฑล สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้าน

หลังเกิดเหตุ นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม และหน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบ โดยระบุว่า เหตุเกิดประมาณ 06.00 น. วันนี้ (22 ก.ย.) หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ เวลาประมาณ 08.30 น. ก็ไม่มีกลิ่นแล้ว ส่วนสาเหตุเกิดจากการรั่วไหลของน้ำมันในกระบวนการผลิตเม็ดพลาสติก ทำให้มีกลิ่นเหม็นฟุ้งกระจายเป็นบริเวณกว้าง แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือผู้ได้รับผลกระทบจากกลิ่นดังกล่าว แต่ได้แจ้งโรงพยาบาลและสถานีอนามัย ทั้งใน อ.นครชัยศรี อ.สามพราน และ อ.พุทธมณฑล หากมีประชาชนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวให้เร่งช่วยเหลือโดยด่วน


ส่วนบริษัทที่เกิดเหตุ ขณะนี้ได้สั่งหยุดการผลิตชั่วคราว และเมื่อซ่อมบำรุงเสร็จ ต้องให้อุตสาหกรรมจังหวัดเข้าตรวจสอบ ก่อนดำเนินการผลิตรอบใหม่ อย่างไรก็ตาม จากการติดตามผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ล่าสุดเวลา 15.26 น. ไม่พบสารอันตรายในบรรยากาศแล้ว

ขณะที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5 ออกประกาศชี้แจงสถานการณ์ว่า เกิดเหตุสารเคมีกลุ่มอะโรเมติกเบนซินรั่วไหล ไดฟีนิลออกไซด์ และไบฟีนิล ซึ่งเป็นสารที่มีน้ำหนักเบา ลอยไปในอากาศได้ระยะไกล หากสูดดมเข้าไปในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะ และส่งผลต่อทางเดินหายใจ ข้อปฏิบัติ ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และควรอยู่ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก หากพบความผิดปกติทางร่างกาย ควรพบแพทย์เพื่อประเมินอาการ

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งจากประชาชนว่ามีกลิ่นเหม็นเมื่อช่วงเช้า เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ พบที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์และเส้นใยประดิษฐ์ สารที่รั่วไหลเป็น Hot oil down term DT1 ซึ่งเป็นสารแลกเปลี่ยนความร้อนของระบบหล่อเย็น เป็นสารกลุ่มอะโรเมติกเบนซิน ชนิดไบฟีนิล และไดฟีนิลออกไซด์ 75% รั่วไหลบริเวณระบบการผลิตเม็ดพลาสติกของโรงกลั่นพลาสติก ประมาณ 30 ลิตร เป็นสารมีน้ำหนักเบา จึงลอยไปได้ไกล ผลกระทบของสาร การหายใจเอาไอระเหยเข้าไป จะทำให้เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ได้แนะนำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง ใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล และควรอยู่ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก


ขณะที่กรมควบคุมโรค ระบุว่า สารพิษอาจส่งผลให้มีความเสี่ยงป่วยจาก 3 กลุ่มโรค

  1. กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ อาเจียน คลื่นไส้
  2. กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ เช่น อาการคันตามร่างกาย มีผื่นแดงตามร่างกาย
  3. กลุ่มโรคตาอักเสบ เช่น อาการแสบหรือคันตา ตาแดง

หลักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อสัมผัสสารเคมี

  1. หากโดนผิวหนัง ใช้น้ำสะอาดล้างให้มากที่สุด เพื่อให้เจือจาง ถ้าถูกเสื้อผ้าให้ถอดเสื้อผ้าออกก่อน
  2. หากเข้าตา ล้างตาด้วยน้ำสะอาดอย่างน้อย 15 นาที รีบนำส่งโรงพยาบาล
  3. หากสูดดมเข้าไป ย้ายผู้ป่วยไปที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์หรือมีอากาศถ่ายเท และประเมินการหายใจ

ด้าน “อจ.อ๊อด” หรือ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อธิบายถึงสารไดฟีนิลออกไซด์ที่รั่วไหล ว่าเป็นสารอันตราย ทำให้ระคายเคืองตา ผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ แนะนำว่าให้อพยพออกจากพื้นที่โดยเร็ว ฟอกสบู่และล้างด้วยน้ำมากๆ

ส่วนสาร “โทลูอีน” ทำลายระบบประสาทส่วนกลาง ถ้าสูดดมนานๆ หรือเข้าผิวหนัง ระยะยาวมีผลต่อไขกระดูกและโลหิต อาจกลายเป็นมะเร็งในเม็ดเลือด และทำให้เกิดการกลายพันธุ์ได้

จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณใต้ลมและบริเวณที่ได้รับผลกระทบ ในระยะ 1-20 กิโลเมตร จำนวน 6 จุด ประกอบด้วย

  1. โรงเรียนวัดปุรณาวาส แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร
  2. โรงเรียนสาธิตนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
  3. โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ มหามงคล ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
  4. โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
  5. โรงพยาบาลสามพราน ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม
  6. โรงเรียนตลาดบางคูลัด ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
    ทุกจุดตรวจไม่พบสารอันตรายในบรรยากาศ

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้โรงเรียนบางแห่งประกาศงดการเรียนการสอนเป็นกรณีพิเศษ 1 วัน อาทิ โรงเรียนสาธิตนานาชาติ ม.มหิดล, โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ มหามงคล และโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม (พระตำหนักสวนกุหลาบมัธยม)

ล่าสุดโรงงานที่เกิดเหตุได้ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ กรณีสารเคมีรั่วไหลว่า เป็นการรั่วไหลของไอระเหยในระบบการให้ความร้อนของเหลวโดยเชื้อเพลิง จากเครื่องทำความเย็นของระบบทำความร้อน HTM เมื่อเวลาประมาณ 05.45 น. วันนี้ (22 ก.ย.) ทั้งนี้ บริษัทสามารถควบคุมการรั่วไหลได้อย่างรวดเร็วภายใน 10 นาที โดยไม่มีการรั่วไหลไปยังแหล่งน้ำสาธารณะ และไม่มีพนักงานของบริษัท หรือบุคคลอื่นใดในชุมชนโดยรอบได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งไม่มีความเสียหายใดๆ ต่ออุปกรณ์ภายในโรงงาน ขณะนี้การรั่วไหลดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุม และไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของโรงงาน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ถกเหตุ “ภูเก็ต-พังงา” ขอมั่นใจทุกหน่วยงานดูแลอย่างดี

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- นายกฯ เรียก ผบ.ตร.-ผบช.ทท.-ปลัดท่องเที่ยว รายงานสถานการณ์ลอบวางระเบิด “ภูเก็ต-พังงา” ขอประชาชน-นักท่องเที่ยวมั่นใจทุกหน่วยงานดูแลอย่างดี ขณะที่ “ภูมิธรรม” เรียกหน่วยงานความมั่นคงถกช่วงบ่าย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความภายหลังเชิญ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) และน.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่าจากสถานการณ์ที่มีความพยายามวางระเบิดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต-พังงา วันนี้ (27 มิ.ย.) ดิฉันได้เชิญท่าน ผบ.ตร. ท่านผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และท่านปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อติดตามสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้รับรายงานจากทุกภาคส่วนว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ก่อความวุ่นวายในพื้นที่เพื่อให้เกิดความไม่สงบ ดิฉันได้ย้ำทุกภาคส่วนให้มีการสืบสวนติดตามสถานการณ์นี้มาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ดำเนินทุกมาตรการความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดแก่พี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตามค่ะ รัฐบาลจะไม่ประมาท ทางสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ จะดำเนินการติดตามและยกระดับการทำงานต่อไปอย่างเข้มงวด โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ทางท่านรองนายกฯ ภูมิธรรม จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวัง และเร่งออกมาตรการที่เด็ดขาดต่อไป ในนามรัฐบาล ดิฉันขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนมั่นใจว่าทุกหน่วยงานจะดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุด และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ทำหน้าที่นี้ด้วยความตั้งใจ เสียสละ […]

“ชัยเกษม” ลั่นหากจำเป็น พร้อมเป็นนายกฯ เพื่อชาติบ้านเมือง

27 มิ.ย. – “ชัยเกษม” ลั่นพร้อมทำเพื่อชาติ หากจำเป็นต้องทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตอนนี้แข็งแรง ไม่มีปัญหา ท่ามกลางกระแสการเมืองร้อนแรง ปมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ทำให้บุคคลที่ถูกจับตามองตอนนี้ คือ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ลำดับที่ 3 ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ อาจถูกมองว่ามีปัญหาด้านสุขภาพแต่ล่าสุด มีภาพนายชัยเกษม โชว์สวิงออกรอบตีกอล์ฟ แสดงให้เห็นถึงร่างกายที่แข็งแรง ล่าสุด เจ้าตัวได้เปิดเผยในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางช่อง 9 MCOT HD ว่า “ตอนนี้แข็งแรง เรียบร้อยหมดทุกอย่าง เพราะก้อนเลือดที่ท้ายทอย สลายไปหมดแล้ว ชีวิตก็ปกติ ไม่มีปัญหา ตอนไปพบหมอครั้งล่าสุด หมอก็บอกว่าโชคดีมหาศาลที่หายแล้ว เมื่อวานไปตีกอล์ฟได้สบายเลย ตอนนี้สุขใจ สบายใจแล้ว” เมื่อถามว่า พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายชัยเกษม ตอบว่า “ไม่จำเป็นต้องให้เป็นหรอก ถ้าเลี่ยงได้ ก็ให้คนอื่นเขาทำเถอะ ผมทำมาเยอะแล้ว แต่ถ้าจำเป็นก็ได้เพราะไม่มีอะไร แต่อย่าให้จำเป็นเลย คนอื่นก็มีเยอะแยะ […]

แม่ทัพภาคที่ 2 ปัดให้ความเห็น “ฮุนเซน” ไลฟ์พาดพิง

ทำเนียบ 27 มิ.ย.-แม่ทัพภาคที่2 ปัดให้ความเห็น “ฮุนเซน” ไลฟ์พาดพิง บอกเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องจัดการเอง ยันขอทำหน้าที่ของตนเอง ไม่เคยหวั่นไหว ชี้สถานการณ์ชายแดน ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง​ ไม่ถึงขั้นใช้อาวุธ​ ขอรอกัมพูชาตัดสินใจร่วมวงเจรจา RBC เชื่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา จบก่อนเกษียณ พลโทบุญสิน​ พาด​กลาง​ แม่ทัพ​ภาค​ที่​ 2 กล่าวถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ไลฟ์พาดพิงประเทศไทยได้รับรายงานเรื่องนี้แล้วหรือไม่ ว่า คงเป็นเรื่องของรัฐบาล แต่ตนก็ติดตามอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีและทีมงานที่ต้องไปแก้ไข ส่วนกองทัพก็ดูแลเรื่องของความมั่นคง พื้นที่ตามชายแดนเป็นหลัก​ เมื่อถามถึงสถานการณ์ชายแดนขณะนี้เป็นเช่นไร​ พลโทบุญสิน​ กล่าวว่า เราก็ตรึงกำลังอยู่ ส่วนทางกัมพูชาก็ยังไม่ได้มีการถอนกำลังออกจากพื้นที่ เพื่อรอความชัดเจนจากทั้งสองประเทศ แต่อย่างไรก็ต้องยึดตามนโยบายของผู้นำทั้ง 2 ประเทศเช่นกัน ว่าจะคุยกันอย่างไรต่อ ส่วนทหารก็ต้องทำหน้าที่ของทหารต่อไป คือการควบคุมกำกับดูแลตามแนวชายแดน ให้เป็นปกติดีที่สุด เมื่อถามว่าได้รับสัญญาณบวกจากทางกัมพูชาบ้างหรือไม่ พลโทบุญสิน​ ระบุว่า ก็ดีมีการพูดคุยกันตลอด มีสัญญาณบวกตั้งแต่การปรับกำลังที่ช่องบก​ อำเภอน้ำยืน​ จังหวัดอุบลราชธานี แต่รอการเจรจาระหว่างผู้นำ 2 ประเทศ ส่วนกรณีที่สมเด็จฮุนเซน มีการเปลี่ยนตำแหน่งเป็นเสนาธิการทหารสูงสุด […]

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย