นนทบุรี 20 ก.ย. – ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาแก๊งอุ้มทำร้ายเยาวชนอายุ 16 ปี ไปทำแผนจำลองเหตุการณ์ ด้านเยาวชนที่ถูกทำร้าย ออกจาก รพ.แล้ว
วันนี้ (20 ก.ย.) พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมผู้กำกับการ สภ.ปากเกร็ด นำตัวผู้ต้องหา 6 คน ออกจากห้องควบคุม สภ.ปากเกร็ด มาจำลองเหตุการณ์วันเกิดเหตุ หลังช่วงเช้า นายกิตติพร มือปืน และนายไพศาล ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.ปากเกร็ด วันนี้จึงนำตัวทั้งหมดมาจำลองเหตุการณ์ เริ่มตั้งแต่เยาวชนอายุ 16 ปี ถูกจี้พาตัวขึ้นรถฟอร์จูนเนอร์ สีดำ และรถมาสด้า สีเทา หลังเกิดเหตุ นายกิตติพร เป็นคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ โดยมีรถเก๋งมาสด้าขับตามหลังคอยคุ้มกัน ส่วนเยาวชนอายุ 16 ปี ที่ถูกทำร้ายปางตาย นั่งอยู่ตอนหลังรถฟอร์จูนเนอร์ มีนายแป๊ะ กับเพื่อนอีกคนนั่งประกบ จากนั้นใช้ถุงดำที่เตรียมมาคลุมหัวเยาวชนอายุ 16 ปี ทั้งหมดไปจอดรถที่ตลาดไท ก่อนนำตัวเยาวชนอายุ 16 ปี ลงจากรถฟอร์จูนเนอร์ไปยัดใส่ท้ายรถเก๋งมาสด้า และพากันไปรุมทำร้าย โดยให้กินยาวอดก้า หลังทำร้ายจนหนำใจ จึงนำร่างเหยื่อไว้บนถนนมอเตอร์เวย์
ระหว่างทำแผนฯ และควบคุมตัวอยู่ ผู้สื่อข่าวได้ถามนายกิตติพรว่า เงินที่เยาวชนอายุ 16 ปี เอาไป 3 แสนกว่าบาท เป็นเงินที่รับจ้างเปิดบัญชีม้าใช่หรือไม่ นายกิตติพร กล่าวว่า ไม่ใช่ เป็นเงินส่วนตัวของตนเองที่เยาวชนอายุ 16 ปี มายืมไปแล้วเบี้ยวไม่จ่ายคืน ทำให้ตนเกิดความโกรธแค้น จึงพาพรรคพวกมาอุ้มตัวและทำร้าย
ต่อมาทาง “สายไหมต้องรอด” ได้นำเยาวชนอายุ 16 ปี ซึ่งออกจากโรงพยาบาลแล้ว เดินทางมาที่ สภ.ปากเกร็ด โดยทางตำรวจไม่ให้ประจันหน้าหรือเจอกับกลุ่มผู้ต้องหา เนื่องจากน้องยังเป็นเยาวชน ต้องมีการสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ
หลังสอบปากคำเสร็จ ตำรวจชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าห้องขัง ระหว่างนั้น นายกิตติพร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนกับนายสุรชัย เอารถมาคนละคัน แล้วไปตามเงินต่างที่ ถ้าเกิดตนช้าหรือทำอะไรช้า ได้ขึ้นศาลาแน่นอน เพราะนนทบุรีไม่ใช่บ้านตน และนายสุรชัยไม่ได้รู้จักกับตนเป็นการส่วนตัว ในคลิปจะเห็นว่าเขาไปยืนอีกฝั่ง แต่ตนเห็นเขาชักปืนขึ้นมา จึงต้องยิงป้องกันตัวไว้ก่อน ส่วนเยาวชนอายุ 16 ปี ที่ให้เขากินวอดก้า เพื่อให้บอกว่าเงินอยู่ที่ไหน. – สำนักข่าวไทย