เร่งระบายน้ำท้ายเขื่อนลำตะคอง หวั่นท่วมซ้ำรอยปี 64

ภูมิภาค 16 ก.ย. – “พล.อ.ประยุทธ์” ตรวจน้ำท่วมระยอง ให้กำลังใจชาวบ้าน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคองเร่งระบายน้ำท้ายเขื่อน หวั่นท่วมซ้ำรอยปี 64 ขณะที่ชาวนาพิจิตรเร่งเกี่ยวข้าวหนีน้ำ ด้านผู้ว่าฯ อยุธยา ประกาศเขตพื้นที่น้ำท่วมแล้ว 6 อำเภอ


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสาธิต ปิตุเดชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดระยอง พร้อมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ถือเป็นครั้งที่ 2 ในการลงตรวจสถานการณ์น้ำท่วม ตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี โดยก่อนหน้านี้ วันที่ 2 กันยายนได้ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

สำหรับการลงพื้นที่วันนี้ พล.อ ประยุทธ์ ใช้รถยนต์ฟอจูนเนอร์ ทะเบียน กฉ 4212 ระยอง ซึ่งทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถึงศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเทศบาลตำบลทับมา อ.เมือง จ. ระยอง ได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ เจ้าหน้าโรงครัวพระราชทานมูลนิธิเพื้อนพึ่ง (ภา) ยามยาก สภากาชาดไทย ก่อนรับฟังบรรยายสรุปภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วม จาก พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือ ภ.1 ว่า การประสบภัยพื้นที่ที่ประสบภัยในครั้งนี้ที่หนักสุดคืออำเภอเมือง อำเภอแกลง และหนักที่สุดคือตำบลบ้านนา อำเภอแกลง โดยได้มีการจัดกำลังสนับสนุนจากกองทัพเรือ ทั้งนี้ ปริมาณน้ำที่มาก เนื่องจากฝนตกมากผิดปกติและต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำท่วมและกระจายไปยังตำบลข้างเคียง


พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย จิตอาสา ผู้บริจาคที่มาช่วยเหลือ นี่คือประเทศไทย ใครเดือดร้อนก็มาช่วยกันและสิ่งที่สำคัญคือความเข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งการได้รับผลกระทบก็จะแตกต่างกันมากบ้างน้อยบ้าง ดังนั้น ดีใจว่าสถานการณ์เริ่มลดลงแล้ว ขณะที่กองทัพเรือระบุว่าน้ำท่วมหนัก แต่กำลังใจของชาวบ้านดีเยี่ยม เพราะหน่วยงานราชการทุกภาคส่วน มูลนิธิ จิตอาสา เข้ามาช่วยแม้ว่าจะท่วมหนักแต่ก็มีรอยยิ้ม

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าน้ำลดได้เร็วกว่านี้จะยิ้มกว้าง แต่น้ำเป็นสะสารที่ควบคุมไม่ได้ พร้อมกันนี้ขอบคุณทุกคนและขอให้ทุกคนปลอดภัยประชาชนปลอดภัยประเทศปลอดภัย จากนั้นนายกรัฐมนตรี ขึ้นรถยกสูงเดินทางหมู่บ้านแดนใหม่ ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง ให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัย โดยได้โบกมือให้กำลังใจกับประชาชนที่ยังคงติดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ซึ่งมีชาวบ้านที่ออกมาขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนเดินทาง ไปยังศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย (โรงเรียนเทศบาลทับมา) ซึ่งเป็นศูนย์ศูนย์พักพิง ผู้ประสบภัยเยี่ยมให้กำลังใจพบปะและมอบสิ่งของให้แก่ผู้ประสบภัย ในพื้นที่

โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง จ.นครราชสีมา เร่งระบายน้ำท้ายเขื่อนลำตะคอง เพื่อผลักดันน้ำออกนอกเขตใจกลางเมืองนครราชสีมา ระยะทาง 9 กิโลเมตร ลงสู่ลำน้ำมูล เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์พายุฝนตกหนัก หลังจากเขื่อนลำตะคองมีการปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนจากเดิมวันละ 860,000 ลูกบาศก์เมตร เพิ่มเป็น 1.2 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมามีน้ำป่าจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ไหลลงเขื่อนลำตะคองกว่า 30 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นเป็น 275 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 75% ของความจุ


นายสุคนธ์ เต็มยศยิ่ง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง กล่าวว่า ต้องเฝ้าดูสถานการณ์น้ำเขื่อนลำตะคองอย่างใกล้ชิด ประเมินเป็นรายชั่วโมง เนื่องจากขณะนี้มีมวลน้ำไหลลงเขื่อนเพิ่มมากขึ้น จึงต้องเร่งผลักดันการระบายน้ำให้น้ำไหลผ่านเขตตัวเมืองพื้นที่เศรษฐกิจชั้นในโดยเร็วที่สุด มีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเป็นระยะ ๆ เพื่อป้องกันเกิดสถานการณ์น้ำท่วมซ้ำรอยเมื่อปีที่แล้ว

ขณะที่สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะในพื้นที่แม่น้ำยม ซึ่งไหลผ่านพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดพิจิตร คือ อำเภอสามง่าม อำเภอโพธิ์ประทับช้าง อำเภอบึงนาราง และอำเภอโพทะเล ระดับน้ำยังสูง โดยล่าสุดระดับในแม่น้ำยมอยู่ที่ 5.28 เมตร แม้ว่าจะยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่เพียง 1 เมตร แต่ยังคงล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนบางจุดตามริมฝั่งของแม่น้ำยมในเขตอำเภอสามง่ามต้องถูกน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วม 3 ตำบล เกือบ 100 หลังคาเรือน ขณะที่ชาวนาในพื้นที่ตำบลสามง่าม อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำต่างนำรถเกี่ยวข้าวเร่งทำการเก็บเกี่ยวข้าว หลังน้ำแม่น้ำยมตอนบนที่ไหลจากจังหวัดสุโขทัย และ จังหวัดพิษณุโลก ไหลเข้าสู่พื้นที่จังหวัดพิจิตร และมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ชาวนาในพื้นที่ ซึ่งเป็นลุ่มต่ำมักจะเกิดน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี จึงเร่งเก็บเกี่ยว เพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำในแม่น้ำยม

นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ แล้ว จำนวน 6 อำเภอ 82 ตำบล 475 หมู่บ้าน รวมทั้งให้ความช่วยเหลือประชาชนแล้ว โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำสูบน้ำออกจากพื้นที่การเกษตร ให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ รวมกว่า 50 เครื่อง สูบน้ำสะสม 28 วัน ปริมาณน้ำสะสม 7,600,000 ลบ.ม. และจัดตั้งผนังกั้นน้ำและวางกระสอบทรายในเขตพระราชฐาน โบราณสถาน และพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ แจกจ่ายถุงยังชีพให้พี่น้องประชาชน รวมทั้งสิ้น 7,148 ชุด ทั้งนี้ มีประชาชนได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือน รวม 22,323 ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตร 3,418 ไร่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย