มหาสารคาม 11 ก.ย. – นัดคุยเรื่องสินสอด ชาย 63 ปี กับสาววัย 39 ปี สุดท้ายพบเป็นศพทั้งคู่ที่กระท่อมกลางทุ่งนา อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม
ตำรวจ สภ.กุดรัง จ.มหาสารคาม รับแจ้งเหตุมีคนฆ่ากันเสียชีวิตที่กระท่อมกลางทุ่งนา บ้านปอแดง ต.เลิงแฝก อ.กุดรัง จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกู้ภัยประจิมบรบือ แพทย์เวร รพ.กุดรัง พบศพนายทองไสย์ สุปัด อายุ 63 ปี เสียชีวิตนอนหงายบนแคร่ไม้ไผ่ สวมเสื้อสีดำ กางเกงลายทหาร ไม่สวมรองเท้า มีรอยกระสุนปืนที่ใต้ราวนมด้านซ้าย โดยมีปืนแก๊ปวางอยู่บนแคร่และมีดปลายแหลม ด้ามหักและกุญแจรถ ห่างออกไปประมาณ 3 เมตร บริเวณคันนาพบศพนางกฤษณา พัดกูล อายุ 39 ปี สวมเสื้อสีน้ำตาล กางเกงยีน ไม่สวมรองเท้า เสียชีวิตนอนหงายอยู่พื้นดิน ศีรษะจมน้ำ มีรอยมีดแทงที่อกขวา ที่คอมีรอยช้ำ แพทย์เวร รพ.กุดรัง ชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นลงความเห็นว่า ผู้ตายเสียชีวิตจากการโดนบีบคอ และจับกดน้ำ ขาดอากาศหายใจ ญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย จึงได้มอบศพทั้ง 2 ราย ให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนา
นางพรพิมล สมนาม พี่สาวนางกฤษณา เล่าว่า นายทองไสย์กับน้องสาว คบกันมาประมาณ 1 ปีแล้ว ซึ่งน้องสาวทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งในจ.ขอนแก่น วันนี้ได้ขับรถเก๋งกลับมาบ้าน เนื่องจากนายทองไสย์ได้นัดมาที่บ้าน มาคุยกันเรื่องงานหมั้นงานแต่งงาน โดยมีค่าสินสอดเงิน 1 แสนบาท ทองอีก 1 บาท ก่อนถึงเวลานัด นายทองไสย์ ได้ขี่จักรยานยนต์มารับนางกฤษณา ออกจากบ้าน เพื่อจะคุยกัน 2 คน ที่กระท่อมนา หลังหายไปนานกว่าชั่วโมง มีผู้ใหญ่บ้านมาบอกว่านายทองไสย์ กับ นางกฤษณา เสียชีวิตแล้วที่กระท่อมนา จึงรีบออกมาดู ก็มาพบสภาพเป็นศพดังกล่าว ซึ่งไม่ทราบว่าทั้งคู่ทะเลาะอะไรกันหรือไม่
นายสุริยา สุปัด ลูกชายของนายทองไสย์ เป็นคนพบศพคนแรก เล่าว่า ออกมาตามหาพ่อ เอะใจเนื่องจากหายไปนานแล้ว เมื่อมาถึงก็พบว่าพ่อเสียชีวิตบนแคร่ไม้แล้ว จึงไปบอกผู้ใหญ่บ้าน ให้ช่วยประสานเจ้าหน้าที่ให้ออกมากตรวจสอบ นายสุริยา ยังเล่าอีกว่า แม่ของตนซึ่งเป็นภรรยาของนายทองไสย์ได้เสียชีวิตแล้ว ก่อนที่พ่อจะมาคบกับนางกฤษณา วันนี้พ่อได้มาขอสาว ก็ได้พูดเป็นลางๆว่า “สูพากันเบิ่งนา เบิ่งเฮือนเด้อ” ซึ่งพ่อก็ไม่เคยเล่าปัญหาใดๆ ให้ฟังเลยเลย จนมาพบเป็นศพแล้ว .-สำนักข่าวไทย