ราชบุรี 9 ก.ย. – คุณตาวัย 81 ปี ที่จังหวัดราชบุรี ย้อนอดีตวันวานกับของเล่นในวัยเด็ก ที่นับวันจะหาดูได้ยาก ด้วยการทำขึ้นเอง มีทั้ง ซออู้ ซอด้วง รูปทรงลักษณะที่คล้าย ๆ กัน
คุณตารุ่ง มีทรง อายุ 81 ปี ชาวบ้านเขาน้อย หมู่ 6 ต.ธรรมเสน อ.โพธราม จ.ราชบุรี ผู้มีพรสวรรค์ผู้สืบทอดตำนานแห่งกังหันลมบ้านเขาน้อย และใจรักเสียงดนตรีมาแต่วัยเด็กและเติบโตในวัยหนุ่ม อาศัยครูพักลักจำดูญาติ และเพื่อนเล่นดนตรีตามวงมโหรีที่มีการจ้างไปแสดงตามงานมงคลต่าง ๆ จึงคิดหาอุปกรณ์มาลองประดิษฐ์ทำดูด้วยตัวเองหลายอย่าง เช่น ซออู้ ซอด้วง รูปทรงลักษณะที่คล้าย ๆ กัน แต่เมื่อทดลองใช้มือจับคันชักเป็นเชือกแล้วสีซอจะมีเสียงดังที่แหลมกังวานไม่เหมือนกัน โดยซออู้จะใช้กะลาลูกค่อนข้างใหญ่ได้รูปขัดเกลาให้เกลี้ยงและไม้ไผ่ เวลาสีซอจะมีเสียงดังอู้ไม่แหลมคม โดยใช้ไม้ในท้องถิ่นนำมาเหลาให้เข้ารูปทรง มีเชือกผูกมัดด้านข้าง จึงได้เครื่องเล่นดนตรีโบราณสมใจ เกิดเสียงไพเราะ แต่ต้องฝึกฝนการสีซอยาวนานเป็นปี กว่าจะสีซอให้เป็นจังหวะเสียงเพลงที่ไพเราะได้ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายกับการเล่นเครื่องดนตรีโบราณ จำเป็นต้องอาศัยทักษะความชำนาญเฉพาะ
นอกจากนี้ยังทำกระสุนคล้ายคันธนูจากไม้ไผ่ ผ่าไม้แล้วใช้มีดเหลาให้เข้ารูปทรง ตรงกลางมีไม้อีกชิ้นคล้ายรูปนกอยู่ตรงกลาง มีผ้าสีแดงผูกยึดไว้ มีไม้ชิ้นเล็กผูกหัวท้ายกระสุน ตรงกลางได้ถักเชือกเป็นตาข่ายไว้ใส่ลูกกระสุน ซึ่งจะทำด้วยดินเหนียวนำตากแดดให้แห้งแล้วนำมายิงเล่น ส่วนกังหันไม้ไผ่ใช้ไม้ไผ่ยาวเหลาให้เข้ารูป แล้วเจาะรูตรงกลางเพื่อนำท่อนไม้เล็กๆ ฝังไว้ตรงกลางเมื่อเหลาเสร็จแล้วก็นำขึ้นไปไว้บนเสาสูง พอเวลาลมพัดแรง ๆ จะเกิดเสียงดัง นอกจากนี้ยังมีลูกเจ๊ว หรือลูกข่าง ที่จะใช้ไม้คางซึ่งเป็นไม้ค่อนข้างเนื้อนิ่มสีขาวนวล มาตัดเป็นท่อนใช้มีดค่อย ๆ เหลาให้เป็นรูปร่างกลม มีหัวจุกอยู่ด้านบน เสร็จแล้วจึงใช้ตะปูตัวใหญ่ตอกลงไปที่ตรงกลางแล้วใช้เลื่อยตัดหัวตะปูออก
จากนั้นใช้มือทดลองปั่นหมุนดูก่อน เมื่อได้แล้วจึงใช้เชือกผูกวนหมุนให้รอบตัวตะปูจนหมด มีเชือกผูกปรายติดกับฝาขวดน้ำอัดลมยึดติดไว้ โดยสอดเข้าระหว่างนิ้วขวาหรือซ้ายพร้อมปล่อยเชือกหมุนรอบลูกข่างแล้วขว้างไปข้างหน้า ก็จะทำให้ลูกข่างหมุนติ้วปักลงไปที่ผืนดิน ถือเป็นของเล่นที่สนุกสนานยามวัยเด็กสมัยก่อนที่ทำเองได้ ชอบทำเครื่องเล่นดนตรี และของเล่นมานานแล้ว สมัยเรียนชั้นประถมศึกษาชอบยิงยางหนังสติ๊ก ทำง่าม ส่วนกังหันใช้ไม้ไผ่ทำ ถ้ามีลมพัดแรงจะมีเสียงดังดี จะเหลาให้แบนแล้วเจาะรูตรงกลางตามรูปแบบความคิด บางทีหลาน ๆ มาเที่ยวอยากได้แคน ก็ให้ไปเอาดอกไม้ ธูป เทียนมายกครูจะได้บอกครูอาจารย์สอนให้ แต่ไม่กี่วันก็ไม่มีใครมากัน อย่างของที่ทำนี้สมัยก่อนจะมีตัวอย่างให้ดูจากของผู้เป็นอา จึงลองดูตัวอย่างก็เลยทำเองได้ มันก็มีเสียงดังเหมือนกัน ตอนนั้นอาไปรับงานได้มีโอกาสไปเล่นกับเขาด้วย หัดไปเรื่อย ๆ จนเป็น ต่อมาได้ทดลองทำแคนเป็นอีกอย่างหนึ่ง โดยที่นี่เป็นหมู่บ้านกลองยาวตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว มีชื่อเสียงโด่งดังมาก สมัยนั้นรับงานมโหรีได้ค่าตัวครั้งละ 6 สลึง หรือ 1 บาท 50 สตางค์ สมัยเป็นหนุ่ม ๆ ต่อมาก็ขึ้นมาเป็นครั้งราคา 3 บาท ส่วนการเล่นแคนที่รับเริ่มแรกได้ค่าแรงครั้งละ 300 บาท สมัยปัจจุบันช่วงที่ยังเล่นไหวจะได้เงินค่าตัวครั้งละ 600 บาท หากว่างจ้างช่วงนี้อีกอาจจะเดินไม่ไหวแล้ว แต่ถ้านั่งอยู่บนรถแล้วเป่าแคนก็ยังพอรับไหว ตอนนี้อายุมากแล้ว แต่ถ้าใครสนใจอยากเรียนยินดีสอนให้ อย่างกังหันเราจะได้รู้ทิศทางของลมในช่วงหน้าเล่นว่าว ลมแรง ลมอ่อนอย่างไรก็ถูกที่กังหัน และกระสุนยิงที่ใช้ดินปั้น มีไม้ไผ่ยาวคล้ายคันธนู คงแทบไม่มีให้พบเห็นแล้วในปัจจุบัน เพราะจะมีวิธีการทำ การเหลาไม้ที่ค่อนข้างยาก คงมีแต่ตนเองที่ยังชอบสิ่งเหล่านี้อยู่ ด้วยความที่ไม่อยากอยู่บ้านเฉย ๆ อยู่กับของเล่นที่ชอบแล้วรู้สึกมีความสุขมาก. -สำนักข่าวไทย