วิสามัญหนุ่มคลั่งบุกโรงพักจุดประทัด-ทำร้ายตำรวจ

อุบลราชธานี 8 ก.ย. – ตำรวจวิสามัญฯ หนุ่มคลั่งบุก สภ.น้ำยืน จุดประทัดลูกบอล ทำร้ายเจ้าหน้าที่ และไล่ทุบรถของชาวบ้านเสียหาย ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ยิงสกัดและเสียชีวิตในเวลาต่อมา


ตำรวจ สภ.น้ำยืน พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.อุบลราชธานี ร่วมกันตรวจที่เกิดเหตุด้านหน้า สภ.น้ำยืน หลังนายปัทวิน อายุ 32 ปี บุกเข้าไปจุดประทัดลูกบอลใส่ตำรวจในโรงพัก และไล่ทุบรถยนต์ รถจักรยานยนต์ของประชาชนได้รับความเสียหาย ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ยิงสกัดและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

เหตุการณ์นี้สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ (7 ก.ย.) นายปัทวิน ได้ขับรถเก๋งเข้ามาจอดที่ลานเสาธงหน้า สภ.น้ำยืน ก่อนลงจากรถแล้วจุดประทัดลูกบอล 4 ลูก ปาเข้าใส่อาคาร เสียงดังสนั่น พร้อมกับร้องโวยวายเสียงดัง ตำรวจที่อยู่ใกล้เคียงจึงเข้าเจรจาให้สงบสติอารมณ์ แต่ไม่เป็นผล นายปัทวิน กลับไปหยิบเอาท่อนเหล็กคล้ายไม้เบสบอล ความยาวประมาณ 50 ซม. ไล่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ จนต้องวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง ก่อนวิ่งไปทุบรถจักรยานยนต์ รถเก๋ง และรถยนต์ตราโล่ของทางราชการ เสียหายรวม 4 คัน จากนั้น นายปัทวิน ก็ยังไม่หยุด วิ่งขึ้นไปทุบประตูทางเข้าหน้าโรงพักเสียหายอีก


พ.ต.ท.วุฒิกร ยืนสุข รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม พยายามเข้าเจรจาให้นายปัทวิน สงบสติอีกครั้ง แต่นายปัทวิน กลับถือไม้เบสบอลวิ่งเข้าหา พ.ต.ท.วุฒิกร จนเสียหลักล้ม จึงได้ชักปืนยิงเข้าที่ต้นขานายปัทวิน 1 นัด แต่นายปัทวิน ยังไม่ยอมหยุด และถือท่อนเหล็กเข้าหาจะทำร้ายอีกครั้ง ด.ต.สุทัศน์ ศิลาชัย ปฏิบัติงานธุรการ จึงใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม. ยิงไปที่ต้นขานายปัทวิน อีก 1 นัด แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งนายปัทวินได้ จนเกิดการปลุกปล้ำกัน และมีเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด กระสุนเข้าที่ท้องของนายปัทวิน จนฟุบลงหมดสติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าปฐมพยาบาล และเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายนายปัทวิน เสียชีวิตในเวลาต่อมา

พ่อของนายปัทวิน ให้ข้อมูลว่า นายปัทวินไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ลูกชายเคยมีพฤติการณ์ชอบทำร้าย ทุบทำลายข้าวของ จนต้องเข้ารับการรักษา โดยหลังจากรักษาหายแล้ว ได้ไปทำงานที่ จ.ระยอง ประมาณ 6 ปี และเพิ่งลาออกจากงานมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านได้ประมาณ 3 สัปดาห์ โดยไม่ทราบสาเหตุของการก่อเหตุที่แน่ชัด แต่อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำเกินกว่าเหตุ เพราะลูกชายไม่มีอาวุธปืนหรือมีด มีเพียงไม้เบสบอลและประทัดลูกบอลเท่านั้น

ด้าน พล.ต.ต.สถาพร เอมโอษฐ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะนอกจากนายปัทวินที่เสียชีวิตแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บอีก 2 นาย ซึ่งกำลังไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนร่างของนายปัทวิน เจ้าหน้าที่นำส่งแผนกนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยจีนส่งผู้ช่วย รมต.มั่นคง ร่วมสางปม​แก๊งคอลเซ็นเตอร์

นายก​รัฐมนตรี​ รับทราบ​ จีน​ ส่งผู้ช่วยรัฐ​มนตรี​กระทรวงความมั่นคง​ ร่วมสางปมแก๊ง​คอลเซ็นเตอร์​ ชายแดนไทย-เมียนมา​ บอก​ อยู่ระหว่างดำเนินการ​ ส่งตัวเจ้าพ่อพนันออนไลน์​กลับประเทศ

จำคุกกำนันนตลอดชีวิต

ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต “กำนันนก” คดีสั่งยิง ตร.ทางหลวง

ศาลอาญาพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต “กำนันนก” สั่งยิงสารวัตรทางหลวงเสียชีวิต ชี้มีหลักฐานและพยานยืนยันชัดเจน

เครื่องบินชน ฮ.

เครื่องบินอเมริกันแอร์ไลน์ ชนเฮลิคอปเตอร์ ใกล้สนามบินในกรุงวอชิงตัน

เครื่องบินโดยสารในระดับภูมิภาคของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ ชนกลางอากาศกับเฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอว์ค ของกองทัพสหรัฐ

อุตุฯ เผย กทม.อากาศเย็นในตอนเช้า-ไทยตอนบนหนาวเย็น

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า