ปัตตานี 2 ก.ย.- กอ.รมน.ภาค 4 สน. ชี้แจงการบรรจุช่วยราชการ ส.ต.ท.หญิง ถูกต้องตามขั้นตอน ส่วนการสั่งยกเลิกบรรจุ และเรียกคืนค่าตอบแทนตามสิทธิกำลังพลที่ได้รับไปแล้วกว่า 100,000 บาท เนื่องจากถูกแจ้งข้อกล่าวหาในคดีอาญา ซึ่งถือเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน. ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการบรรจุ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ช่วยราชการฯ ตรวจสอบแล้วพบว่าได้รับการบรรจุช่วยราชการที่หน่วย สขว.กอ.รมน.ภาค 4 สน. ตั้งแต่ 1 ต.ค.64 ซึ่งการเข้ามาบรรจุเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้องทุกประการ คือมีอัตราว่างให้สามารถบรรจุได้ทั้งพลเรือน ตำรวจ และทหาร (อัตรา พตท.) การมาบรรจุเป็นไปตามความประสงค์ของเจ้าตัวที่สมัครใจมาช่วยราชการฯ ซึ่งหน่วยได้ตรวจสอบประวัติการรับราชการแล้ว ไม่พบคุณสมบัติที่ขัดกับระเบียบและหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ตลอดจนได้รับความเห็นชอบจากหน่วยต้นสังกัดปกติเรียบร้อย จึงทำการขอตัวมาบรรจุช่วยราชการตั้งแต่ 1 ต.ค.64-30 ก.ย.65 โดยได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ประสานการปฏิบัติด้านธุรการในระดับเจ้าหน้าที่ และอำนวยความสะดวกแก่ผู้แทนหน่วยในการปฏิบัติงานนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ที่เกี่ยวข้องกับ กอ.รมน.ภาค 4 สน.
อย่างไรก็ตาม ภายหลังทราบข่าวว่าถูกแจ้งข้อกล่าวหาในคดีอาญา มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที พบว่า “เป็นการกระทำความผิดส่วนบุคคล โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภารกิจของ กอ.รมน.ภาค 4 สน.” แต่ด้วยการกระทำดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่ขัดระเบียบและหลักเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ เพื่อควบคุมด้านวินัยกำลังพลที่บรรจุช่วยราชการ โดยได้ละเมิดข้อห้ามเด็ดขาด ประกอบกับเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญา จึงส่งตัวกลับหน่วยต้นสังกัดปกติตั้งแต่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งให้ยกเลิกการบรรจุช่วยราชการ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ตั้งแต่ 1ต.ค.64 พร้อมให้เรียกคืนค่าตอบแทนตามสิทธิกำลังพลที่ได้รับไปแล้วตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ ทั้งค่าเบี้ยเลี้ยง, ค่าตอบแทนพิเศษรายเดือน และค่าเลี้ยงดูเพิ่มเติม รวม 109,910 บาท เพื่อส่งคืนให้ทางราชการต่อไป
โดยสรุป ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บรรจุช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ถูกต้องตามขั้นตอนและผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเรียบร้อย จึงทำให้ได้รับสิทธิกำลังพลตามระเบียบที่ได้กำหนดไว้ “มิใช่ได้ตรวจสอบคุณสมบัติแล้วไม่ผ่าน แต่ยังได้รับค่าตอบแทน” สำหรับการสั่งยกเลิกบรรจุและเรียกคืนสิทธิกำลังพลที่ได้รับไปแล้วนั้นมีสาเหตุมาจากการถูกแจ้งข้อกล่าวหาในคดีอาญา ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ขัดกับระเบียบและหลักเกณฑ์ของ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ถือเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง “มิใช่เพราะถูกต้นสังกัดสั่งให้ออกจากราชการ”.-สำนักข่าวไทย