เร่งป้องกันเกาะเมืองอยุธยา หลังระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงต่อเนื่อง

ภูมิภาค 1 ก.ย.- กรมชลฯ เตือน 11 จังหวัด เฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากจะเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่ 4 ก.ย. ซึ่งจะทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนระดับน้ำสูงขึ้น 40-50 ซม. ตั้งแต่ 5 ก.ย.นี้ ขณะที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ยกผนังกั้นน้ำป้องกันน้ำเข้าเกาะเมืองท่วมพื้นที่เศรษฐกิจและโบราณสถานสำคัญ


เตือน 11 จังหวัดเฝ้าระวังระดับน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น 40-50 ซม.

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา 11 จังหวัด อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ลพบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพราะกรมชลประทานจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จ. ชัยนาท เพิ่ม เนื่องจากน้ำเหนือไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น


กรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่า จะมีฝนตกหนักบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 3-8 ก.ย.2565 ซึ่งกรมชลประทานจะเริ่มปรับเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2565 ในอัตรา 1,800-2,000 ลบ.ม./วินาที จะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้น บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ได้แก่ ที่คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน ระดับน้ำบริเวณพื้นที่ดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน 40-50 เซนติเมตรในช่วงวันที่ 5-6 กันยายน

เรือหวิดชนใต้สะพานหลังระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูง

และจากระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาใน อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เรือบรรทุกสินค้าที่แล่นทวนน้ำขึ้นไปยังท่าเรือขนถ่ายสินค้าในพื้นที่ จ.อ่างทอง ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือลอดสะพาน จนทำให้หวิดชนกับใต้สะพานที่มีระยะห่างเพียงเล็กน้อย ซึ่งทางผู้เดินเรือต้องใช้ความชำนาญในการบังคับเรือโยงและใช้เรือโต่งด้านท้าย รวมถึงกำหนดร่องน้ำอย่างแม่นยำ และหากระดับน้ำเพิ่มสูงมากกว่านี้ก็อาจจะไม่สามารถลอดสะพานขึ้นไปยังท่าเรือได้ จนอาจจะต้องหยุดวิ่ง นอกจากนี้ ทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคอยุธยายังประกาศห้ามเดินเรือในช่วงกลางคืน เนื่องจากหวั่นจะเกิดอุบัติเหตุ หลังน้ำไหลแรงและเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว


“พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่เมืองแปดริ้ว ตรวจสถานการณ์น้ำ

เช้านี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำบางปะกง โดยจุดแรก พล.อ.ประวิตร ตรวจเยี่ยมสถานีผลิตน้ำประปาฉะเชิงเทรา ต.วังตะเคียน โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบนำเสนอการจัดการสถานการณ์น้ำ การลงพื้นที่ในครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งดำเนินการตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่กระทบพื้นที่ท้ายน้ำ นอกจากดูการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่แล้ว พล.อ.ประวิตร จะพบปะชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) แห่งประเทศไทยประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา และในช่วงบ่ายจะเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ เพื่อเป็นประธานในการเปิดการสัมนาและปาฐกถาในหัวข้อ แนวทางส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งจัดโดยคณะกรรมาธิการ การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชนวุฒิสภา และก่อนเดินทางกลับจะเข้าสักการะพระพุทธโสธร และถวายสังฆทานแด่เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหารด้วย

เร่งป้องกันน้ำท่วมเกาะเมือง จ.พระนครศรีอยุธยา

ที่พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ และกำลังทหาร ยกผนังกั้นน้ำป้องกันน้ำเข้าเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ที่บริเวณหน้าเจดีย์พระศรีสุริโยทัย ความสูง 1.50 เมตร ตลอดความยาว 315 เมตร เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพื่อรักษาพื้นที่เกาะเมืองไม่ให้น้ำล้นตลิ่งเข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจและโบราณสถานสำคัญ

ส่วนที่ไม่สามารถยกผนังกั้นน้ำ ทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาจะสร้างคันดิน สูง 1.30 เมตร โดยขณะนี้ระดับน้ำอยู่ต่ำกว่าตลิ่ง 60 ซม. เทศบาลสั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง รวมถึงเตรียมเครื่องสูบน้ำที่สามารถดำเนินการติดตั้งได้ทันที หากน้ำทะลักเข้าท่วม นอกจากนี้ ทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับพระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดศาลาปูนวรวิหาร จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (อุทกภัย) เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา วัดศาลาปูนวรวิหาร ขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมด้วย

สำหรับเขตรับผิดชอบเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 455 หลังคาเรือน เทศบาลฯ จะเร่งดำเนินการช่วยเหลือโดยด่วน พร้อมเตรียมแจกจ่ายเรือและสะพานไม้ให้ประชาชนที่ได้เดือดร้อน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก