ล่าแก๊งโจ๋ไล่ฟันคนขับกระบะ เจอคนจริงซิ่งชน 2 โจ๋เจ็บสาหัส

นครพนม 28 ส.ค. – ตำรวจเร่งขยายผลเอาผิดแก๊งโจ๋ป่วนเมือง อุกอาจขี่ จยย.ไล่ฟัน ปาระเบิดปิงปองใส่คู่อริ แต่กลับเจอหนุ่มขับกระบะที่ถูกตามล่าพุ่งชน 2 โจ๋เจ็บสาหัส


กรณีเกิดอุบัติเหตุรถกระบะสีขาวเสียหลักพุ่งชนบ้านเรือนชาวบ้านริมถนน ในหมู่บ้าน บ.หัวโพน ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม พร้อมชนจักรยานยนต์สีดำเสียหายทั้งคัน ทำให้เยาวชนอายุ 17-18 ปี 2 คน บาดเจ็บ ส่วนวัยรุ่นอีกคนที่ซ้อนท้ายจักรยานยนต์วิ่งหลบหนีไป

คนขับกระบะคือ นายมลเทียน และนายปอน หลานชาย อายุ 19 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บหลักฐาน เจอหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งระเบิดขวด ระเบิดปิงปอง มีดดายหญ้า ซามูไร และมีดสปาต้า ของกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้ก่อเหตุ


ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พูดคุยกับคนขับกระบะ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา หลานชาย ชื่อนายปอน ขี่จักรยานยนต์ออกมาจากที่ทำงานในตัวเมืองนครพนม เมื่อขี่รถมาถึงบริเวณโค้งวิทยาลัยเทคนิคนครพนม ก่อนถึงบ้าน 1 กิโลเมตร เจอวัยรุ่นขี่จักรยานยนต์รวมกลุ่ม 10 คัน ประมาณ 20 คน พยายามขี่รถติดตามหาเรื่อง ใช้มีดไล่ฟัน โดยไม่ทราบสาเหตุ โชคดีหนีเอาตัวรอดกลับบ้านได้ แต่หลานชายคาใจ เพราะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จึงชวนตนขับกระบะออกไปเคลียร์ เจอกลุ่มวัยรุ่นอยู่บริเวณทางเข้าบ้านหัวโพน ขณะกำลังลงรถไปถามกลุ่มวัยรุ่นกลับพยายามใช้อาวุธไล่ฟัน ปาระเบิดปิงปอง ระเบิดขวดใส่ โชคดีวิ่งหนีขึ้นรถยนต์ได้ทัน แต่กลุ่มวัยรุ่นยังไม่หยุด ขี่จักรยานยนต์ 3 คัน ไล่ตามมา กระทั่งเข้าหมู่บ้าน จนสุดท้ายมีรถจักรยานยนต์อีกคันขับมาจอดขวาง ตนหักหลบไม่ทันจึงพุ่งชนจักรยานยนต์ 1 คัน ของวัยรุ่น และรถยังไถลไปชนบ้านเรือนชาวบ้านข้างทางพังเสียหาย

ด้าน พ.ต.อ.ณัฏฐวิชฌ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ จากการสอบปากคำเจ้าของรถกระบะและหลานชาย อ้างว่าไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ อยู่ระหว่างเร่งสอบสวนดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมายทั้ง 2 ฝ่าย และจากการสืบสวนพบว่าก่อนหน้านี้กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวเคยก่อเหตุไล่ฟันวัยรุ่นที่ขี่จักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บ บริเวณร้านข้าวปุ้นตาหมาย เมื่อเดือนที่แล้ว และกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย และจะเตรียมประชุมเพิ่มมาตรการการออกตรวจตราพื้นที่ และกวดขันไม่ให้มีการรวมกลุ่มของวัยรุ่นมามั่วสุมรวมตัวขี่จักรยานยนต์ป่วนเมืองอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันการก่อเหตุอุกอาจในพื้นที่ซ้ำอีก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก