แจ้ง 5 ข้อหาหนัก ลูกเจ้าของแพเขื่อนกระเสียว

สุพรรณบุรี 22 ส.ค. – ตำรวจแจ้ง 5 ข้อหาหนัก ลูกชายเจ้าของแพเขื่อนกระเสียวทะเลาะแย่งลูกค้า พ่อเคลียร์จบ แต่ลูกชายไม่จบ ชักปืนลั่นไกถล่มกลางวง กระสุนถูกคู่กรณีเจ็บ 2 นักท่องเที่ยวถูกลูกหลงเสียชีวิต 1 สาหัส 1 คน เตรียมคุมตัวทำแผนฯ บ่ายนี้


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวาน มีประชาชนนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปพักผ่อนบริเวณหาดทรายท้ายเขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี โดยได้มีการเช่าแพจากผู้ประกอบการฯ ที่มาให้บริการเรียงรายอยู่ริมเขื่อน แต่ผู้ประกอบการให้เช่า 2 ราย คือ แพจูเนียร์ กับแพตี๋ กลับก่อเหตุทะเลาะวิวาทแย่งลูกค้ากัน จากนั้นมีคนกลางมาไกล่เกลี่ยปัญหาให้ จนทั้ง 2 ฝ่ายจบเรื่อง แต่จู่ ๆ ลูกชายเจ้าของแพจูเนียร์ คือ นายจักรกฤษ อายุ 29 ปี ชักปืนออกมาไล่ยิงอีกฝ่าย ทำให้นักท่องเที่ยวถูกลูกหลงเสียชีวิต 1 คน และเจ็บอีก 3 คน

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่านายจักรกฤษ เดินมาไม่ได้พูดอะไร ก่อนชักปืนลูกโม่ขนาด .357 ยิงใส่อีกฝ่าย และวิ่งไล่ยิงไปเรื่อย ๆ จนกระสุนพลาดไปโดนนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 1 คน ทราบชื่อนายกอบชัย อายุ 24 ปี ชาว จ.อุทัยธานี ขณะนั่งเล่นเกมส์ในซุ้มแคร่ไม้ไผ่ โดยกระสุนเข้าที่อกซ้ายทะลุหลัง และมีผู้บาดเจ็บอีก 3 คน คือ นายงาม คนของแพตี๋ ถูกยิงที่ท้องด้านซ้าย และต้นขาขวา นายนิคม คนของแพตี๋ ถูกยิงใกล้ชายโครงซ้าย และนายวงศ์สุวรรณ นักท่องเที่ยว ถูกยิงที่ชายโครงขวา หลังก่อเหตุนายจักรกฤษ หลบหนีไป


สภ.ด่านช้างได้ออกติดตาม และพบว่าผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านกำลังจะพาไปมอบตัวที่โรงพัก เบื้องต้นเหตุเกิดจากปัญหาทางธุรกิจ เพราะทั้งคู่ทำแพให้นักท่องเที่ยวเช่า และเคยมีปัญหากันมาก่อนหน้านี้ วันเกิดเหตุมีแพลอยข้ามเขตกัน จึงมีคนกลางไปช่วยคุย แต่หลังจากคุยเสร็จ ผู้ก่อเหตุมาทีหลัง ไม่พูดอะไรก็ชักปืนยิ่งใส่จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุได้ยกมือไหว้ขอโทษลูกค้าที่ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิต

ด้าน น.ส.ขวัญ เพื่อนผู้ตาย เล่าว่า มาเที่ยว 8 คน จาก จ.อุทัยธานี ก่อนเกิดเหตุกำลังจะไปลงเแพ แต่ผู้ตายไม่ไปจะนั่งเล่นเกมส์ในซุ้ม ตอนกำลังขึ้นแพได้ยินเสียงคนทะเลาะกันข้างแพ แต่ไม่รู้เรื่องอะไร จากนั้นได้ยินเสียงปืน ก็เลยหันไปดู เห็นวิ่งไล่ยิงกันจากนั้นเพื่อนของตนก็ล้มลง

ตำรวจแจ้ง 5 ข้อหาหนัก ประกอบด้วย ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่า ครอบครองอาวุธปืน พกพาอาวุธปืน และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างเตรียมคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุช่วงบ่ายวันนี้ ก่อนจะนำตัวมาสอบปากคำเพิ่ม และขอศาลจังหวัดสุพรรณบุรีฝากขังพรุ่งนี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”