ตาก 18 ส.ค. – ตำรวจ สภ.วังเจ้า จ.ตาก รวบ 2 พระปลอม เดินเรี่ยไรเงินชาวบ้านในตลาดสดเป็นประจำทุกสัปดาห์ ขอตรวจสุจิบัตรพระสงฆ์ ใบอนุญาตเรี่ยไรก็ไม่มี ให้การวกไปวนมา ที่สุดรับสารภาพไม่ได้บวชเป็นพระ แต่บวชแค่สามเณร
ตำรวจ สภ.วังเจ้า อ.วังเจ้า จ.ตาก รับแจ้งว่ามีบุคคลกลุ่มหนึ่งแต่งตัวคล้ายพระสงฆ์ เดินเรี่ยไร รับบริจาคเงินกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชน ที่มาจับจ่ายซื้อของที่ตลาด มาเป็นประจำทุกสัปดาห์ หากไม่ร่วมทำบุญก็ทำท่าทีไม่พอใจ ตำรวจจึงไปตรวจสอบ พบกลุ่มคนแต่งตัวเป็นพระสงฆ์เดินเรี่ยไรอยู่กลางตลาดนัด เจ้าหน้าที่จึงขอเข้าตรวจค้น แต่ผู้หญิง 2-3 คนไหวตัวทัน รีบเดินหลบหายไปกับกลุ่มของชาวบ้านที่กำลังเดินซื้อ
ตำรวจจึงเชิญตัวชาย 2 คน แต่งตัวเป็นพระภิกษุ มาสอบถาม บริเวณจุดตรวจ สภ.วังเจ้า และขอตรวจค้นสัมภาระเบื้องต้น พบก้านไม้เสียบเงินกว่า 100 อัน และธนบัตรจำนวนหนึ่ง พร้อมขอตรวจค้นสุจิบัตรพระสงฆ์ ซึ่งชายที่แต่งตัวเป็นพระสงฆ์อ้างว่า ไม่มี ต่อมาตำรวจขอดูบัตรประจำตัวประชาชนก็ตอบว่าไม่มี ตำรวจขอดูใบอนุญาตเรี่ยไร ทั้งสองคนก็ตอบว่าไม่มี มีเพียงใบรับรองขอเรี่ยไรที่ออกโดยวัดแห่งหนึ่งใน อ.วังทอง จ.พิษณุโลก แต่เมื่อเจ้าหน้าที่โทรติดต่อตามเบอร์โทรที่ระบุก็ไม่สามารถติดต่อได้
จากการตรวจสอบและสอบปากคำทั้ง 2 คน ให้การวกไปวนมา ในที่สุดก็รับสารภาพว่าไม่ได้บวชเป็นพระสงฆ์ แต่บวชเป็นเพียงสามเณร ทำพฤติกรรมแบบนี้มานานหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยถูกจับ ออกเรี่ยไรแต่ละครั้งจะได้เงินไม่ต่ำกว่า 10,000-40,000 บาทต่อวัน โดยจะเดินเรี่ยไรไปตามตลาดนัดและละแวกการค้าของแต่ละพื้นที่ วนไปเรื่อยๆ ทำอย่างนี้อยู่บ่อยนานหลายปีแล้ว ตำรวจแน่ใจว่าเป็นพระปลอม จึงนำตัวไปสึกกับพระที่วัดที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวังเจ้า
พ่อค้าผลไม้ ผู้เห็นเหตุการรณ์ เล่าวว่า เห็นกลุ่มคนกลุ่มนี้มาเดินเรี่ยไรอยู่บ่อยครั้งนานหลายปีแล้ว ทุกคนก็เอะใจสงสัย แรกๆ ยังเคยให้เงินบริจาคไปครั้งละ 20-100 บาท แต่ก็ได้แค่สงสัยว่าใช่พระจริงหรือไม่ เพราะพฤติกรรมที่พบเห็นเป็นประจำ คือชายทั้งสองคนที่ห่มผ้าเหลืองเดินถือไม้ขอรับบริจาค และจะมีผู้หญิง 2-3 คนเดินถือไม้ขอรับบริจาคตามหลัง ซึ่งช่วงหลังๆ พ่อค้าแม่ค้าจะรู้กันดี และไม่บริจาคเงินให้กลุ่มคนเหล่านี้ มีเพียงประชาชนที่เดินซื้อของบริจาคเงินให้ วันนี้ตำรวจมาจัดการกับคนกลุ่มนี้แล้ว ทั้งสองคนถอดผ้าเหลืองไปแล้ว จะได้ไม่ต้องหลอกลวงชาวบ้านอีกต่อไป. – สำนักข่าวไทย