fbpx

ส.ส.เต้ นำแถลงคดีแตงโม มั่นใจฆาตกรรมอำพรางไม่ใช่ประมาท

รัฐสภา 26 พ.ค.-“มงคลกิตติ์” นำ “อัจฉริยะ-แม่แตงโม” แถลงเดินหน้าหาความจริง มั่นใจฆาตกรรมอำพราง ไม่ใช่ประมาท ด้านแม่ เชื่อข้อมูลแน่น คืนความเป็นธรรมให้ลูกได้ ยืนยันไม่เททีมนี้


นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมทีมทนายความ และนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดา น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์หรือ แตงโม ดาราสาวที่เสียชีวิตกลางแม่น้ำเจ้าพระยาแถลงร่วมกัน โดยนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า จากการที่คุณแม่แตงโมมาร้องตนและชมรมช่วยเหลืออาชญากรรมให้ช่วยเหลือดูแลคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการสั่งฟ้อง เบื้องต้นตนจะเป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิและให้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม เป็นที่ปรึกษาดำเนินคดีนี้ พล.ท.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า นายวินัย ชุมสวัสดิ์ นายสุธีพงศ์ เจิดเจริญ ทนายความจากชมรมช่วยเหลืออาชญากรรมดูแลด้านคดี โดยมีทีมที่ปรึกษากฎหมายมีนายศยุน ชัยปัญญา เลขาธิการพรรคไทยศรีวิไลย์ นายศฤงคาร ข่ายสุวรรณ กรรมการบริหารพรรคไทยศรีวิไลย์ และนายบัญชา สุชญา หรือทนายอู๋ พร้อมแต่งตั้งน.ส.ภคอร จันทรคณา ช่วยดูแลแม่แตงโมตลอดช่วงการต่อสู้คดีประมาณ 2 ปี 6 เดือนในช่วงดำเนินคดี เพื่อคืนความยุติธรรม ให้เป็นไปตามความเป็นจริงตามความรู้สึกของผู้เสียหายโดยตรง คือมารดา คดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่างของการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ซึ่งภาคประชาสังคมจะร่วมกันและส่งผลต่อการปฏิรูปกฎหมาย ยืนยันพร้อมสนับสนุนการทำงานของอัจฉริยะและพร้อมดูแลมารดาตั้งแต่ต้นจนจบ


นางภนิดา กล่าวว่ามั่นใจทีมนายมงคลกิตติ์และนายอัจฉริยะ เพราะมีทั้งทนายความที่ปรึกษาที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งนายอจฉริยะเก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐานไว้จำนวนมาก จนคุณแม่รู้สึกสงสารและขอเบอร์จากทนายเดชา เพื่อขอบคุณ แต่นายเดชาบอกไม่ให้โทร เพราะเตือนว่าจะหาทางลงไม่เจอ จน 1 สัปดาห์ผ่านไปได้มาเจอตัวจริง และก่อนออกมาทำงานก็บอกแตงโมว่ามาทำงานเพื่อแตงโม ขอให้กำลังใจด้วย ซึ่งคุณแม่ยืนยัน 100% ว่าจะสำเร็จ แต่อาจจะต้องใช้เวลาหน่อย ยืนยันมั่นใจทีมนี้ว่าจะคืนความเป็นธรรมให้กับลูกสาวได้ ส่วนกับทนายเดชายังเป็นเพื่อนกัน แต่ทนายเดชาก็ชอบแขวะคุณแม่ แต่คุณแม่ก็ยังรักทนายเดชา

เมื่อถามว่าจะให้ความมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่เททนายอัจฉริยะและจะทำงานสำเร็จ นางภนิดา กล่าวว่า ทำไมถามคำถามนี้เพราะคุณแม่เทมา 2 ทนายแล้วใช่หรือไม่ ทั้งนี้ น่างภนิกา หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ลองใช้วิจารณญาณดูแล้วกัน ไม่อยากกล่าวหาใคร แต่ก็ทราบดีว่าทั้งสองคนเป็นอย่างไร ส่วนนายอัจฉริยะ มีข้อมูลเต็มเพียบร้อยเปอร์เซ็นต์ จะไปเทได้อย่างไร

นางภนิดา อ่านคำแถลงของตัวเอง ระบุว่า รัฐสภาเป็นสถานที่แก้ไขความทุกข์ร้อนของประชาชนทุกคน และคุณแม่มีความอึดอัดใจทุกประเด็นของการเสียชีวิตของแตงโมลูกสาวคนเดียวของคุณแม่ ที่คุณแม่รักสุดหัวใจตั้งแต่เห็นสภาพร่างกายของลูกเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 น้องโมเป็นลูกพี่กตัญญูมากดูแลคุณพ่อคุณแม่มาโดยตลอด เรียกได้ว่าเป็นอภิชาตบุตร และเป็นคนรักความยุติธรรม อยากทำงานด้านการเมือง ในใจลึก ๆ ของแม่เจ็บปวด ชอกช้ำ จนถึงวันนี้ยังลืมไม่ได้ คงใช้เวลาเป็นปีและถึงเวลาแล้วที่ต้องทวงความยุติธรรมให้กับแตงโม ซึ่งเป็นลูกของแม่ ลูกสาวคนเดียวที่รักสุดหัวใจ


นางภนิดา กล่าวว่า แม่มีความเข้าใจว่าแตงโมไม่ได้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ เชื่อว่าจะเป็นการเสียชีวิตด้วยเหตุฆาตกรรมอำพราง จึงได้ดำเนินคดีต่อศาลอาญานนทบุรีด้วยตนเอง โดยได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมายจากนายมงคลกิตดิ์ และทีมทนายจากชมรมช่วยเหลือ เหยื่ออาชญากรรมรวมถึงแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว. รวมถึงประชาชนคนอื่นที่เห็นเหตุการณ์ พร้อมกันนี้ขอให้เข้าใจว่าอย่าให้ข่าวคุณแม่ผิดและอย่าบิดเบือน เพราะคุณแม่ตั้งใจจะหาความจริงเรื่องของลูกสาวว่าโดนฆาตกรรมด้วยวิธีใด อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ

“คุณแม่มีความรู้สึกเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกสาวคุณแม่และต้องไปเสียเวลากับอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นมาแล้ว คุณแม่เสียเวลา ไป 3 เดือนเต็ม ๆ คุณแม่ต้องลุกขึ้นมาสู้ด้วยความถูกต้อง คุณแม่จะสู้เพื่อลูกที่ผ่านมาก็สู้ แต่ไม่ได้บอกใคร แม่มีคำถามเยอะแยะ แต่ไม่ได้บอกใคร แม่เก็บหลักฐานเอง ที่ผ่านมาคุณบอกไม่ช่วยลูกเลยคุณไม่ต้องประกาศด้วยเหรอว่าช่วยวิธีไหน คุณแม่น้ำหนักลดลง 7 กิโลกรัม” นางภนิดา กล่าว

ด้านนายอัจฉริยะ กล่าวว่า ได้รับมอบอำนาจจากคุณแม่แตงโมอย่างเป็นทางการเรียบร้อย พร้อมทนายสุธีพงษ์ และใช้สิทธิ์ตามกฎหมายฟ้องร้องบุคคลบนเรือทั้งหมด วันนี้ได้ให้หลักฐานบางอย่างกับคุณแม่ เชื่อว่าเข้าใจเรื่องที่ตนทำ เรื่องของพฤติกรรมอำพราง และเห็นว่าที่มาถึงวันนี้ได้ เพราะสื่อมวลชนช่วยผลักดัน และต้องขอบคุณอัยการสูงสุดและอัยการจังหวัดนนทบุรีที่ให้ความสำคัญ การที่ตนไปยื่นร้องขอความเป็นธรรมตามสิทธิรัฐธรรมนูญจำนวน 8 ข้อจึงมีคำสั่งเลื่อนการฟ้องร้องคนบนเรือทั้ง 5 คนกับผู้ที่วางแผน

“สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีการพิสูจน์เรือใหม่ รวมถึงสิ่งที่ผมร้องขอ ซึ่งขณะนี้ต่อจิ๊กซอว์ไปได้เยอะแล้วและจากนี้จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมอำพรางของแตงโม ซึ่งบางส่วนไม่สามารถเปิดให้สื่อมวลชนและประชาชนดูได้ แต่ให้คุณแม่ดู หลังจากนี้จะเชิญอดีตอัยการมาร่วมร่างคำฟ้องและมีผู้เเชี่ยวชาญทั้งหมด 15 คนทุกสาขา รวมถึงพญ.คุณหญิงพรทิพย์ นพ.วัฒนชัย กาญจนรินทร์มาดูบาดแผลก้างปลา และผู้เชี่ยวชาญทางเรือ บุคคลที่เชี่ยววชาญในระบบ GPS ทวงคืนความยุติธรรมให้กับแตงโม ที่ผ่านมาเสียเวลามามากแล้ว สิ่งที่ทำให้แม่ยอมรับว่าคดีนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ เกิดจากการที่แตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือ ซึ่งผมมีหลักฐานบางอย่างเอาให้แม่แตงโมดู” นายอัจฉริยะ กล่าว

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ใช้เวลาไม่นานรวบรวมพยานหลักฐาน และในวันนี้ถือว่าเป็นนิมิตหมานที่ดีและในวันจันทร์จะ ใช้โดรนใต้น้ำเข้าไปสำรวจใต้น้ำ อย่างน้อยที่สุดเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่อัยการนนทบุรีได้เล็งเห็นความสำคัญการยื่นขอความเป็นธรรม และสามารถพิสูจน์ได้ว่าถ้าอัยการสอบ 8 ประเด็นที่เราร้องขอไปจะบอกอะไรได้ว่าไม่ได้มีการประมาท ดังนั้นเอกสาร 2,000 กว่าแผ่น ที่มีคนบนเรือเพียง 5 คนพยานแวดล้อมมาจากไหนจำนวนมาก และขณะนี้จะตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมายกับคนที่เป็นพยานเท็จ เพราะหากปล่อยไว้จะทำให้คดีเกิดความเสียหาย

“เรือลำที่จะขอตรวจไม่เหมือนเรือธรรมดาแต่ยังขอไม่เปิดเผย เพราะสิ่งที่ผมทำทั้ง 8 ข้อมีเหตุผลของตัวเอง หากเปิด อย่าลืมว่าผมไม่ได้รบกับแค่คนบนเรือ แต่รบกับคนที่มีอาวุธข้างกายซึ่งอาจจะทำลายหลักฐานได้ดังนั้นเพื่อความโปร่งใสขอให้เจ้าหน้าที่รัฐได้ทำงานซึ่งอะไรที่ผิดพลาดไปแล้วก็มาแก้ไขกันเชื่อว่าเริ่มต้นใหม่ได้ ไม่ใช่ไปอิงคนรวย แนวทางของคดีนี้ หากอัยการได้เห็นประจักษ์พยานและได้สอบผู้เชี่ยวชาญทางเรือ จะได้ข้อเท็จจริงว่าไม่ประมาทและนำไปถึงการแก้ข้อกล่าวหาประมาทเพราะมีพยานหลักฐานใหม่ที่ทางพนักงานอัยการได้สอบแล้ว และก็มีสิทธิ์แจ้งข้อหาเพิ่มเป็นคดีฆ่าก็ได้ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปได้หมดหากสามารถดำเนินการตามที่ตกลงร้องขอ 8 ข้อ ยืนยันไม่ทิ้งแม่แตงโม เพราะตนมีหน้าที่ดูแลกฎหมายและนายมงคลกิตติ์ดูแลแม่ ซึ่ง แตงโมก็เสมือนน้องของผมคนหนึ่ง ที่ทำวันนี้ทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อเหยื่ออาชญากรรมอีกมากมายที่วันข้างหน้าไม่ทราบว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้หรือไม่” นายอัจฉริยะ กล่าว

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ที่ทำคดีนี้ไม่ได้หวังผลด้านใดด้านหนึ่ง แต่ทำงานของคดีแตงโมมาตั้งแต่ต้น แม้มีทนายความคนอื่นดูแลแม่แตงโมอยู่ จนกระทั่งประชาชนให้ความหวังและให้กำลังใจตน ยืนยันจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังเ พราะคดีนี้เป็นหนึ่งคดีในประเทศไทยที่มีการบิดเบือนมาก ขณะนี้มีภาพเกี่ยวกับคนบนเรือ 550 ภาพถูกลบไป และมีคลิปสำคัญ 2 คลิปที่มีผลกับคดี ก่อนหน้านี้เพิ่งจะทราบรายละเอียด ขอให้รอวันที่ 2 มิ.ย.มีรายละเอียดให้แน่นอน แล้วจะได้คนถามบังแจ็คด้วยว่าเมื่อไหร่จะคืนโทรศัพท์และข้อมูลที่บอกว่ากู้ได้ 40,000 ภาพเป็นจริงหรือไม่

ส่วนเรื่องเงินฟ้องร้องค่าเสียหาย นายอัจฉริยะกล่าวว่า เป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย แต่ได้บอกคุณแม่ไปแล้วว่าประเด็นนี้เป็นแค่ความฝัน ยังไม่ใช่ความจริงเพราะยังไม่ทราบว่าแตงโมเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร แต่จะทำให้เห็นว่าคดีนี้ ไม่ใช่คดีประมาท และเมื่อถึงตอนนั้น ก็ดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนต่อไปได้ และยืนยันจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด

สำหรับบรรยากาศในช่วงท้ายของการแถลงข่าว นางภนิดา ได้ร้องเพลง “ใต้ร่มมลุลี” ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือให้สื่อมวลชนฟัง ซึ่งเป็นหนึ่งในเพลงที่ใช้ร้องเมื่อวาน หลังนัดนายมงคลกิตติ์ทานข้าวเมื่อวานนี้ พร้อมระบุว่า เพลงนี้ไม่ได้สื่อความหมายอะไร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

ประชาชนแห่ร่วมประกวดแต่งตัวเหมือนตำรวจสืบนครบาล

ประชาชนแห่ร่วมประกวดการแต่งกายตามไอดอลเหมือนตำรวจสืบสวนนครบาล คัดเลือก 10 คน รับไดอารี่พร้อมลายเซ็น “บิ๊กจ๋อ-สารวัตรแจ๊ะ” และสิงโตนำจับ ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช บอกถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกที่ประชาชนขอลายเซ็นตำรวจ

ชาวเมียนมาหนีภัยข้ามมาฝั่งไทยต่อเนื่องกว่า 1,200 คน

เมียนมาใช้เฮลิคอปเตอร์ติดปืนกล พร้อมส่ง MiG-29 ถล่มฝ่ายต่อต้าน ทำประชาชนเมียนมาหนีภัย ข้ามมาฝั่งไทย ต่อเนื่องกว่า 1,200 คน

เอกวาดอร์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพราะวิกฤตพลังงาน

อกวาดอร์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันศุกร์ โดยเป็นการประกาศเพราะวิกฤตพลังงานที่ทำให้ประเทศในอเมริกาใต้แห่งนี้ต้องใช้มาตรการปันส่วนพลังงาน

ฝ่ายต่อต้านรุกหนัก ถล่มทหารเมียนมาตั้งแต่เช้ามืด

ฝ่ายต่อต้าน รุกหนักถล่มทหารเมียนมา ฐานพัน.ร.275 ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด ตั้งแต่เช้ามืด ทำประชาชนเมียนมา หลบหนีการสู้รบเข้าฝั่งไทยแล้วกว่า 200 คน