ส.ส.เต้ นำแถลงคดีแตงโม มั่นใจฆาตกรรมอำพรางไม่ใช่ประมาท

รัฐสภา 26 พ.ค.-“มงคลกิตติ์” นำ “อัจฉริยะ-แม่แตงโม” แถลงเดินหน้าหาความจริง มั่นใจฆาตกรรมอำพราง ไม่ใช่ประมาท ด้านแม่ เชื่อข้อมูลแน่น คืนความเป็นธรรมให้ลูกได้ ยืนยันไม่เททีมนี้


นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมทีมทนายความ และนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดา น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์หรือ แตงโม ดาราสาวที่เสียชีวิตกลางแม่น้ำเจ้าพระยาแถลงร่วมกัน โดยนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า จากการที่คุณแม่แตงโมมาร้องตนและชมรมช่วยเหลืออาชญากรรมให้ช่วยเหลือดูแลคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการสั่งฟ้อง เบื้องต้นตนจะเป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิและให้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม เป็นที่ปรึกษาดำเนินคดีนี้ พล.ท.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า นายวินัย ชุมสวัสดิ์ นายสุธีพงศ์ เจิดเจริญ ทนายความจากชมรมช่วยเหลืออาชญากรรมดูแลด้านคดี โดยมีทีมที่ปรึกษากฎหมายมีนายศยุน ชัยปัญญา เลขาธิการพรรคไทยศรีวิไลย์ นายศฤงคาร ข่ายสุวรรณ กรรมการบริหารพรรคไทยศรีวิไลย์ และนายบัญชา สุชญา หรือทนายอู๋ พร้อมแต่งตั้งน.ส.ภคอร จันทรคณา ช่วยดูแลแม่แตงโมตลอดช่วงการต่อสู้คดีประมาณ 2 ปี 6 เดือนในช่วงดำเนินคดี เพื่อคืนความยุติธรรม ให้เป็นไปตามความเป็นจริงตามความรู้สึกของผู้เสียหายโดยตรง คือมารดา คดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่างของการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ซึ่งภาคประชาสังคมจะร่วมกันและส่งผลต่อการปฏิรูปกฎหมาย ยืนยันพร้อมสนับสนุนการทำงานของอัจฉริยะและพร้อมดูแลมารดาตั้งแต่ต้นจนจบ


นางภนิดา กล่าวว่ามั่นใจทีมนายมงคลกิตติ์และนายอัจฉริยะ เพราะมีทั้งทนายความที่ปรึกษาที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งนายอจฉริยะเก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐานไว้จำนวนมาก จนคุณแม่รู้สึกสงสารและขอเบอร์จากทนายเดชา เพื่อขอบคุณ แต่นายเดชาบอกไม่ให้โทร เพราะเตือนว่าจะหาทางลงไม่เจอ จน 1 สัปดาห์ผ่านไปได้มาเจอตัวจริง และก่อนออกมาทำงานก็บอกแตงโมว่ามาทำงานเพื่อแตงโม ขอให้กำลังใจด้วย ซึ่งคุณแม่ยืนยัน 100% ว่าจะสำเร็จ แต่อาจจะต้องใช้เวลาหน่อย ยืนยันมั่นใจทีมนี้ว่าจะคืนความเป็นธรรมให้กับลูกสาวได้ ส่วนกับทนายเดชายังเป็นเพื่อนกัน แต่ทนายเดชาก็ชอบแขวะคุณแม่ แต่คุณแม่ก็ยังรักทนายเดชา

เมื่อถามว่าจะให้ความมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่เททนายอัจฉริยะและจะทำงานสำเร็จ นางภนิดา กล่าวว่า ทำไมถามคำถามนี้เพราะคุณแม่เทมา 2 ทนายแล้วใช่หรือไม่ ทั้งนี้ น่างภนิกา หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ลองใช้วิจารณญาณดูแล้วกัน ไม่อยากกล่าวหาใคร แต่ก็ทราบดีว่าทั้งสองคนเป็นอย่างไร ส่วนนายอัจฉริยะ มีข้อมูลเต็มเพียบร้อยเปอร์เซ็นต์ จะไปเทได้อย่างไร

นางภนิดา อ่านคำแถลงของตัวเอง ระบุว่า รัฐสภาเป็นสถานที่แก้ไขความทุกข์ร้อนของประชาชนทุกคน และคุณแม่มีความอึดอัดใจทุกประเด็นของการเสียชีวิตของแตงโมลูกสาวคนเดียวของคุณแม่ ที่คุณแม่รักสุดหัวใจตั้งแต่เห็นสภาพร่างกายของลูกเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 น้องโมเป็นลูกพี่กตัญญูมากดูแลคุณพ่อคุณแม่มาโดยตลอด เรียกได้ว่าเป็นอภิชาตบุตร และเป็นคนรักความยุติธรรม อยากทำงานด้านการเมือง ในใจลึก ๆ ของแม่เจ็บปวด ชอกช้ำ จนถึงวันนี้ยังลืมไม่ได้ คงใช้เวลาเป็นปีและถึงเวลาแล้วที่ต้องทวงความยุติธรรมให้กับแตงโม ซึ่งเป็นลูกของแม่ ลูกสาวคนเดียวที่รักสุดหัวใจ


นางภนิดา กล่าวว่า แม่มีความเข้าใจว่าแตงโมไม่ได้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ เชื่อว่าจะเป็นการเสียชีวิตด้วยเหตุฆาตกรรมอำพราง จึงได้ดำเนินคดีต่อศาลอาญานนทบุรีด้วยตนเอง โดยได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมายจากนายมงคลกิตดิ์ และทีมทนายจากชมรมช่วยเหลือ เหยื่ออาชญากรรมรวมถึงแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว. รวมถึงประชาชนคนอื่นที่เห็นเหตุการณ์ พร้อมกันนี้ขอให้เข้าใจว่าอย่าให้ข่าวคุณแม่ผิดและอย่าบิดเบือน เพราะคุณแม่ตั้งใจจะหาความจริงเรื่องของลูกสาวว่าโดนฆาตกรรมด้วยวิธีใด อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ

“คุณแม่มีความรู้สึกเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกสาวคุณแม่และต้องไปเสียเวลากับอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นมาแล้ว คุณแม่เสียเวลา ไป 3 เดือนเต็ม ๆ คุณแม่ต้องลุกขึ้นมาสู้ด้วยความถูกต้อง คุณแม่จะสู้เพื่อลูกที่ผ่านมาก็สู้ แต่ไม่ได้บอกใคร แม่มีคำถามเยอะแยะ แต่ไม่ได้บอกใคร แม่เก็บหลักฐานเอง ที่ผ่านมาคุณบอกไม่ช่วยลูกเลยคุณไม่ต้องประกาศด้วยเหรอว่าช่วยวิธีไหน คุณแม่น้ำหนักลดลง 7 กิโลกรัม” นางภนิดา กล่าว

ด้านนายอัจฉริยะ กล่าวว่า ได้รับมอบอำนาจจากคุณแม่แตงโมอย่างเป็นทางการเรียบร้อย พร้อมทนายสุธีพงษ์ และใช้สิทธิ์ตามกฎหมายฟ้องร้องบุคคลบนเรือทั้งหมด วันนี้ได้ให้หลักฐานบางอย่างกับคุณแม่ เชื่อว่าเข้าใจเรื่องที่ตนทำ เรื่องของพฤติกรรมอำพราง และเห็นว่าที่มาถึงวันนี้ได้ เพราะสื่อมวลชนช่วยผลักดัน และต้องขอบคุณอัยการสูงสุดและอัยการจังหวัดนนทบุรีที่ให้ความสำคัญ การที่ตนไปยื่นร้องขอความเป็นธรรมตามสิทธิรัฐธรรมนูญจำนวน 8 ข้อจึงมีคำสั่งเลื่อนการฟ้องร้องคนบนเรือทั้ง 5 คนกับผู้ที่วางแผน

“สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีการพิสูจน์เรือใหม่ รวมถึงสิ่งที่ผมร้องขอ ซึ่งขณะนี้ต่อจิ๊กซอว์ไปได้เยอะแล้วและจากนี้จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมอำพรางของแตงโม ซึ่งบางส่วนไม่สามารถเปิดให้สื่อมวลชนและประชาชนดูได้ แต่ให้คุณแม่ดู หลังจากนี้จะเชิญอดีตอัยการมาร่วมร่างคำฟ้องและมีผู้เเชี่ยวชาญทั้งหมด 15 คนทุกสาขา รวมถึงพญ.คุณหญิงพรทิพย์ นพ.วัฒนชัย กาญจนรินทร์มาดูบาดแผลก้างปลา และผู้เชี่ยวชาญทางเรือ บุคคลที่เชี่ยววชาญในระบบ GPS ทวงคืนความยุติธรรมให้กับแตงโม ที่ผ่านมาเสียเวลามามากแล้ว สิ่งที่ทำให้แม่ยอมรับว่าคดีนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ เกิดจากการที่แตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือ ซึ่งผมมีหลักฐานบางอย่างเอาให้แม่แตงโมดู” นายอัจฉริยะ กล่าว

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ใช้เวลาไม่นานรวบรวมพยานหลักฐาน และในวันนี้ถือว่าเป็นนิมิตหมานที่ดีและในวันจันทร์จะ ใช้โดรนใต้น้ำเข้าไปสำรวจใต้น้ำ อย่างน้อยที่สุดเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่อัยการนนทบุรีได้เล็งเห็นความสำคัญการยื่นขอความเป็นธรรม และสามารถพิสูจน์ได้ว่าถ้าอัยการสอบ 8 ประเด็นที่เราร้องขอไปจะบอกอะไรได้ว่าไม่ได้มีการประมาท ดังนั้นเอกสาร 2,000 กว่าแผ่น ที่มีคนบนเรือเพียง 5 คนพยานแวดล้อมมาจากไหนจำนวนมาก และขณะนี้จะตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมายกับคนที่เป็นพยานเท็จ เพราะหากปล่อยไว้จะทำให้คดีเกิดความเสียหาย

“เรือลำที่จะขอตรวจไม่เหมือนเรือธรรมดาแต่ยังขอไม่เปิดเผย เพราะสิ่งที่ผมทำทั้ง 8 ข้อมีเหตุผลของตัวเอง หากเปิด อย่าลืมว่าผมไม่ได้รบกับแค่คนบนเรือ แต่รบกับคนที่มีอาวุธข้างกายซึ่งอาจจะทำลายหลักฐานได้ดังนั้นเพื่อความโปร่งใสขอให้เจ้าหน้าที่รัฐได้ทำงานซึ่งอะไรที่ผิดพลาดไปแล้วก็มาแก้ไขกันเชื่อว่าเริ่มต้นใหม่ได้ ไม่ใช่ไปอิงคนรวย แนวทางของคดีนี้ หากอัยการได้เห็นประจักษ์พยานและได้สอบผู้เชี่ยวชาญทางเรือ จะได้ข้อเท็จจริงว่าไม่ประมาทและนำไปถึงการแก้ข้อกล่าวหาประมาทเพราะมีพยานหลักฐานใหม่ที่ทางพนักงานอัยการได้สอบแล้ว และก็มีสิทธิ์แจ้งข้อหาเพิ่มเป็นคดีฆ่าก็ได้ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปได้หมดหากสามารถดำเนินการตามที่ตกลงร้องขอ 8 ข้อ ยืนยันไม่ทิ้งแม่แตงโม เพราะตนมีหน้าที่ดูแลกฎหมายและนายมงคลกิตติ์ดูแลแม่ ซึ่ง แตงโมก็เสมือนน้องของผมคนหนึ่ง ที่ทำวันนี้ทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อเหยื่ออาชญากรรมอีกมากมายที่วันข้างหน้าไม่ทราบว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้หรือไม่” นายอัจฉริยะ กล่าว

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ที่ทำคดีนี้ไม่ได้หวังผลด้านใดด้านหนึ่ง แต่ทำงานของคดีแตงโมมาตั้งแต่ต้น แม้มีทนายความคนอื่นดูแลแม่แตงโมอยู่ จนกระทั่งประชาชนให้ความหวังและให้กำลังใจตน ยืนยันจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังเ พราะคดีนี้เป็นหนึ่งคดีในประเทศไทยที่มีการบิดเบือนมาก ขณะนี้มีภาพเกี่ยวกับคนบนเรือ 550 ภาพถูกลบไป และมีคลิปสำคัญ 2 คลิปที่มีผลกับคดี ก่อนหน้านี้เพิ่งจะทราบรายละเอียด ขอให้รอวันที่ 2 มิ.ย.มีรายละเอียดให้แน่นอน แล้วจะได้คนถามบังแจ็คด้วยว่าเมื่อไหร่จะคืนโทรศัพท์และข้อมูลที่บอกว่ากู้ได้ 40,000 ภาพเป็นจริงหรือไม่

ส่วนเรื่องเงินฟ้องร้องค่าเสียหาย นายอัจฉริยะกล่าวว่า เป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย แต่ได้บอกคุณแม่ไปแล้วว่าประเด็นนี้เป็นแค่ความฝัน ยังไม่ใช่ความจริงเพราะยังไม่ทราบว่าแตงโมเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร แต่จะทำให้เห็นว่าคดีนี้ ไม่ใช่คดีประมาท และเมื่อถึงตอนนั้น ก็ดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนต่อไปได้ และยืนยันจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด

สำหรับบรรยากาศในช่วงท้ายของการแถลงข่าว นางภนิดา ได้ร้องเพลง “ใต้ร่มมลุลี” ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือให้สื่อมวลชนฟัง ซึ่งเป็นหนึ่งในเพลงที่ใช้ร้องเมื่อวาน หลังนัดนายมงคลกิตติ์ทานข้าวเมื่อวานนี้ พร้อมระบุว่า เพลงนี้ไม่ได้สื่อความหมายอะไร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

ระทึก! ตำรวจไล่ล่า-ยิงยางสกัดกระบะซิ่ง พบไอซ์ซุกในรถ

17 พ.ค. – ระทึก! ตำรวจสายตรวจขี่รถจักรยานยนต์ไล่ล่ากระบะซิ่งหนีชนดะ ต้องยิงยางสกัดจึงสิ้นฤทธิ์ ตรวจค้นพบไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถ เพจเฟสบุ๊กชื่อ วัชรพล สายไหม เพิ่มสิน สุขาภิบาล 5 โพสต์ข้อความระบุว่า “เลี่ยงทางถนนเทพารักษ์ วัชรพล” พร้อมกับคลิปเหตุการณ์ที่มีรถกระบะแต่งซิ่งคันหนึ่งขับเร่งเครื่องจนควันดำเต็มถนน เหมือนพยายามหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยในคลิปจะเห็นว่าด้านหน้ารถกระบะคันดังกล่าวมีรถกระบะจอดขวางทางอยู่ 1 คัน และด้านซ้ายของคลิปจะเห็นรถจักรยานยนต์ตำรวจสายตรวจล้มอยู่ อีกทั้งยังได้ยิงเสียงปืน และในจังหวะที่รถกระบะกำลังถอยเพื่อกลับลำหนี มีรถกระบะคันหนึ่งวิ่งเข้ามาชนท้ายอย่างจัง เพื่อปิดทางหนีของรถกระบะคันดังกล่าว และในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทุบกระจกรถกระบะ พร้อมนำตัวผู้ก่อเหตุออกมาจากรถได้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถกระบะอีซูซุโหลดเตี้ยแต่งซิ่ง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร มีรอยเฉี่ยวชนรอบคัน ล้อด้านซ้ายแตกทั้งล้อหน้า ล้อหลัง และยางล้อหน้าด้านซ้ายมีเศษหัวกระสุนติดอยู่ ส่วนคนขับรถกระบะทราบชื่อคือ นายชัยชนะ อายุ 41 ปี ถูกจับกุมพร้อมของกลางไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนในรถกระบะ ด้านพลเมืองที่ช่วยตำรวจสกัดคนร้ายไม่ให้หลบหนี คือนายประหยัด เจ้าของรถกระบะวีโก้สีดำ ได้รับความเสียหายบริเวณตัวรถด้านซ้ายจนถึงท้ายรถ ซึ่งจอดขวางหน้ารถกระบะคันก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะตนเองขับรถอยู่ในซอยพหลโยธิน 50 เห็นรถสายตรวจจักรยานยนต์ขี่ไล่รถกระบะคันเกิดเหตุมาจนมาถึงซอยเทพรักษ์ 23 รถคนร้ายเฉี่ยวชนรถของตนเองเลยขับตามมา ตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาไล่จับอะไรกัน แต่ได้ยินสายตรวจบอกให้ช่วยไล่ จึงช่วยเพราะก็ถูกชนแล้วหนีเหมือนกัน จนมาช่วยสกัดได้ตรงนี้ […]

ตัดทุเรียนโชว์

นายกฯ ลงพื้นที่เมืองจันท์ ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง

จันทบุรี 17 พ.ค.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.จันทบุรี ตัดทุเรียนโชว์ พบชาวสวนผลไม้ รับฟังปัญหาราคาผลผลิตแกว่ง ไม่ได้มาตรฐาน ขอช่วยแก้ลดเวลาสินค้าตกค้าง-แก้ปมแรงงาน ด้าน สส.ประชาชน เสนอปัญหา ด้านนายกฯ ลั่นรัฐบาลเร่งอำนวยความสะดวกเอกสารส่งออก-ลดเวลาตรวจหน้าด่าน น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางสาวจิราพร​ สินธุไพร​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์​ นายอิทธิ​ ศิริลัทยากร และนายอัครา​ พรหมเผ่า​ รัฐมนตรีช่วย​ว่าการ​กระทรวง​เกษตรและสหกรณ์​ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิตและผลผลิต จากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ณ สวนรักตะวัน ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังเข้าร่วมชมการไลฟ์ขายทุเรียนของเกษตรกรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer นอกจากนี้ยังมี สส.ในพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ซึ่งเป็น สส. จากพรรคประชาชน เดินทางมารอนายกรัฐมนตรี เพื่อจะร่วมสะท้อนปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่ให้กับนายกรัฐมนตรี โดยมีนางสาวญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี […]

“ชี้จุด-ทำแผน” ฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพหมกสวนปาล์ม

ตรัง 17 พ.ค.- คุมตัว 4 ผู้ต้องหาคดีฆ่าเผานั่งยาง ชี้จุดเกิดเหตุพร้อมทำแผนฯ ที่สวนปาล์มน้ำมัน หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันตามรวบยกทีม เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 6 วันสามารถรวบผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง ครบทั้ง 4 คนในคดีฆ่าฝังและเผานั่งยาง รวม 4 ศพ ล่าสุดช่วงเช้าของวันนี้ เจ้าหน้าที่คุมตัวทั้งหมดไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนฯ ที่สวนปลามน้ำมัน ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนถูกควบคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณสวนปาล์มน้ำมัน บนเนื้อที่ 170 ไร่ ในตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ประกอบด้วย นายศุภกรณ์ หรือบิน หัวหน้าแก๊ง นายจรณชัย หรือแต้ม นายปิยะศักดิ์ หรือแจ๊ค และนายรพีพันธ์ หรือเถือก ทั้งหมดถูกตั้งหลายข้อหา อาทิ “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายฯ, ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฯลฯ”โดย มี พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ […]

ยักยอกเงินวัด

โกงผ่านวัด… อุดช่องโหว่คอร์รัปชัน

17 พ.ค.- อีกประเด็นสำคัญที่ต้องกวาดล้างปราบปรามอย่างจริงจัง คือ การทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรัง เกิดขึ้นแทบทุกวงการ ไม่เว้นวัด หลายปีที่ผ่านมา คดี “เงินทอนวัด” หรือการทุจริตเงินอุดหนุนวัด สะเทือนวงการสงฆ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้ จะไปพูดคุยเรื่องนี้ กับ ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) .-สำนักข่าวไทย