“ศักดิ์สยาม” แจงเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน-โครงข่ายคมนาคม

รัฐสภา 18 ก.พ. – “ศักดิ์สยาม” แจงเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายคมนาคมของประเทศ รองรับการค้าการลงทุนและอำนวยความสะดวกให้ประชาชน คาดการลงทุนปี 65 จะสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจเป็นมูลค่าถึง 2.24 ล้านล้านบาท


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ถึงการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคม ว่า แม้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่กระทรวงคมนาคมไม่ได้หยุดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายคมนาคมของประเทศ เพื่อรองรับการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ รองรับการค้า การลงทุนจากต่างประเทศ โดยการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์และการขนส่งจะเป็นการช่วยให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้เดินหน้าแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการก่อสร้างถนนพระราม 2 หรือหากมีโครงการใดสามารถเร่งดำเนินการได้ ก็จะทำงานอย่างต่อเนื่อง หรือโครงการใดติดปัญหาอุปสรรค หรือต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ก็จะทำข้อมูลเตรียมไว้ เพื่อสามารถดำเนินการได้ทันที


นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า การดำเนินการทุกขั้นตอนของกระทรวงคมนาคม ยึดหลักผลประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชน และยืนยันว่า การดำเนินการไม่ได้ล่าช้า แต่โครงการต่างๆ ของคมนาคมเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ

นายศักดิ์สยาม กล่าวถึงการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะมีระบบรถไฟฟ้า 14 สายทาง ระยะทาง 554 กิโลเมตร สำหรับการใช้ระบบตั๋วร่วม และจะเชื่อมทั้งระบบรางและเรือ แต่ต้องยึดตามกฎหมายและระเบียบที่ต้องปฏิบัติอย่างรอบคอบ อีกทั้งต้องตามแก้ปัญหาในอดีต เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลในอดีตยังไม่มี โดยในรัฐบาลชุดนี้ได้จัดตั้งกรมการขนส่งทางราง ซึ่งจะทำหน้าที่ดูแลมาตรฐานความปลอดภัยและความเหมาะสมของอัตราค่าโดยสาร ไม่ให้เกิดการเอาเปรียบประชาชน แต่กรมการขนส่งทางรางเกิดขึ้น หลังจากที่มีสัญญาสัมปทานต่างๆ แล้ว กระทรวงคมนาคมจึงต้องใช้วิธีเจรจาและต่อรองเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถใช้วิธีอื่นๆ ได้ ไม่เช่นนั้นจะนำมาสู่ความเสียหายที่เรียกว่า ค่าโง่ ซึ่งตนเองและกระทรวงคมนาคมจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า เรื่องระบบตั๋วร่วมได้มีการจัดทำกฎหมาย คือ ร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม และคาดว่าจะเสนอ ครม.ในกลางปี 2565 และหลังจาก พ.ร.บ.ฉบับนี้ประกาศใช้ จะสามารถบังคับใช้บัตรใบเดียวและอัตราค่าโดยสารเดียว สำหรับระบบขนส่งสาธารณะได้ทุกระบบ โดยคิดค่าแรกเข้าครั้งเดียวทั้งระบบ ไม่ใช่เพียงแค่รถไฟฟ้าเท่านั้น


นอกจากนั้น กระทรวงคมนาคม มีการจัดให้มีระบบฟีดเดอร์ ทั้งระบบรถเมล์ และเรือ โดยใช้พลังงานไฟฟ้า หรืออีวี (EV) ซึ่งภายในปี 2565 ขสมก.จะเริ่มหาผู้รับจ้างและให้บริการรถเมล์อีวีในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีแผนจัดหารถเมล์อีวี จำนวน 2,511 คัน และดำเนินโครงการจ้างเอกชนเดินรถ 1,500 คัน เพื่อทดแทนระบบรถโดยสารเดิม

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมได้พัฒนาระบบฟีดเดอร์ทางน้ำ เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยใกล้กับคลอง สามารถเดินทางไปต่อรถไฟฟ้าได้ โดยมีแผนดำเนินการระยะที่ 1 จำนวน 5 สายทาง เป็นระยะทาง 95 กิโลเมตร และมีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า รวมเป็น 44 จุด ส่วนระยะที่ 2 จำนวน 9 สายทาง เป็นระยะทาง 113 กิโลเมตร ทำให้มีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าเป็น 50 จุด ทำให้ประชาชนเดินทางเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าได้สะดวกยิ่งขึ้น

ส่วนการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ จะเชื่อมโยงจากด้านตะวันออกสู่ตะวันตก และด้านเหนือสู่ด้านใต้ เชื่อมต่อระบบขนส่งทางรางไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีแผนพัฒนาท่าเรือบก เพื่อเป็นศูนย์กลางขนถ่ายสินค้าจากรถบรรทุกไปสู่รถไฟ และขณะนี้แผนแม่บทท่าเรือบกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันการท่าเรือแห่งประเทศไทยกำลังดำเนินการศึกษา และจัดทำการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน

นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางของประชาชนที่ขณะนี้ได้พัฒนาระบบผ่านทางหลวงพิเศษแบบไม่มีไม้กั้น หรือ M-Flow เพื่อลดปัญหาติดขัดของการจราจร โดยเริ่มนำร่องที่ด่านทับช้าง 1 ด่านทับช้าง 2 ด่านธัญบุรี 1 และด่านธัญบุรี 2 ซึ่งรถสามารถเคลื่อนผ่านได้เร็วกว่าเดิมประมาณ 5 เท่า คือ ชั่วโมงละ 2,500 คัน และจะขยายผลต่อไปอีกในด้านอื่นๆ โดยในปี 2565-2566 จะขยายได้เต็มพื้นที่

นายศักดิ์สยาม กล่าวโดยสรุปว่า การดำเนินงานของกระทรวงคมนาคม จะช่วยให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากการลงทุนของรัฐบาล อาทิ เพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานหลัก ทั้งสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา จาก 80 ล้านคน เป็น 120 ล้านคน/ปี เพิ่มโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้ครบ 14 สายทาง 554 กิโลเมตร เพิ่มโครงข่ายรถไฟทางคู่ และแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟเป็น 1,111 กิโลเมตร

ขณะที่การลงทุนของกระทรวงคมนาคมในปี 2565 มีทั้งแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยมีเม็ดเงินในการลงทุน 1.4 ล้านล้านบาท ขณะนี้มีการลงนามในสัญญาผูกพัน 5.16 แสนล้านบาท โดยจะสามารถสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจเป็นมูลค่าสูงถึง 2.24 ล้านล้านบาท มีการจ้างงาน 154,000 ตำแหน่ง และจะทำให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจแบบทวีคูณ หรือจำนวน 4 แสนล้านล้านบาท/ปี. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

เตือนไทยตอนบนฝนตกหนัก-พายุหวู่ติบ ขึ้นฝั่งจีนวันนี้

กทม. 14 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนลดลง ขณะที่พายุ “หวู่ติบ” ขึ้นฝั่งจีนวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “หวู่ติบ” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในวันนี้ (14 มิ.ย. 68) โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]