ก้าวไกล อัด รมต.แรงงาน บริหารงานล้มเหลว

รัฐสภา 17 ก.พ. -“วรรณวิภา” ก้าวไกล อัด “รัฐมนตรีแรงงาน” บริหารงานล้มเหลวไม่ปกป้องแรงงาน-เบียดเบียนเงินประกันสังคม ด้าน “สุชาติ” โต้ จัดจ๊อบเอ็กซ์โป ขอเม็ดเงิน 19,000 ล้าน ไม่ละลายหายไป แจงโครงการ ม.33 เรารักกัน ไม่ใช่เงินกองทุนประกันสังคม

นางสาววรรณวิภา ไม้สน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ว่า ไม่สามารถแก้ไขปัญหาแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19ได้จริง บริหารงานบกพร่อง โรงงานหลายแห่งต้องปิดกิจการ ภาคแรงงานตกงานมหาศาล ขณะเดียวกันมาตรการเยียวยาไม่ชัดเจนและตรงจุด นำเงินของกองทุนประกันสังคมไปใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ออกมาตรลดเงินประกันสังคมโดยไม่สนับสนุนเงินสมทบกลับคืนเข้ากองทุนฯ ทำให้กองทุนฯสูญเสียรายได้กว่า 6.8 ล้านบาท


นอกจากนี้การแก้ไขปัญหานักศึกษาจบใหม่ที่ตกงานด้วยวิธีการ Co Payment โดยการร่วมมือกับบริษัทเอกชนรับเข้าทำงาน ไม่ประสบความสำเร็จ เกิดการจ้างงานจริงเพียง 5,762 อัตรา ขณะที่การจ้างของภาครัฐในช่วงโควิด-19 ไม่เป็นตามกฎหมายแรงงานบางแห่งจ่ายค่าจ้างเพียง 5000 ต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นความล้มเหลวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ขึ้นชี้แจง ยืนยันควบคุมโควิดแรงงานต่างด้าว การขึ้นทะเบียนนายจ้างเป็นผู้จ่าย


ขณะที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ชี้แจงข้อสงสัยการอภิปรายเรื่องกองทุนประกันสังคม ว่า แม้ตนจะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีไม่นาน แต่ทราบถึงปัญหาเงินกองทุนประกันสังคมทุกรัฐบาลได้ติดค้งไว้เป็นแสนล้าน มีรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเพียงรัฐบาลเดียวที่คืนให้สมทบปีละกว่า 40,000 ล้าน ขณะนี้เงินกองทุนที่รัฐบาลที่ผ่านมาค้างอยู่ 1.6 หมื่นล้าน

นายสุชาติ ยอมรับว่าได้ใช้เงินประกันสังคมในการช่วยเหลือเยียวยา แต่หากไม่ช่วยเหลือเยียวยา แล้วใครจะช่วยเหลือ จะนำเงินรัฐบาลในวันนั้นมาช่วยก็ไม่มีเงินกู้ สาเหตุการว่างงานครั้งที่ 1 ซึ่งรัฐบาลได้จ่ายเงินช่วยเหลือ หลังรัฐบาลประกาศล็อกดาวน์คนละ 5,000 บาท จำนวน 3 เดือน ทางประกันสังคมได้มีการช่วยเหลือเยียวยาเหตุสุดวิสัย 50% ทุกเหตุการณ์ แต่ที่จำเป็นต้องปรับมาเป็น 62% เนื่องจากค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 313 บาท โดยจะได้รับเงิน 5,043 บาทเป็นขั้นต่ำ พร้อมกับระบุว่าหากให้นายจ้างหรือลูกจ้างส่งเงินสมทบเต็ม ก็จะทำให้มีความเดือดร้อน ซึ่งเงินเหล่านี้จะถูกส่งเข้าในระบบรากหญ้า

ส่วนโครงการสินเชื่อเพื่อการจ้างงาน 30,000 ล้าน ดอกเบี้ยต่ำ ยืนยันว่าไม่ใช่การเอาใจผู้ประกอบการ แต่มีข้อตกลงในการรักษาการจ้างงานเป็นระยะเวลา 3 ปี


นายสุชาติ ยังกล่าวว่า ในช่วงที่ตนมารับตำแหน่งมีคนตกงานจำนวนมาก ตนจึงจัดงานจ๊อบเอ็กซ์โป โดยใช้งบประมาณไม่กี่ล้าน เสนอ ครม. นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน การจัดงานล้านคน ล้านตำแหน่ง เป็นสิ่งที่ดูเหมือนยาก แต่มีเอกชนจ้างงาน 1 ไตรมาส และอีก 1 เดือน มีการจ้างงานในภาคเอกชน 329,103 แหน่ง งานภาครัฐกว่า 600,000 ตำแหน่ง การที่ตนขออัตรา 260,000 เม็ดเงิน 19,000 กว่าล้าน ยืนยันว่าเม็ดเงินที่พูดใช้ไปตามความเป็นจริงไม่ได้เอาเงิน 19,000 ล้านบาทไปละลายหายไป จ้างเท่าไหร่จ่ายเท่านั้นนี่คือความจริง พร้อมชี้แจงว่าการจ้างงาน Co-payment ไม่เป็นไปตามเป้า เนื่องจากช่วงที่จัดงานปลายเดือนกันยายนต้นเดือนตุลาคม ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงเดือนนักศึกษาจบใหม่ในช่วงเดือนเมษายน และเจ้าของเอกชนไม่ได้ต้องการจ้างงานนักศึกษาจบใหม่ ต้องการให้คนเข้ามาเรียนรู้และอยู่ไปนานๆ

ส่วนการชดเชยผู้ประกันตนในมาตร 33 ที่ได้รับผลกระทบ กว่า 11 ล้านคน ตนทราบว่าหากโครงการเราชนะออกมา หากไม่มีโครงการ ม.33 เรารักกัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอาจต่อว่าตนมากกว่านี้ แต่ตนยืนยันว่าโครงการนี้ไม่ได้ใช่โครงการเงินกองทุนประกันสังคม แต่เป็นเงินกู้

ส่วนกรณีการปล่อยปละละเลยไม่ดูแลแรงงานต่างด้าว ตนได้ถกปัญหาร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หากบุกจับก็เหมือนฝีที่จะแตก ต้องให้อยู่กับที่ จึงต้องเสนอเข้าครม.นำคนนอกระบบเข้าสู่ระบบ หากไม่ควบคุมแรงงานให้อยู่กับที่ ก็จะมีการนำแรงงานออกจากพื้นที่เนื่องจากกลัวความผิด

นายสุชาติ ยังได้ชี้แจงในกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ยุยงปลุกปั่น ว่า ต้นมีเพื่อนทุกพรรค และไม่อยากพูดในสิ่งที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้กล่าวหาตน บ่นไม่อยากให้เอาเรื่องความจงรักภักดี ของคนไทยทั้งชาติหรือความจงรักภักดีของประชาชนชาวชลบุรี ซึ่งตนเป็นผู้แทนชาวชลบุรีไม่ควรเอามาอภิปรายในเวทีแห่งนี้ ถ้าตนจะพูดหรือไม่พูดออกไปในสิ่งที่เห็นแต่เหรียญด้านเดียวคงไม่ได้ ระหว่างนั้น นายสุชาติ ได้เปิดคลิปวีดีโอ ที่ระบุว่าเป็นคลิปที่ไม่มีใครอยากเห็นซึ่งเป็นเหตุการณ์ปะทะระหว่างม็อบราษฎรและม็อบเสื้อเหลือง ทำให้นายศุภชัย โพธิ์สุ ประธานในที่ประชุม ได้ถามกับนายสุชาติ ว่ามีความจำเป็นหรือไม่ที่ต้องเปิดคลิปดังกล่าว นายสุชาติ จึงพยายามอธิบายว่าไม่ได้เป็นผู้มาทะเลาะ แต่อยู่ในที่ตั้ง ตนไม่ต้องการทะเลาะกับใครทั้งสิ้น และเคารพสิทธิ์ทุกคน จึงอยากให้ทุกคนเคารพสิทธิ์ ไม่อยากให้พูดเรื่องเหล่านี้ในสภา ฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องแก้ข้อกล่าวหาตน ขอพูดด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าตนไม่มีความคิดให้คนไทยมาทะเลาะกัน แต่ไม่อยากให้ก้าวล่วงในสิ่งที่คนไทยรัก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]

คุมฝากขัง “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ค้านประกัน

27 ส.ค. – ตร.คุมตัว “อดีตพระอลงกต-หมอบี” ส่งฝากขังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พร้อมคัดค้านการประกันตัว เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ และนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ออกจากห้องคุมขัง ที่อาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อไปฝากขังที่ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เจ้าหน้าที่ได้แยกควบคุมตัวอดีตพระอลงกต หรือ ทิดจอร์จ สวมเสื้อยืดสีน้ำตาลและกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเข้ม ก่อนนำผ้าเช็ดตัวสีส้มมาห่มคลุมร่างกาย ขึ้นรถยนต์ตำรวจ ทันทีที่ออกมาทางอดีตพระอลงกตได้ยกมือซ้ายขึ้นมา ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามแต่ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ก่อนขึ้นนั่งบนรถ โดยมีศิษยานุศิษย์ประคองด้านข้าง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารู้สึกกังวลใจหรือมีอะไรอยากจะชี้แจงหรือไม่ พร้อมกับถามถึงความรู้สึกหลังจากที่ลาสิกขาแล้ว แต่อดีตพระอลงกต ได้แต่ยิ้มแย้มและยกมือปฏิเสธ ไม่ตอบคำถามใดๆ จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่า “ไปศาลใช่หรือไม่” อดีตพระอลงกต ตอบสั้นๆ ว่า “ไปศาล” ส่วนนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ได้แยกควบคุมตัวขึ้นรถกระบะของกองบังคับการปราบปราม โดยหมอบี ยังสวมใส่ชุดเดิม คือเสื้อแขนสั้นสีครีม และกางเกงขายาวสีน้ำตาล เจ้าตัวไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น.-419-สำนักข่าวไทย

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]