ศบค.ชมชาว กทม.ร่วมกันป้องกันโรคดี

ทำเนียบรัฐบาล 15 ม.ค.- ศบค.เผยผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 188 ราย ติดในประเทศ 154 ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกพุ่ง 93 ล้านราย ชมชาว กทม.ช่วยกันป้องกันโรคดี คงตัวเลขสองหลักไว้ได้ ทั้งที่ปัจจัยเสี่ยงเยอะ


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ 188 ราย แยกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 154 ราย มาจากต่างประเทศ 34 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 11,450 ราย หายป่วยเพิ่ม 628 ราย หายป่วยแล้วสะสม 8,288 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม รวมเสียชีวิตสะสม 69 ราย สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ แบ่งเป็น 1. มีประวัติไปสถานที่เสี่ยง อาชีพเสี่ยงสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 81 ราย ได้แก่ สมุทรสาคร 47 ราย กทม. 27 ราย สมุทรปราการ 2 ราย นครสวรรค์ นนทบุรี นราธิวาส ชลบุรี และระยอง จังหวัดละ 1 ราย

โฆษก ศบค. กล่าวว่า 2.คัดกรองเชิงรุกในชุมชน 73 ราย ได้แก่ สมุทรสาคร 52 ราย ฉะเชิงเทรา 7 ราย ระยอง 5 ราย ชลบุรีและสมุทรปราการ จังหวัดละ 3 ราย จันทบุรี 2 ราย และปทุมธานี 1 ราย และ 3.เดินทางมาจากต่างประเทศ 21 ราย ได้แก่ เยอรมนี 6 ราย ตุรกี 3 ราย เบลเยียม ซูดาน รัสเซีย สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต ประเทศละ 1 ราย และพม่า 13 ราย


“ขณะนี้ยังคงการติดเชื้อใน 60 จังหวัด ขอให้อีก 17 จังหวัดที่เหลือที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อนคงมาตรการต่อไป อย่างไรก็ตาม จังหวัดที่เคยติดเชื้อ พบว่าไม่มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ในช่วง 7 วันที่ผ่านมามี 20 จังหวัด ขอให้คงความเป็นพื้นที่สีเขียวต่อไป ยังมีรายงานติดเชื้อใหม่ในรอบ 7 วันอยู่ 40 จังหวัด” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มของ จ.อ่างทอง จากการคัดกรองในชุมชน สแกนทุกพื้นที่ขณะนี้ลงมาเป็น 0 ไม่มีรายงานติดเชื้อในวันนี้(15 ม.ค.) ส่วน จ.สมุทรปราการ แนวโน้มคงที่ มี 5 รายที่รายงานจากการค้นหาเชิงรุก ส่วน จ.นครปฐม เป็น 0 มาหลายวันแล้ว เฝ้าระวังในรพ.ปทุมธานี แนวโน้มยังอยู่ที่ 1 ราย ต้องค้นหาต่อไป สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด พบว่าเป็น 94% ของการติดเชื้อทั้งหมดในรอบนี้ ขณะนี้ตัวเลขสองหลักคือ กทม.และสมุทรสาครถือว่ายังมาก

“รายละเอียดผู้ป่วยยืนยันสะสมระลอกใหม่ในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.2563 – 15 ม.ค. 2564 อยู่ที่ 7,213 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 3,481 ราย ค้นหาคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 3,260 ราย ผู้เดินทางจากต่างประเทศ 438 ราย ผู้ป่วยรักษาหาย 628 ราย สะสมหายป่วยแล้ว 4,348 ราย กำลังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 2,856 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 9 ราย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว


โฆษก ศบค. กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทั่วโลก พบผู้ติดเชื้อยืนยันสะสม 93,529,253 ราย เสียชีวิตสะสม 2,002,347 ราย โดยสหรัฐอเมริกา ยังมีผู้ติดเชื้อสูงสุดอันดับ 1 จำนวน 23,848,410 ราย อันดับ 2. อินเดีย จำนวน 10,528,508 รายอันดับ 3. บราซิล จำนวน 8,326,115 ราย อันดับ 4. รัสเซีย จำนวน 3,495,816 ราย อันดับ 5. สหราชอาณาจักร จำนวน 3,260,258 ราย ส่วนประเทศไทยอยู่อันดับที่ 128

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เช้าวันนี้ (15 ม.ค.) นายกรัฐมนตรีประชุมเทเลคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขไปยังจังหวัดตาก เพื่อติดตามสถานการณ์โควิด-19 พบมีผู้ติดเชื้อ 100 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศ 81 ราย ติดเชื้อในจังหวัด 19 ราย โดยนายพงษ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตากรายงานแผนเตรียมความพร้อมโรงพยาบาล เสริมเตียงผู้ป่วย และเตรียมโรงพยาบาลสนาม รองรับกรณีมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม

“ส่วนความมั่นคงตามแนวชายแดนได้สนธิกำลังกับทหาร ตำรวจ ชุดลาดตระเวน 175 จุด ป้องกันการลักลอบเข้าประเทศ สำหรับคนไทยที่ต้องการกลับเข้าประเทศบริเวณชายแดน จ.ตากมีจำนวนมาก ซึ่งอนุญาตให้เดินทางเข้ามาและยกกฎเกณฑ์บางอย่างเพื่อนำเข้าตรวจคัดกรองป้องกันการลักลอบ พบว่ามี 152 รายที่เดินทางเข้าประเทศ และเข้าสู่สถานที่กักกันของรัฐติดเชื้อ 65 ราย” โฆษก ศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงกราฟตัวเลขผู้ติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ยังเป็นสีแดง ขณะที่หลายจังหวัดเริ่มลดระดับลง ว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองใหญ่ จึงมีหลายปัจจัย ทั้งสถานบันเทิง ตลาด มีคนจำนวนมากเป็น 10 ล้านคน และยังมีผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง แต่กรุงเทพมหานครดำเนินการอย่างเข้มข้นมา โดยการค้นหาเชิงรุก ซึ่งการที่คงตัวเลข 2 หลักถือว่าควบคุมโรคได้ดี ต้องชมชาวกรุงเทพฯ ที่ช่วยกันป้องกันโรคได้ดี.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ.-สำนักข่าวไทย

หกเดือนหก กองทัพอากาศเตรียมความพร้อม สั่งวันนี้ ส่งทันที ถึงที่หมาย

กองทัพอากาศ 6 มิ.ย.- กองทัพอากาศ เผยพร้อมติดตั้งระเบิด เครื่องบินรบ แสดงความพร้อมกำลังพล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจกองทัพอากาศ เผยข้อความ หกเดือนหก (6.6)⚡กองทัพอากาศ เตรียมความพร้อม สั่งวันนี้ • ส่งทันที • ถึงที่หมาย ฝูงบิน 103 กองบิน 1เครื่องบิน F-16 นามเรียกขาน ” Lightning “ติดตั้งระเบิด พร้อมขึ้นปฏิบัติการสายฟ้าฟาด ปกป้องอธิปไตย พร้อมกันนี้ มีการติดแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ด้วย.-313.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ถก สมช. ชี้รัฐบาล-กองทัพ ไร้ปัญหา ทำงานเป็นเอกภาพ

ทำเนียบ 6 มิ.ย.-นายกฯ ถก สมช.แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้รัฐบาลกับกองทัพ เคลียร์อำนาจหน้าที่แล้วไร้ปัญหา ย้ำ ทำงานเป็นเอกภาพ รักษาเอกราชอธิปไตยของประเทศ พร้อมรับทุกสถานการณ์ ยึดสันติวิธี บอกมอบหน้างานประเมินหากต้องปะทะ ทุกอย่างยังโอเค ยืนยันรัฐบาลทำงานไม่ช้า กำชับ ก.ดีอี ดูเนื้อหาปลุกปั่นหวั่นขยายขัดแย้ง ด้าน ผบ.ทสส. ลั่น กองทัพพร้อมหนุนรัฐบาล แจงประชุมเหล่าทัพไม่เชิญสื่อ ขอทำงานมืออาชีพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุม สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เพื่อหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้มีการพูดคุยถึงมาตรการต่างๆ ในการรับมือสถานการณ์ หลังจากเมื่อวานนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปคุยกับทีมกัมพูชา ซึ่งยืนยันว่าขณะนี้สถานการณ์ยังโอเคอยู่ และยืนยันว่า ทุกหน่วย ทุกฝ่ายทั้งกองทัพและรัฐบาลมีการปรึกษากันตลอดก่อนที่จะดำเนินการใดใด อำนาจไหนที่เป็นของใคร และทุกคนทราบในอำนาจของตัวเองเป็นอย่างดี และวันนี้สิ่งที่ต้องการคือความเป็นเอกภาพในการทำงานทั้งหมด ซึ่งวันนี้ ได้คุยกับ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี […]

คปท.รวมตัวหน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงจุดยืนกรณีพิพาทพรมแดน

กรุงเทพฯ 6 มิ.ย. – กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ชูธงชาติไทย-ป้ายสัญลักษณ์ หน้าสถานทูตกัมพูชา แสดงเจตจำนงปกป้องประเทศชาติ กรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ได้เดินทางมารวมตัวกันบริเวณด้านหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ถนนประชาอุทิศ แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง เพื่อเคลื่อนไหวจากกรณีข้อพิพาทระหว่างพรมแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ต่างประดับประดาด้วยธงชาติ และชูป้ายสัญลักษณ์ข้อความแสดงอุดมการณ์เจตนารมณ์ถึงการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังได้นำรถขยายเสียงมาพูดปราศรัยแสดงเจตจำนงที่จะปกป้องประเทศชาติในช่วงสถานการณ์พิพาทระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้มีเจ้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชา เปิดกระจกออกมาเพื่อใช้มือถือถ่ายภาพการชุมนุมเป็นระยะๆ สำหรับบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ทาง สน.วังทองหลาง และ บก.น.4 ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 หมวด ประมาณ 100 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ วางกำลังดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยบริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา พร้อมนำแผงรั้วเหล็กกั้นมาวางเป็นแนวยาว เพื่อไม่ให้ม็อบเข้าประชิดติดตัวกำแพงสถานเอกอัครราชทูต เนื่องจากอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่จะส่งผลต่อความมั่นคงระหว่าง 2 ประเทศ.-414-สำนักข่าวไทย