กกต.สั่งเอาผิดอาญา “พีระวิทย์” พร้อมพวก 8 ราย

กกต. 26 ธ.ค. – กกต.สั่งเอาผิดอาญา “พีระวิทย์” หัวหน้าพรรคไทรักธรรม พร้อมพวก 8 ราย ตั้งกลุ่มทำดอกไม้จันทน์ จูงใจคนสมัครเป็นสมาชิก-จ่ายค่าบำรุงพรรคแทนผู้สมัครสมาชิก


วันนี้ (26 ธ.ค. ) สำนักงาน กกต.เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.ที่ 58/2563 กรณีการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขต 1 เขต 2 และเขต 3 จ.พิจิตร เมื่อ 24 มีนาคม 2562 โดยก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง กกต. ได้รับรายงานกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่านายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม กับพวกซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตพรรคไทรักธรรม และสมาชิกพรรคไทรักธรรม ในพื้นที่ จ.พิจิตร รวม 10 ราย กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 30 เสนอว่าจะให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน ประโยชน์อื่นใดไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม เพื่อจูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคไทรักธรรม

กกต.พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานอื่น ๆ ได้ความว่า มีผู้แจ้งเหตุว่าระหว่างเดือนกันยายน 2561 ถึงมกราคม 2562 ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 10 ราย ร่วมกันเชิญชวนให้ชาวบ้านใน ต.ป่ามะคาบ อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร มารวมกลุ่มกันทำดอกไม้จันทน์ โดยพรรคไทรักธรรมจะเป็นผู้ลงทุนซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ประชาชนรวมกลุ่มกันทำ และเมื่อทำแล้วเสร็จ พรรคไทรักธรรมจะรับซื้อคืนในราคาดอกละ 1 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าต้องสมัครเข้าพรรคก่อน จึงมีสิทธิเข้าร่วมกลุ่ม


นายพีระวิทย์ ให้ถ้อยคำชี้แจงว่า การทำดอกไม้จันทน์ดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของพรรคด้านการศึกษา และนโยบายประชานิยมที่กำหนดไว้ในนโยบายพรรค และข้อบังคับพรรค แต่มีผู้ถูกกล่าวหาบางรายให้ถ้อยคำว่า ได้สมัครสมาชิกพรรคไทรักธรรม เพราะต้องการเข้าร่วมกลุ่มทำดอกไม้จันทน์ และได้ชักชวนให้ญาติพี่น้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคประมาณ 20 ราย ประกอบกับมีพยานเป็นสมาชิกพรรคไทรักธรรมให้ถ้อยคำสอดคล้องกันว่าได้สมัครเป็นสมาชิกพรรค เพื่อต้องการทำดอกไม้จันทน์ โดยไม่ได้เสียค่าสมัครสมาชิกหรือค่าบำรุงพรรค

กกต.เห็นว่าการให้ถ้อยคำของนายพีระวิทย์ ยังไม่อาจหักล้างข้อเท็จจริงที่ได้จากการให้ถ้อยคำของผู้ถูกกล่าวหารายอื่น ๆ และพยานที่ไต่สวนประกอบได้ พยานหลักฐานรับฟังได้ว่า นายพีระวิทย์ และผู้กล่าวหาอื่นรวม 8 ราย กระทำผิดตามมาตรา 30 แห่ง พ.ร.ป.พรรคการเมืองฯ ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่เหลือ 2 ราย ไม่ปรากฏพยานหลักฐานร่วมกับผู้ถูกกล่าวหารายอื่น

นอกจากนี้ กกต.ยังพบข้อเท็จจริงจากการไต่สวนว่า มีการสำรองออกเงินค่าสมัครสมาชิก ค่าบำรุงพรรคให้แก่ผู้สมัครที่เป็นสมาชิกพรรคไทรักธรรมประมาณ 20-30 ราย แบบตลอดชีพ รายละ 2,000 บาท และแบบรายปีรายละ 100 บาท โดยผู้สมัครสมาชิกพรรคส่วนใหญ่จะไม่เสียค่าบำรุงพรรค ประกอบกับมีบันทึกเสียงการสนทนาระหว่างนายพีระวิทย์ และกรรมการบริหารพรรค มีใจความกำชับให้กรรมการบริหารพรรคเร่งรัดหาบุคคลผู้สมัคร ส.ส.ให้ทันระยะเวลากำหนด โดยนายพีระวิทย์จะรับผิดชอบค่าสมัครสมาชิกพรรคหรือค่าบำรุงพรรคการเมืองแบบตลอดชีพ จำนวน 2,000 บาท ให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เอง พยานหลักฐานจึงฟังได้ว่า กระทำผิดตามมาตรา 30 แห่ง พ.ร.ป.พรรคการเมือง จึงมีคำสั่งให้ดำเนินคดีอาญาแก่นายพีระวิทย์ รวมถึงผู้ถูกกล่าวหาที่ 2, 4, 5, 6, 8, 9, 10 ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่ 3, 7 ให้ยุติเรื่อง. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โรงสีข้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

บั้งไฟสิบล้านตกใส่โกดังโรงสีข้าว หลังคาทะลุ โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ด้านโรงสีไม่ได้แจ้งความหรือดำเนินคดี