รัฐสภา 23 ธ.ค. – สภาฯ รับหลักการร่างกฎหมายทำแท้ง เพื่อให้ทันใช้ 19 ก.พ.64
ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณารับหลักการ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ…. ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)เป็นผู้เสนอ และ ร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ….ที่คณะของส.ส.พรรคก้าวไกล เป็นผู้เสนอ ทั้งนี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ นำเสนอสาระของร่างกฎหมายว่า ต้องพิจารณาและทำเนื้อหาของร่างกฎหมายซึ่งปรับปรุงแล้ว ให้ทันใช้ในวันที่ 19 ก.พ. 2564 ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัย ทั้งนี้ในสาระสำคัญของการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายฉบับดังกล่าว เพื่อปรับปรุงเนื้อหาว่าด้วยการทำแท้งลูก ตามมาตรา 301 ว่าด้วยการกำหนดอายุครรภ์สำหรับความผิดฐานหญิงทำให้ตนเองแท้งลูกหรือยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูก ซึ่งเนื้อหากำหนดว่า กรณีทำแท้งอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทและมาตรา 305 ว่าด้วยเหตุยกเว้นความผิดฐานทำให้แท้งลูก สำหรับผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภา กณีที่จำเป็นเพราะหญิงตั้งครรภ์เสี่ยงได้รับอันตราย ทารกเสี่ยงมีความผิดปกติทางกายหรือใจ ขนาดทุพพลภาพอย่างร้ายแรง ตั้งครรภ์เพราะการกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศ และหญิงที่อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์
นายวิษณุ กล่าวว่า เหตุผลสำคัญ คือเป็นการแก้ไขกฎหมายตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 4/2563 วันที่ 19 ก.พ. 2563 วินิจฉัยให้บทบัญญัติของ 2 มาตรานั้นขัดหรือแย้งต่อมมาตรา 28 ของรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของหญิงเกินความจำเป็น และรัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐมีหน้าที่ส่งเสริมบุคคลใช้สิทธิเสรีภาพโดยจัดให้มีมาตรการยุติครรภ์ที่ปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการอภิปรายแสดงความคิดเห็นของ ส.ส.แล้ว ก่อนที่ประชุมขอมติว่าจะใช้ร่างกฎหมายฉบับใดเป็นหลักนั้น โดยนายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า เห็นด้วยกับร่างของ ครม. แต่อาจมีรายละเอียดบางอย่างที่หายไป และมีเนื้อหาที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อาทิ อายุครรภ์, คำเรียกของหญิง ที่เปลี่ยนเป็น บุคคล เพื่อรองรับกรณีที่มีการแปลงเพศ รวมถึงเงื่อนไขของการทำแท้งที่ได้รับการยกเว้นไม่ผิดกฎหมายทั้งนี้พรรคก้าวไกล ไม่สนับสนุนการทำแท้งแต่เป้าหมายสำคัญคือ ต้องการให้ผู้หญิงปลอดภัย และจะทำอย่างไรให้อัตราการทำแท้งลดลง
ทั้งนี้นายณัฐวุฒิ บัวปทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ขอให้สภาฯ พิจารณาให้ใช้ร่างกฎหมายของ ส.ส.พรรคก้าวไกล เป็นหลักแทนร่างของรัฐบาล แม้หลักการจะใกล้เคียงกัน แต่เนื้อหาสาระแตกต่างกัน
จากนั้นที่ประชุมต้องใช้การลงมติรับหลักการ ปรากฎว่ารับหลักการ 284 เสียง ไม่เห็นด้วย 5 เสียง งดออกเสียง 16 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง โดยใช้ร่าง พ.ร.บ.ของรัฐบาลเป็นหลัก และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 39 คนแปรญัตติ 7 วัน .- สำนักข่าวไทย