ลำดับเหตุการณ์คณะราษฎรเคลื่อนพลบุกทำเนียบฯ

กรุงเทพฯ 14 ต.ค. – สำนักข่าวไทย ประมวลเหตุการณ์สำคัญของการชุมนุมกลุ่มคณะราษฎร รวมถึงการรวมตัวคู่ขนานของกลุ่มต่างๆ ตลอดทั้งวันจนถึงช่วงเย็นวันนี้ ซึ่งพบว่ามีการกระทบกระทั่งกันในบางจุด ทำให้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย


เวลา 08.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร รวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เตรียมพร้อมเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล พร้อมย้ำ 3 ข้อเรียกร้อง ไม่ให้ใช้ความรุนแรง ขณะที่ตำรวจระดมกำลังเตรียมพร้อม เน้นปิดกั้นตามเส้นทางจุดยุทธศาสตร์ ตามเส้นทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แยกผ่านฟ้าลีลาศ ถ.ราชดำเนินนอก สะพานมัฆวานรังสรรค์ รวมถึงบริเวณสะพานเทวกรรมรังรักษ์ และสะพานชมัยมรุเชฐ ที่เป็นเส้นทางเคลื่อนขบวนสำรอง

เวลา 09.30 น. มีความเคลื่อนไหวบริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ฝั่งประตู 5 กลุ่มคณะกรรมการเครือข่ายไฟฟ้า ประปาและยา เพื่อชาติประชาชน (คฟปย.) และกลุ่มของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ทยอยรวมตัวกัน ภารกิจหลัก คือ รับเสด็จฯ โดยประกาศหากกลุ่มคณะราษฎรสกัดขบวนเสด็จฯ จะไม่ยินยอม และยอมรับว่า การที่ตำรวจคุมตัว “ไผ่ ดาวดิน” ดำเนินคดี อาจเป็นการเติมเชื้อไฟ


เวลา 10.00 น. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวระดมกำลังตำรวจ 99 กองร้อย หรือ 14,000 นาย รับมือการชุมนุม และป้องกันการเผชิญหน้า หรือมือที่ 3 พร้อมแนะให้หลีกเลี่ยงเส้นทางโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ขณะที่เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งได้ใช้น้ำและอุปกรณ์ทำความสะอาดสีที่ป้ายหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังถูกมวลชนสาดสีใส่ป้าย เมื่อวานนี้ (13 ต.ค.)

เวลา 10.40 น. กลุ่มผู้สนับสนุนคณะราษฎรเข้าพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมนำรถเครื่องเสียงขนาดใหญ่ 2 คัน เข้าพื้นที่ ขณะที่ตำรวจได้ประกาศคืนพื้นผิวการจราจรและยุติการชุมนุม แต่ถูกโห่ร้องขับไล่ และจำใจต้องล่าถอยกลับไป เพราะมีกำลังน้อยกว่า


เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้าพื้นที่เพื่อเจรจากับแกนนำ หวังขอให้เปิดการจราจร แต่ระหว่างนั้นกลุ่มมวลชนได้ผลักดันผู้บัญชาการตำรวจนครบาลออกจากแนวเวที แม้มีตำรวจนอกเครื่องแบบและการ์ดผู้ชุมนุมดูแล แต่ปรากฏว่ามี “แก้วน้ำปริศนา” จากกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาถูกผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

เวลา 11.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งปฏิบัติภารกิจที่ จ.ปทุมธานี ยังสงวนท่าทีเกี่ยวกับการชุมนุม แต่ยืนยันว่าได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ และไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ เพิ่มเติม

เวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำรถเมล์มาจอดขวางและปิดถนนราชดำเนินกลาง บริเวณแยกผ่านฟ้าลีลาศ เพื่อป้องเส้นทางไม่ให้ผู้ชุมนุมคณะราษฎรเคลื่อนไปยังทำเนียบรัฐบาล ขณะที่มีการนำรถบรรทุกแท่งแบริเออร์มาปิดทางเข้า-ออก รอบทำเนียบรัฐบาล ทั้งบริเวณสะพานเทวกรรมรังรักษ์ เชิงสะพานอรทัย ถนนเลียบคลองผดุงฯ รวมถึงเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ถ.พิษณุโลก

ส่วนโลกโซเชียลฯ แห่แชร์ภาพรถหน่วยงานราชการหนึ่งขนประชาชนสวมเสื้อเหลืองนับร้อยคน ขึ้นทางด่วนกำแพงเพชร และลงทางด่วนยมราช ทำให้มีการตั้งคำถามว่า เหมาะสมหรือผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะเป็นการขนคนขึ้นทางด่วน

เวลา 13.00 น. สถานการณ์ร้อนแรงมากยิ่งขึ้น หลังเกิดเหตุชุลมุนบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยพบผู้ชุมนุมบางส่วนของคณะราษฎร และประชาชนที่สวมเสื้อเหลือง เกิดการเผชิญหน้าและปะทะกันเล็กน้อยบน ถ.ราชดำเนิน พร้อมขว้างปาสิ่งของเข้าใส่กัน ขณะที่แกนนำคณะราษฎรได้ประกาศบนรถเครื่องขยายเสียง เรียกให้กลุ่มผู้ชุมนุมกลับมารวมตัวกันที่จุดชุมนุมฝั่งหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ขณะที่ตำรวจและการ์ดอาสาของกลุ่มคณะราษฎรได้พยายามเข้าห้ามปราม ก่อนทั้ง 2 ฝ่ายจะล่าถอยกลับไปยังจุดการชุมนุมของตัวเอง

เวลา 13.35 น. กลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎรบางส่วนได้เข้าไปรื้อต้นไม้บริเวณฐานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมกับยึดพื้นที่เอาไว้ได้ จนเกือบทำให้เกิดการปะทะรอบ 2 ก่อนประกาศทวงคืนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยให้เป็นของประชาชน

เวลา 13.50 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย พร้อมคณะ เดินทางถึงบริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ เพื่อร่วมรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมปฏิเสธว่าไม่ทราบข้อมูลภาพที่มีรถกระบะบรรทุกคนสวมเสื้อเหลือง ส่วน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก เดินทางมาร่วมสมทบกับกลุ่มเสื้อเหลือง ในฐานะกลุ่มไทยภักดี ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์

เวลา 14.25 น. แกนนำผู้ชุมนุมคณะราษฎร นำโดยนายอานนท์ นำภา และคนอื่นๆ ประกาศเคลื่อนขบวนและมวลชนออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยมีแนวหน้าเดินนำขบวนเข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ในเส้นทางที่จะเคลื่อนผ่าน พร้อมย้ำให้ชุมนุมด้วยความสงบ

เวลา 14.50 น. กลุ่มมวลชนเดินเท้าไปยังเชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ แต่มีกำลังตำรวจปักหลักสกัดไว้ แกนนำคณะราษฎรจึงเดินเข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ เพื่อขอเปิดแนวกั้น อย่างไรก็ตาม หลังแนวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปรากฏว่ามีรถเมล์ ขสมก. จอดปิดบริเวณแยกผ่านฟ้าลีลาศ เต็มช่องจราจร ถ.ราชดำเนินกลาง ทำให้ไม่สามารถเดินผ่านไปได้ ส่งผลให้ภาพรวมการเจรจาจบลงที่กลุ่มผู้ชุมนุมต้องเปลี่ยนไปใช้เส้นทาง ถ.นครสวรรค์ แทน

เวลา 15.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเดินเท้าไปตาม ถ.นครสวรรค์ โดยมีเจ้าหน้าที่ปิดกั้นถนน พร้อมนำแบริเออร์มาตั้งไว้บริเวณถนนเลียบคลองผดุงฯ ใกล้กับสะพานเทวกรรมรังรักษ์ รวมถึงพบว่ามีกำลังเจ้าหน้าที่ประจำที่สะพานอรทัย ทำให้ผู้ชุมนุมเดินเท้าไปตาม ถ.นครสวรรค์ มุ่งหน้าแยกนางเลิ้ง อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า บริเวณสะพานลอยก่อนถึงแยกนางเลิ้ง พบรถบัสของ ตชด. จอดปิดเส้นทาง และพบมวลชนไม่ทราบฝ่ายสวมเสื้อสีเหลืองยืนรออยู่หลังแนวตำรวจ

เวลา 15.50 น. กลุ่มผู้ชุมนุมพักการเดินเท้าที่บริเวณดังกล่าว โดยมีการส่งตัวแทนเข้าไปเจรจากับตำรวจ เพื่อขอให้เคลื่อนย้ายรถบัส ตชด.ออกจากถนน หวังจะเดินเท้าไปยังแยกนางเลิ้ง ก่อนเลี้ยวซ้ายไปตาม ถ.พิษณุโลก เพื่อจะข้ามสะพานชมัยมรุเชฐ แต่ระหว่างนั้นมีการเขย่ารถบัส ตชด.เล็กน้อย ก่อนที่จะรามือ และยังคงปักหลักอยู่บน ถ.นครสวรรค์ ห่างจากแยกนางเลิ้งไม่ไกล. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]