“รังสิมันต์” งง “กคพ.” ตั้งคดีฮั้ว สว. แค่ฟอกเงิน

ฮั้วเลือก สว.

รัฐสภา 7 มี.ค.-“รังสิมันต์” งง “กคพ.” ตั้งคดีฮั้ว สว. แค่ฟอกเงิน ทั้งที่ควรตั้งต้นที่อั้งยี่ซ่องโจร มองเป็นการสะท้อนภาวะผู้นำนายกฯ ที่คุม ตร.เข้าประชุมบอร์ดดีเอสไอไม่ได้ เชื่อมีการต่อรองกันและป่านนี้ คงฉลองแชมเปญกันไปแล้ว เหน็บสภาพรัฐบาลเหมือนภาวะเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกัน จะรู้ว่าเสือตัวไหนเข้มแข็งที่สุด อย่าดูแค่จำนวน สส.อย่างเดียว สงสัย กกต.มีเอี่ยวฮั้วหรือไม่ ถึงดึงคดีล่าช้า

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ (กคพ.)รับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษฐานความผิดฟอกเงิน ว่า เวลาจะพูดถึงฟอกเงินต้องมีคดีมูลฐานก่อน ซึ่งตนงงว่าจะตั้งฐานโดยใช้คดีมูลฐานอั้งยี่ซ่องโจร ก็จะสามารถไปคดึฟอกเงินได้ แต่เมื่อตั้งต้นจากคดีฟอกเงินก่อน ก็จะต้องกลับไปตั้งต้นว่าคดีมูลฐานเป็นอย่างไร หากถามว่าทำได้หรือไม่ ตั้งเป็นคดีฟอกเงินก็ทำได้ แต่อาจจะต้องตั้งต้นจากอั้งยี่ซ่องโจรเป็นหลัก ซึ่งตนเข้าใจว่ามีปัญหาเรื่องของการล็อบบี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด เพราะเริ่มต้นพิจารณาตำรวจหายไปถึง 3 คน ทั้งที่ตำรวจอยู่ภายใต้กำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี ซึ่งแทบจะเรียกได้ว่าเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของตำรวจ เหตุใดจึงไม่สามารถกำกับดูแลให้ตำรวจปฎิบัติหน้าที่ของตัวเองในบอร์ดดีเอสไอได้ เพราะต้องยอมรับว่ารัฐบาลพยายามที่จะเปิดปฎิบัติการอย่างหนักในเรื่องนี้ แต่กรณีที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลนี้ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ แม้กระทั่งการปราบอาชญากรรม ที่มีความร้ายแรงขนาดนี้ จึงมีคำถามว่าศักยภาพของรัฐบาลนี้จะทำได้มากน้อยแค่ไหน และต้องไม่มองแค่ สว.ต้องถามกลับไปด้วยว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีความผิดอะไรหรือไม่ ถึงปล่อยให้ระยะเวลาเนิ่นนานขนาดนี้ สมมุติว่ามีการกระทำความผิดจริง ไม่ว่าจะเป็นการฮั้ว สว.หรืออะไร แต่กกต.ปล่อยระยะเวลาให้เนิ่นนานขนาดนี้ ตนคิดว่าเจ้าหน้าที่ของ กกต.ก็น่าสงสัยเหมือนกัน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือกระทำความผิดด้วยหรือไม่


สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นเกิดจากการพบกันของผู้มีอิทธิพลทั้งในและนอกรัฐบาลหรือไม่จึงทำให้คดีสว.เหลือเพียงแค่คดีฟอกเงินนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าสถานภาพของรัฐบาลที่มีความไม่แน่นอนสูง เป็นสภาวะเสือ 2 ตัวอยู่ถ้ำเดียวกัน ซึ่งทำให้ปัญหาความเป็นเอกภาพของรัฐบาลที่ต้องยอมรับว่ามีอยู่ เพราะมีการปะทะกันระหว่างการทำงานของสองขั้ว ทำให้การทำงานไม่มีความเป็นเอกภาพ การที่เราจะบอกว่าเสือตัวไหนแข็งแรง จะดูแค่ที่นั่ง สส.ไม่ได้ เพราะมีปัจจัยที่มากกว่านั้น เมื่อเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลมีความอ่อนแอลง ผนวกกับมีผู้มีอำนาจที่อยู่นอกรัฐบาลเข้ามามีปัจจัยเกี่ยวข้อง ในการล็อบบี้ต่างๆ สุดท้ายจึงทำให้ดีเอสไอไม่สามารถที่จะทำคดีเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษได้อย่างเต็มที่ การตั้งข้อกล่าวหาจึงดูค่อนข้างแปลกประหลาด

เมื่อถามว่าการที่ตั้งคดีแค่การฟอก คิดว่าจะส่งผลอะไรกับสว.ชุดนี้บ้าง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้าดูจากบรรยากาศแบบนี้แสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่มีศักยภาพ ในการที่จะใช้ในการที่จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ เมื่อเป็นแบบนี้ถ้ามีผู้กระทำความผิดฮั้วสว.จริง เขาอาจจะฉลองแชมเปญกันไปแล้ว เพราะแสดงให้เห็นว่า ปัญหาเรื่องนี้คงไม่สามารถคลี่คลายได้โดยง่าย และเป็นบทพิสูจน์ว่าตัวรัฐบาลในการบังคับใช้กฎหมายอ่อนแอมาก มากกว่าที่จะแสดงถึงความเข้มแข็ง คือการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง มาจากหลายปัจจัย ส่วนหนึ่งคือภาวะผู้นำของนายกฯ มากเพียงพอหรือไม่ว่ามีภาวะผู้นำที่เข้มแข็งมากเพียงพอหรือไม่ ในการที่ทำให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่า รัฐบาลนี้เอาจริงเอาจังกับการบังคับใช้กฎหมาย ที่จะทำให้ทุกฝ่ายซึ่งรวมไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล ให้ความเชื่อมั่นว่านี่คือรัฐบาลที่เขาต้องยอมรับ และการเป็นผู้นำต่อไป ถ้าปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหาอาชญากรรมต่างๆที่เชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจฝ่ายต่างๆ ก็อาจจะไม่ได้รับการแก้ไขต่อไป และเป็นปัญหาร้ายแรงของประเทศต่อไป


เมื่อถามย้ำว่า การตั้งข้อหาแค่นี้ไม่ทำให้เก้าอี้ สว.สั่นสะเทือน นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนคิดว่ายังอีกไกลที่จะไปบอกว่าสะเทือนหรือไม่สะเทือนร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะดูได้จากผลโหวตที่ออกมาก็ชัดว่ารัฐบาลมีความเข้มแข็งเพียงพอในการบังคับใช้กฎหมาย เพราะการออกมาในรูปคดีฟอกเงินสุดท้ายแล้วก็ต้องมาหาคดีมูลฐานอยู่ดี

เมื่อถามว่าผู้ลาประชุมส่วนใหญ่เป็นตำรวจ ที่อยู่ในการกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี สะท้อนว่านายกรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้หรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ขนาดตำรวจอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรียังเอาไม่อยู่เลย อย่างผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้คนมาแทน แล้วมาไม่ได้ อย่างนี้มอบหมายทำไม เรารู้อยู่แล้วว่าวิธีการเช่นนี้ “มีคุณเขาขอมา” คุณก็เลยใช้วิธีขอลาไม่เข้าประชุมตั้งแต่ต้น กะว่าจะไม่ผิดใจกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คงคิดว่าวิธีการนี้เป็นวิธีการที่ดีที่สุด แต่การทำแบบนี้ แสดงให้เห็นว่าแม้กระทั่งตำรวจเองก็ไม่สนใจนายกรัฐมนตรีเลย และจริงๆแล้วนายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งเป็นรองนายกฯด้านความมั่นคง ตำรวจยังไม่ให้ความเคารพนับถือเลย จึงกลับไปที่ตัวนายกฯว่าที่ตำรวจ และองค์กรต่างๆไม่เชื่อฟัง เพราะนายกฯไม่มีภาวะความเป็นผู้นำ

“ผมเชื่อว่ามีการต่อรอง และดิวกันทาง การเมืองต่อไป ผมว่าเกมเรื่องนี้สำหรับฝ่ายต่างๆยังคงอีกไกล และ ผมไม่อยากเดาว่า เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับการที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด เข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แต่เชื่อว่าทุกมูฟเม้นท์ ทุกย่างก้าว ของฝ่ายต่างๆ ล้วนถูกนำไปตีความในหลายๆด้านอยู่แล้ว ผมคงไม่ต้องลงรายละเอียดว่า สว.สีน้ำเงินหมายถึงอะไร แต่ทุกย่างก้าวของฝ่ายการเมืองจะนำไปสู่การตั้งคำถาม ซึ่งหลายๆคำถามเป็นคำถามที่ไม่ดีเลย แต่เป็นคำถามที่ประชาชนสงสัย และรู้สึกไม่ดีกับรัฐบาลเพิ่มขึ้น” นายรังสิมันต์ กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]