“รังสิมันต์” งง “กคพ.” ตั้งคดีฮั้ว สว. แค่ฟอกเงิน

ฮั้วเลือก สว.

รัฐสภา 7 มี.ค.-“รังสิมันต์” งง “กคพ.” ตั้งคดีฮั้ว สว. แค่ฟอกเงิน ทั้งที่ควรตั้งต้นที่อั้งยี่ซ่องโจร มองเป็นการสะท้อนภาวะผู้นำนายกฯ ที่คุม ตร.เข้าประชุมบอร์ดดีเอสไอไม่ได้ เชื่อมีการต่อรองกันและป่านนี้ คงฉลองแชมเปญกันไปแล้ว เหน็บสภาพรัฐบาลเหมือนภาวะเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกัน จะรู้ว่าเสือตัวไหนเข้มแข็งที่สุด อย่าดูแค่จำนวน สส.อย่างเดียว สงสัย กกต.มีเอี่ยวฮั้วหรือไม่ ถึงดึงคดีล่าช้า

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ (กคพ.)รับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษฐานความผิดฟอกเงิน ว่า เวลาจะพูดถึงฟอกเงินต้องมีคดีมูลฐานก่อน ซึ่งตนงงว่าจะตั้งฐานโดยใช้คดีมูลฐานอั้งยี่ซ่องโจร ก็จะสามารถไปคดึฟอกเงินได้ แต่เมื่อตั้งต้นจากคดีฟอกเงินก่อน ก็จะต้องกลับไปตั้งต้นว่าคดีมูลฐานเป็นอย่างไร หากถามว่าทำได้หรือไม่ ตั้งเป็นคดีฟอกเงินก็ทำได้ แต่อาจจะต้องตั้งต้นจากอั้งยี่ซ่องโจรเป็นหลัก ซึ่งตนเข้าใจว่ามีปัญหาเรื่องของการล็อบบี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด เพราะเริ่มต้นพิจารณาตำรวจหายไปถึง 3 คน ทั้งที่ตำรวจอยู่ภายใต้กำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี ซึ่งแทบจะเรียกได้ว่าเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของตำรวจ เหตุใดจึงไม่สามารถกำกับดูแลให้ตำรวจปฎิบัติหน้าที่ของตัวเองในบอร์ดดีเอสไอได้ เพราะต้องยอมรับว่ารัฐบาลพยายามที่จะเปิดปฎิบัติการอย่างหนักในเรื่องนี้ แต่กรณีที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลนี้ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ แม้กระทั่งการปราบอาชญากรรม ที่มีความร้ายแรงขนาดนี้ จึงมีคำถามว่าศักยภาพของรัฐบาลนี้จะทำได้มากน้อยแค่ไหน และต้องไม่มองแค่ สว.ต้องถามกลับไปด้วยว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีความผิดอะไรหรือไม่ ถึงปล่อยให้ระยะเวลาเนิ่นนานขนาดนี้ สมมุติว่ามีการกระทำความผิดจริง ไม่ว่าจะเป็นการฮั้ว สว.หรืออะไร แต่กกต.ปล่อยระยะเวลาให้เนิ่นนานขนาดนี้ ตนคิดว่าเจ้าหน้าที่ของ กกต.ก็น่าสงสัยเหมือนกัน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือกระทำความผิดด้วยหรือไม่


สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นเกิดจากการพบกันของผู้มีอิทธิพลทั้งในและนอกรัฐบาลหรือไม่จึงทำให้คดีสว.เหลือเพียงแค่คดีฟอกเงินนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าสถานภาพของรัฐบาลที่มีความไม่แน่นอนสูง เป็นสภาวะเสือ 2 ตัวอยู่ถ้ำเดียวกัน ซึ่งทำให้ปัญหาความเป็นเอกภาพของรัฐบาลที่ต้องยอมรับว่ามีอยู่ เพราะมีการปะทะกันระหว่างการทำงานของสองขั้ว ทำให้การทำงานไม่มีความเป็นเอกภาพ การที่เราจะบอกว่าเสือตัวไหนแข็งแรง จะดูแค่ที่นั่ง สส.ไม่ได้ เพราะมีปัจจัยที่มากกว่านั้น เมื่อเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลมีความอ่อนแอลง ผนวกกับมีผู้มีอำนาจที่อยู่นอกรัฐบาลเข้ามามีปัจจัยเกี่ยวข้อง ในการล็อบบี้ต่างๆ สุดท้ายจึงทำให้ดีเอสไอไม่สามารถที่จะทำคดีเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษได้อย่างเต็มที่ การตั้งข้อกล่าวหาจึงดูค่อนข้างแปลกประหลาด

เมื่อถามว่าการที่ตั้งคดีแค่การฟอก คิดว่าจะส่งผลอะไรกับสว.ชุดนี้บ้าง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้าดูจากบรรยากาศแบบนี้แสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่มีศักยภาพ ในการที่จะใช้ในการที่จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ เมื่อเป็นแบบนี้ถ้ามีผู้กระทำความผิดฮั้วสว.จริง เขาอาจจะฉลองแชมเปญกันไปแล้ว เพราะแสดงให้เห็นว่า ปัญหาเรื่องนี้คงไม่สามารถคลี่คลายได้โดยง่าย และเป็นบทพิสูจน์ว่าตัวรัฐบาลในการบังคับใช้กฎหมายอ่อนแอมาก มากกว่าที่จะแสดงถึงความเข้มแข็ง คือการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง มาจากหลายปัจจัย ส่วนหนึ่งคือภาวะผู้นำของนายกฯ มากเพียงพอหรือไม่ว่ามีภาวะผู้นำที่เข้มแข็งมากเพียงพอหรือไม่ ในการที่ทำให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่า รัฐบาลนี้เอาจริงเอาจังกับการบังคับใช้กฎหมาย ที่จะทำให้ทุกฝ่ายซึ่งรวมไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล ให้ความเชื่อมั่นว่านี่คือรัฐบาลที่เขาต้องยอมรับ และการเป็นผู้นำต่อไป ถ้าปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหาอาชญากรรมต่างๆที่เชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจฝ่ายต่างๆ ก็อาจจะไม่ได้รับการแก้ไขต่อไป และเป็นปัญหาร้ายแรงของประเทศต่อไป


เมื่อถามย้ำว่า การตั้งข้อหาแค่นี้ไม่ทำให้เก้าอี้ สว.สั่นสะเทือน นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนคิดว่ายังอีกไกลที่จะไปบอกว่าสะเทือนหรือไม่สะเทือนร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะดูได้จากผลโหวตที่ออกมาก็ชัดว่ารัฐบาลมีความเข้มแข็งเพียงพอในการบังคับใช้กฎหมาย เพราะการออกมาในรูปคดีฟอกเงินสุดท้ายแล้วก็ต้องมาหาคดีมูลฐานอยู่ดี

เมื่อถามว่าผู้ลาประชุมส่วนใหญ่เป็นตำรวจ ที่อยู่ในการกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี สะท้อนว่านายกรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้หรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ขนาดตำรวจอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรียังเอาไม่อยู่เลย อย่างผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้คนมาแทน แล้วมาไม่ได้ อย่างนี้มอบหมายทำไม เรารู้อยู่แล้วว่าวิธีการเช่นนี้ “มีคุณเขาขอมา” คุณก็เลยใช้วิธีขอลาไม่เข้าประชุมตั้งแต่ต้น กะว่าจะไม่ผิดใจกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คงคิดว่าวิธีการนี้เป็นวิธีการที่ดีที่สุด แต่การทำแบบนี้ แสดงให้เห็นว่าแม้กระทั่งตำรวจเองก็ไม่สนใจนายกรัฐมนตรีเลย และจริงๆแล้วนายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งเป็นรองนายกฯด้านความมั่นคง ตำรวจยังไม่ให้ความเคารพนับถือเลย จึงกลับไปที่ตัวนายกฯว่าที่ตำรวจ และองค์กรต่างๆไม่เชื่อฟัง เพราะนายกฯไม่มีภาวะความเป็นผู้นำ

“ผมเชื่อว่ามีการต่อรอง และดิวกันทาง การเมืองต่อไป ผมว่าเกมเรื่องนี้สำหรับฝ่ายต่างๆยังคงอีกไกล และ ผมไม่อยากเดาว่า เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับการที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด เข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แต่เชื่อว่าทุกมูฟเม้นท์ ทุกย่างก้าว ของฝ่ายต่างๆ ล้วนถูกนำไปตีความในหลายๆด้านอยู่แล้ว ผมคงไม่ต้องลงรายละเอียดว่า สว.สีน้ำเงินหมายถึงอะไร แต่ทุกย่างก้าวของฝ่ายการเมืองจะนำไปสู่การตั้งคำถาม ซึ่งหลายๆคำถามเป็นคำถามที่ไม่ดีเลย แต่เป็นคำถามที่ประชาชนสงสัย และรู้สึกไม่ดีกับรัฐบาลเพิ่มขึ้น” นายรังสิมันต์ กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

วิวคว้าแชมป์

“วิว-บาส-เฟม” คว้าแชมป์แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น

1 มิ.ย. – “วิว กุลวุฒิ” ตบชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น ส่วน “บาส-เฟม” คว้าแชมป์คู่ผสมมาครองได้สำเร็จ แบดมินตัน ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 รายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักของไทยคนแรกที่ขึ้นมือ 1 ของโลก ตบเอาชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด 21-6 , 21-10 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมฉลองแชมป์ ก่อนขึ้นมือ 1 ของโลกอย่างทางการในสัปดาห์ในการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และยังเป็นแชมป์ที่ 4 ในปีนี้ของ “วิว” […]

“มาริษ” แถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC”

.ต่างประเทศ 1 มิ.ย.-“มาริษ” นำแถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” ยันทำทุกทางไม่ให้บานปลาย ย้ำ กต.ไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยยกหูหา “รองนายกฯ กัมพูชา” แล้ว เห็นพ้องตรงกัน เกิดความสงบความเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้าน “โฆษก กต.” ยันโพสต์ “ฮุนเซน” ไม่มีผล คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC” แน่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำแถลงข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย พลเอก มนัส จันดี เสนาธิการทหาร , นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า ตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยไทยและกัมพูชา เป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกัน ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางที่จะไม่ให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งถ้ากระทบมากไปจะไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องบก […]

“วิว กุลวุฒิ” นักแบดชายเดี่ยวไทยคนแรก ขึ้นเป็นมือ 1 โลก

สิงคโปร์ 1 มิ.ย.-“วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ มือ 2 ของโลก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 พร้อมจะขยับขึ้นเป็นมือ 1 โลกชายเดี่ยว เป็นคนแรกของไทย ผลการแข่งขัน แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 รายการระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 33 ล้านบาท ที่สิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 2 ของโลก และเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก “ปารีสเกมส์ 2024” ตบเอาชนะ หลิน ชุนยี่ มือ 19 ของโลก จากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11 […]