ชทพ.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.นครปฐม

พรรคชาติไทยพัฒนา 16 ส.ค. –ตระกูลสะสมทรัพย์สยบข่าวลือทิ้งชทพ. ดึง “ตระกูลศรีสุขจร” ร่วม พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.นครปฐม “กัญจนา” ชี้ ชทพ.บ้านหลังเล็กแต่อบอุ่น พร้อมสู้ทุกกติกา


นายอนุชา สะสมทรัพย์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้นำนายศุภโชค ศรีสุขจร หรือ สจ.ฟิล์ม มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา และเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครปฐม โดยมี น.ส. กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา นายธีระ วงศ์สมุทร ส.ส. บัญชีรายชื่อ นายนิกร จำนง ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะผอ.พรรคชทพ. ร่วมต้อนรับ โดยเมื่อยื่นใบสมัครเสร็จแล้ว ได้มีการสวมแจ็คเก็ตพรรคชาติไทยพัฒนาให้นายศุภโชคเป็นที่ระลึก

น.ส. กัญจนา กล่าวว่า การที่นายศุภโชค เข้ามาเป็นการตอกย้ำว่าพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นการรวมของคนหลากหลายรุ่น การที่นายศุภโชคเข้ามาถือว่าเป็นน้องเล็กที่สุด และจะระดมทุกสรรพกำลังสู้ทุกเขตในนครปฐม จะพานายศุภโชคเข้าสภาฯ ให้ได้


น.ส.กัญจนา กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งบางฝ่ายมองว่ายังไม่นิ่ง ว่า  พรรคยืนยันมาตลอดว่าพร้อมสู้ทุกกติกา ส่วนตัวเลขเป้าส.ส. 25 คน เป็นขั้นต่ำที่พรรคสามารถเสนอกฎหมายต่อสภาฯ ได้ แต่ตั้งใจให้ได้มากที่สุด และแม้พรรคชาติไทยพัฒนาจะเป็นบ้านหลังเล็กก็มีความอบอุ่น แต่จะเติบโตขึ้นเป็นบ้านหลังใหญ่และไม่ทิ้งความอบอุ่น

นายวราวุธ กล่าวว่า การเปิดตัวในวันนี้อาจจะไม่ได้ดูโอ่อ่าเหมือนพรรคการเมืองอื่น แต่เป็นการยืนยันว่าทุกการเปิดตัวมีเป้าหมาย และจากนี้จะทยอยเปิดตัวผู้สมัครเพิ่มขึ้นเป็นระยะ

นายศุภโชค กล่าวว่า เชื่อเรื่องความหลากหลายทางความคิดและยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพรรคและนำความรู้ความสามารถช่วยให้พรรคเข้มเเข็งขึ้นและจะสามารถพัฒนาและออกนโยบายตอบโจทย์กับประชาชนชาวไทย พร้อมระบุการเลือกพรรคชาติไทยพัฒนา เพราะได้ทำการเมืองท้องถิ่นในฐานะสจ.นครปฐม ซึ่งมีการประสานร่วมกับตระกูลสะสมทรัพย์ ซึ่งมีคุณูปการต่อคนนครปฐม และมีประสบการณ์ทางการเมืองที่ตนอาจจะยังขาดอยู่ จึงตัดสินใจ เข้าร่วมงานกับการเมืองกับพรรคชาติไทยพัฒนา


นายอนุชา กล่าวว่า  ตนเปรียบเสมือนคนในตระกูลสะสมทรัพย์คนหนึ่ง แต่มั่นใจว่าใน 6 เขต นครปฐมจะสู้ทุกเขตอย่างเต็มที่ เพราะการได้มาของชื่อบ้านใหญ่นครปฐม ไม่ได้มาเพราะความเกเรหรือเป็นนักเลง แต่ประชาชนให้เกียรติเราที่ได้ดูแลเขา หากเป็นไปได้ก็อยากชักชวนทั้งจังหวัดนครปฐมให้เป็นปึกแผ่น

สำหรับประวัติของ นายศุภโชค ศรีสุขจร ว่าที่ผู้สมัครส.ส. นครปฐม ขณะนี้อายุ 28 ปี เป็นบุตรของนายธงชัย ศรีสุขจร อดีตส.ว.นครปฐม ปัจจุบันนายศุภโชคเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม จบการศึกษาระดับปริญญาโท มาสเตอร์ดีกรี มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา คณะวิทยาศาสตร์ข้อมูล โดยการที่นายศุภโชค มาจากตละกูลศรีสุขจร ทั้งนี้การมาลงสมัครส.ส.ครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก ตระกูลสะสมทรัพย์ หรือ บ้านใหญ่ในจังหวัดนครปฐม.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จับมือปืน

ล้อมจับมือปืนอันดับ 1 ประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9

ตำรวจล้อมจับมือปืนอันดับ 1 มีประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9 มีหมายจับติดตัว 9 หมาย ทั้งคดีฆ่า รับจ้างทวงหนี้ ยิงบ้าน และค้ายาเสพติด

สู้งูจงอาง

สาวใจเด็ด! สู้งูจงอางด้วยมือเปล่าจนรอดตาย

สาวใจเด็ด! เข้าไปหาเห็ดเจองูจงอาง ถูกฉกเป็นแผลเหวอะ ตัดสินใจฮึดสู้ด้วยมือเปล่า เตะก้านคองูแล้วกระทืบซ้ำ ก่อนจับกดพื้นลากไปหาหมอพร้อมกัน ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว

บริจาคอวัยวะ

หนุ่มวัย 26 ปี บริจาคอวัยวะช่วยต่ออายุ 9 ชีวิต

ชื่นชมหนุ่มพนักงานช่วยเหลือคนไข้ รพ.ภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ บริจาคอวัยวะ แม้ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร อายุเพียง 26 ปี แต่อวัยวะสามารถต่อชีวิตให้กับผู้อื่นได้อีก 9 ชีวิต

ข่าวแนะนำ

เปิดแรงจูงใจไรเดอร์โหดทวงหนี้ ยิงสาวใหญ่ดับ

เมื่อเช้าที่ผ่านมามีเหตุระทึกขวัญ เจ้าหนี้บุกยิงลูกหนี้ใน อ.เมืองนครปฐม จนเสียชีวิต แล้วหนีไปกบดานในห้องเช่าพื้นที่ อ.สามพราน โดยมีตัวประกันถูกขังไว้ภายในห้องด้วย อะไรคือแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ติดตามจากรายงาน

เร่งหาสาเหตุไฟไหม้สปา “ดาราเทวี”

เจ้าหน้าที่ยังเร่งหาสาเหตุไฟไหม้เทวาสปา โรงแรมดาราเทวี หลังเจอจุดต้นเพลิง ด้านเจ้าของเผยไม่ได้ทำประกันอัคคีภัย เป็นไปไม่ได้ที่จะเผาเอาเงินประกัน

ตำรวจคุมตัวทำแผนโจรบุกร้านทอง บอกผิดเองขอ 5 บาท

“โจร 5 บาท” ถูกจับหลังบุกร้านทอง ยอมรับตกใจกลัวหลังเจอเจ้าของร้านตวาดใส่ให้วางปืนตอนบุกชิงทอง พร้อมโทษตัวเองไม่บอกให้ชัด หวังทอง 5 บาท แต่ได้เงิน 5 บาท

ลูกพีช

ผบ.ตร. ย้ำภาพชัด “ลูกพีช” ขับปาดหน้ากระบะ แทบไม่ต้องสอบเพิ่ม

ผบ.ตร. ย้ำชัด “ลูกพีช” ขับปาดหน้ากระบะ อ้างเป็นญาติ ย้ำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ชี้ภาพชัดเจน แทบไม่ต้องสอบเพิ่ม