ทอ.วอน กมธ.อนุมัติงบซื้อ F-35A

กองบิน 41 จ.เชียงใหม่ 2 ส.ค.-ผบ.ทอ.ย้ำซื้อ F-35A โปร่งใส ไม่มีใครได้ประโยชน์ เป็นเครื่องบินรบที่ดีที่สุด ใช้กับอาวุธที่มีอยู่ได้ วอน กมธ.งบฯ เห็นชอบ ยอมรับผ่านสภาคองเกรสไม่ง่าย แต่มีโอกาสลุ้น ทอ.สหรัฐฯ หนุนเต็มที่


พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดซื้อจัดหาโครงการเครื่องบิน F-35A หลังถูกคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์​ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน สภาผู้แทนราษฎร​ ตัดออกจากงบงบประมาณประจำปี 2566 และได้ยื่นเรื่องอุทธรณ์ ซึ่งจะเข้าคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 วันนี้ (2 ส.ค.) ว่า ประชาชนมุ่งหวังเห็นสิ่งสำคัญ 3 ประการ คือ 1. กองทัพซื้อของดี มีประสิทธิภาพ ใช้งานได้นาน คุ้มค่า คุ้มราคากับภาษีของประชาชน 2. การจัดซื้อต้องไม่คอร์รัปชัน หมายถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูง ผู้นำเหล่าทัพ คนที่เกี่ยวข้อง ไม่มีเรื่องผลประโยชน์ ซึ่งเงินทุกบาททุกสตางค์จะต้องใช้อย่างคุ้มค่ากับโครงการเท่านั้น และ 3. การจัดซื้อจะต้องสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติอย่างเต็มที่ ทั้งทางตรง ก่อให้เกิดความมั่นคงของชาติ และทางอ้อมคือ สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาคน พัฒนาองค์ความรู้ การถ่ายทอดเทคโนโลยีต่าง ๆ

ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า โครงการจัดซื้อเครื่องบิน F-35A ที่กองทัพอากาศเสนอ ขณะนี้อยู่ระหว่างการอุทธรณ์ เพราะถูกตัดงบประมาณ และเครื่องบิน F-35A ถือเป็นหนึ่งในเครื่องบินรบที่ดีที่สุดของโลก สามารถใช้กับอาวุธได้หลายอย่าง รวมถึงอาวุธที่กองทัพอากาศมีใช้ในปัจจุบัน จึงไม่มีความจำเป็นต้องจัดซื้ออาวุธเพิ่มเติม อีกทั้งการซื้อเครื่องบินจะทำให้ประหยัดงบประมาณ และในอนาคตหากมีอาวุธใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพ สามารถสั่งซื้อเพิ่มเติมได้ โดย F-35A ถูกออกแบบมาให้รองรับกับอาวุธใหม่ ๆ และกองทัพอากาศจัดซื้อแบบวิธีความช่วยเหลือทางการทหาร (FMS) ซึ่งเป็นการจัดซื้อเจรจาระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล จึงมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ไม่มีนอก ไม่มีใน ไม่มีผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น นับว่าเป็นกระบวนการจัดซื้อที่เป็นแบบอย่างที่ประชาชนต้องการ ทั้งนี้ การไปเจรจา รัฐบาลไม่สามารถไปแบบมือเปล่าได้ จะต้องมีความพร้อมเรื่องงบประมาณและแผนการดำเนินการที่สมบูรณ์ เพื่อให้ผู้ขายเห็นความพร้อม


“พูดง่าย ๆ เราไม่สามารถเดินตัวเปล่าเข้าไปซื้อได้ และกองทัพอากาศเคยจัดซื้อในรูปแบบดังกล่าวมาแล้ว คือ เครื่องบิน F-16 ซึ่งอยู่ยงคงกระพันใช้งานมาเกือบ 40 ปี และเป็นเครื่องบินรบหลักของกองทัพอากาศ ดังนั้น หากเครื่องบิน F-35A ผ่านการอนุมัติ เราใช้งานไปอีก 35-40 ปีเช่นเดียวกัน F-35A เป็นเครื่องบินล้ำสมัย เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่เราไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งจะเกิดการศึกษาเรียนรู้ การถ่ายโอนเทคโนโลยีเพิ่มเติม ถือว่าเป็นประโยชน์ในการพัฒนาคนและงาน รวมถึงความมั่นคงของชาติด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 จะเล็งเห็นถึงองค์ประกอบที่สำคัญที่ได้กล่าวมา กรุณาสนับสนุนโครงการสำคัญนี้ของกองทัพอากาศด้วย และขอให้ประชาชนเชื่อใจในความซื่อสัตย์และซื่อตรง กองทัพอากาศได้ทำตามภาระหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว” พล.อ.อ.นภาเดช กล่าว

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เห็นชอบการจัดซื้อ F-35A อย่างไรบ้าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า เรามีผู้บังคับบัญชาที่ดีมาก นายกรัฐมนตรีพิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ในสภาวะเศรษฐกิจที่รุมเร้า แต่กองทัพอากาศได้ใช้งบประมาณของตัวเองจัดซื้อ ไม่ได้ขอเพิ่มจากที่รัฐบาลตั้งกรอบเอาไว้ให้ ส่วนที่จัดซื้อเพียง 2 เครื่อง และจะทยอยซื้อในระยะที่ 2 และ 3 เพิ่มเติม โดยใช้เวลา 10 ปี ซึ่งหากโครงการนี้ประสบความสำเร็จในปี 2575 กองทัพอากาศจะมีเครื่องบิน F-35 ประจำการ จำนวน 12 เครื่อง และพร้อมจะปฏิบัติการรบในปี 2576 ภายหลังเตรียมการทุกด้านเรียบร้อยแล้ว

“ส่วนที่มองกันว่า การจัดซื้อเพียง 2 เครื่อง น้อยเกินไป เราได้ศึกษาจากกองทัพอากาศต่างประเทศ ซึ่งทยอยจัดซื้อเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่ร่ำรวย หรือปานกลาง ก็มีวิธีการจัดซื้อที่แตกต่างกันไป บางประเทศซื้อเพียง 1 เครื่อง หรือ 2 เครื่อง หรือ 4 เครื่อง และที่จัดซื้อครั้งเดียวครบฝูงมีน้อยมาก” พล.อ.อ.นภาเดช กล่าว


เมื่อถามว่า หากผ่านขั้นตอนทางสภาฯ ของไทยแล้ว แนวโน้มที่จะผ่านสภาคองเกรสของสหรัฐฯ มีมากน้อยเพียงใด ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า ต้องบอกว่าเป็นเรื่องยาก และโอกาสที่เราจะได้นั้นก็ยาก แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส เรายังมีโอกาส แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราได้รับการสนับสนุน เห็นพ้องต้องกัน เป็นหนึ่งเดียว เพราะโครงการนี้มีประโยชน์ ไม่มีสิ่งที่เป็นโทษ ไม่มีการทุจริต และไม่ได้ซื้อของไม่ดี เราได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและประชาชน เชื่อว่าเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จจะมีสูงอย่างมาก

ส่วนกรณีที่สหรัฐฯ มีเงื่อนไขหลายข้อที่จะขายเครื่องบิน F-35 ให้แต่ละประเทศ พล.อ.อ.นภาเดช กล่าวว่า คงต้องพิจารณาเป็นเรื่อง ๆ ไป ขณะนี้เราดำเนินการมาครึ่งทางแล้ว ได้แก้ปัญหาผ่านอุปสรรคต่าง ๆ เป็นเรื่อง ๆ ไป เพราะในส่วนของกองทัพอากาศที่ดำเนินการได้เอง ทั้งการประสานขอความร่วมมือระดับกองทัพอากาศไทยและสหรัฐฯ ได้รับความร่วมมือด้วยดี และเข้าใจความต้องการของกองทัพอากาศไทย และกองทัพอากาศสหรัฐฯ พร้อมจะสนับสนุน

เมื่อถามย้ำว่า มีเปอร์เซ็นต์สูงที่จะได้ใช่หรือไม่ ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า เราก็หวังเช่นนั้น ส่วนการจัดซื้อเครื่องบิน F-35A จะกลายเป็นภาระเรื่องงบประมาณที่อาจส่งผลกระทบถึงเครื่องบินรุ่นอื่นที่อาจปลดประจำการ เช่น C-130 หรือไม่ พล.อ.อ.นภาเดช กล่าวว่า เราต้องดูตามความจำเป็น เพราะกองทัพอากาศของเราไม่มีเงินถุงเงินถัง เพราะฉะนั้นการพิจารณาจะซื้ออะไรสักอย่างต้องรอบคอบ เป็นการจัดซื้อเพื่อทดแทเครื่องที่เราปลดประจำการไป เพราะเครื่องเก่ามีค่าซ่อมบำรุงสูง หากเราตัดงบประมาณส่วนซ่อมบำรุง ก็สามารถนำมาใช้จ่ายในเครื่องบิน F-35A ที่เป็นงบประมาณที่ต่ำกว่า เราก็จะเหลือเงินไปสนับสนุนโครงการอื่นได้.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

เริ่มแล้ว! ม็อบรวมพลังแผ่นดิน ทยอยปักหลักอนุสาวรีย์ชัยฯ

กทม. 28 มิ.ย.- เริ่มแล้ว! มวลชนกลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ เดินเท้าเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อร่วมชุมนุมใหญ่ ขณะที่การจราจรเช้านี้ รถยังเคลื่อนตัวได้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่ม คปท. กองทัพธรรม กปปส. และมวลชนหลายร้อยคน รวมตัวกันบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีประชาชนจากหลายจังหวัดเข้าร่วม ต่างยกธงชาติไทย ชูป้ายข้อความเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ลาออก เวลา 08.30 น. เริ่มเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าแยกอุรุพงษ์ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระราม6 เลี้ยวขวาเข้าถนนศรียุธยา ตรงเข้าแยกราชเทวี และเลี้ยวซ้ายเข้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนกำหนดการวันนี้เวลา 10.00 น. จะมีการเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ทหารกล้า หลังจากนั้น เวลา 12.00 น. จะเปิดเวทีปราศรัย ขณะที่ช่วง 17.30-18.10 น. จะอ่านแถลงการณ์ “รวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย” จากนั้นจะเป็นการปราศรัยหลักจากกลุ่มแกนนำ อาทิ นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นต้น จนถึงเวลา 21.00 […]

นายกฯ บินเชียงรายตรวจน้ำท่วม ไม่กังวลม็อบขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ

บน.6 ดอนเมือง 28 มิ.ย.- นายกฯ นำคณะตรวจน้ำท่วมเชียงราย ไม่กังวลม็อบชุมนุมขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ ยินดีคุยด้วยสันติวิธี เช้านี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ หลังฝนตกหนัก ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และให้กำลังใจกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับสัญชาติไทย ก่อนออกเดินทาง นายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน นัดชุมนุมใหญ่ วันนี้ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เรียกร้องให้ตนเองลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่กังวล เนื่องจากมองว่าเป็นสิทธิ หากยังอยากคุยกันด้วยสันติวิธีเหมือนเดิมก็ยินดี สำหรับกำหนดการวันนี้ นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่อำเภอพญาเม็งราย และวัดสันติคีรี จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและให้กำลังใจประชาชน พร้อมมอบถุงยังชีพให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จากนั้นจะเดินทางไปยังอำเภอเชียงแสน ติดตามการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยหารือกับเจ้าหน้าที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก่อนเดินทางไปพบปะและให้กำลังใจกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับสัญชาติไทยตามมติอนุมัติของกระทรวงมหาดไทย ที่โรงเรียนแม่จันวิทยาคม อำเภอแม่จัน .-สำนักข่าวไทย

เตือน “เหนือ-อีสาน” ฝนถล่ม ระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก

กทม. 28 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือน “เหนือ-อีสาน” เตรียมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือบริเวณจังหวัดเชียงรายและน่าน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และตอนบนของภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

ฝนถล่มน้ำท่วมหลายพื้นที่ ส่งสัญญาณรับมือฤดูน้ำหลาก

เชียงราย 27 มิ.ย. – ชาวบ้านอย่างน้อย 4,000 ครอบครัวใน 5 อำเภอของเชียงราย เดือดร้อนหนักจากน้ำท่วม หลังฝนตกทั้งคืน โดยเฉพาะ อ.พญาเม็งราย วัดปริมาณฝนได้กว่า 300 มิลลิเมตร น้ำท่วมสูงเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ล่าสุดแม้ระดับน้ำที่ท่วมหลายจุดเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำท่วมครั้งนี้เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้เตรียมรับมือฤดูน้ำหลากในปีนี้.-สำนักข่าวไทย