แก้ร่างกม.ลต. 2 มาตรา ให้สอดคล้องสูตรคำนวณ ส.ส.


รัฐสภา 27 ก.ค.-“นิกร” เผย “กมธ.กม.ลูก” โหวตให้แก้ไข 2 มาตรา ในร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ให้สอดคล้องสูตรคำนวณ ส.ส. มี กมธ.เสียงข้างน้อย สงวนความเห็น เตรียมยื่น “ปธ.รัฐสภา” 1 ส.ค.นี้



นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ. …. รัฐสภาให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม กมธ. ซึ่งพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมมาตราในร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ให้สอดคล้องกับสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่มติรัฐสภาเห็นชอบให้ใช้จำนวน 500 คน หาค่าเฉลี่ยแทนจำนวน 100 คน ว่า ที่ประชุมได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขแล้วเสร็จแล้ว โดยมีการแก้ไขเพิ่มเติม 2 มาตรา เพื่อให้สอดคล้องกับสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อตามที่ ที่ประชุมรัฐสภาเห็นชอบให้ใช้จำนวน 500 คนหาค่าเฉลี่ย ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากนี้ฝ่ายเลขานุการฯ จะดำเนินการจัดทำรายงานเพื่อส่งให้ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เบื้องต้นคาดว่าจะส่งได้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ซึ่งจะทันต่อการบรรจุวาระพิจารณาในที่ประชุมรัฐสภา วันที่ 2 สิงหาคมนี้


นายนิกร กล่าวว่า สำหรับมาตราที่แก้ไขเพิ่มเติมนั้นแบ่งเป็นการเพิ่มมาตราขึ้นใหม่จำนวน 1 มาตรา คือ มาตรา 24/1 ว่าด้วยรายละเอียดการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งที่ประชุมลงมติชี้ขาด โดยองค์ประชุม 25 คน ลงมติเห็นด้วย 15 คน ไม่เห็นด้วย 4 คน งดออกเสียง 5 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 คน ทั้งนี้มี กมธ.เสียงข้างน้อย ประกอบด้วย ตน นายชูศักดิ์ ศิรินิล กมธ.จากพรรคเพื่อไทย, นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ, นายประยุทธ์ ศิริพานิช และนายกฤช แก้วอยู่ ส.ส.เพชรบุรี พรรคพลังประชารัฐ และ กมธ.ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย ได้สงวนความเห็น



นายนิกร กล่าวอีกว่า ส่วนการแก้ไขมาตรา 26 ซึ่งเดิมเป็นบทยกเลิกมาตรา 131 ว่าด้วยการคำนวณ ส.ส.กรณีที่มีการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง กมธ.ได้แก้ไข โดยคงเนื้อหาให้ 1 ปี นับจากวันเลือกตั้งทั่วไป หากพบว่า เขตใดต้องเลือกตั้งใหม่ด้วยเหตุการทุจริต เมื่อประกาศผลเลือกตั้งแล้ว ให้นำไปคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองได้รับใหม่ โดยให้จำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ได้รับไปแล้วมารวมคำนวณด้วย และได้ยกเว้นการไม่นำคะแนนมาคำนวณใหม่ ในกรณีอื่นที่ไม่ใช่การเลือกตั้งที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม และกำหนดไม่ให้มีผลกระทบต่อการคำนวณ ส.ส.ที่พรรคพึงมี


นายนิกร กล่าวว่า ในมาตราดังกล่วามี กมธ.ลงมติชี้ขาด โดยมีผู้เห็นด้วย 17 เสียงไม่เห็นด้วย 6 คน งดออกเสียง 5 เสียง ทั้งนี้มี กมธ.สงวนความเห็น ได้แก่ ตน, นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา, นายชูศักดิ์ ศิรินิล, นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์, นายกฤช เอื้อวงศ์ และนายพงษ์เทพ เทพกาญจนา แกนนำพรรคเพื่อไทยและ กมธ.ในสัดส่วนพรรคเพื่อไทย สงวนความเห็น .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง