กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – นายกฯ เน้นย้ำส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนใต้ จัดงบฯ ดูแลวัดโบราณ-พิพิธภัณฑ์อัลกุรอาน ใช้ Soft Power ดันเศรษฐกิจการท่องเที่ยว เพิ่มรายได้ท้องถิ่น
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนโดยใช้ Soft Power ทั้งด้านความหลากหลายทางวัฒนธรรม ศาสนา ประเพณี อาหารประจำถิ่น และสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อจูงใจให้มีการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นนโยบายที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความสำคัญและเน้นย้ำโดยตลอด
ทั้งนี้ รัฐบาลให้การส่งเสริมเรื่องการอนุรักษ์สังคมพหุวัฒนธรรม จัดสรรงบประมาณเพื่อการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์และศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอาน ตำบลละหาร อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส เพื่อให้เป็นแหล่งการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและคัมภีร์อัลกุรอาน ที่มีประชาชนครอบครองไว้หลายช่วงอายุ แล้วนำมามอบให้ มีอายุตั้งแต่ 150-1,100 ปี รวมถึงมีวัตถุโบราณอีกจำนวนมาก ซึ่งแสดงถึงสังคมในยุคฮินดู-พุทธ ที่มีอิทธิพลในพื้นที่
ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์โบราณสถานทางพุทธศาสนา เช่น ที่วัดเกาะอภินิหาร หรือวัดกุหร่า อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา แม้ปัจจุบันเป็นวัดร้าง แต่ปรากฏร่องรอยหลักฐานโบราณสถานที่เป็นอุโบสถเก่า ซึ่งคาดว่าสร้างขึ้นในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยตั้งอยู่บนเส้นทางสัญจรที่ผู้คนในสมัยนั้นใช้เดินทางไปมาระหว่างเมืองไทรบุรีและอาณาจักรสยาม โดยถูกขึ้นทะเบียน “โบราณวัตถุสถานทั่วราชอาณาจักร” และอีกแห่งหนึ่ง คือ วัดถ้ำตลอด พุทธสถานที่เชื่อกันว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ก่อนปีพุทธศักราช 2219 เป็นพุทธศิลป์ที่มีเอกลักษณ์ผสมผสานศิลปกรรมอยุธยาและศิลปะพื้นถิ่นภาคใต้ โดยถ้ำมี 3 คูหา ได้แก่ ถ้ำทวดหยัง ถ้ำมหาอุด และถ้ำระฆัง มีพระพุทธรูปเก่าแก่สร้างด้วยไม้โบกปูนซีเมนต์ อายุหลายร้อยปี และมีหินปูน หินงอก หินย้อย วิจิตรตระการตา
“จากที่ได้ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เมื่อวันที่ 22-23 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี เรื่องการส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรมและเศรษฐกิจชุมชนผ่าน Soft Power พบว่า ส่วนราชการและภาคประชาชนทำงานร่วมกันอย่างดียิ่ง ทั้งนี้ ท่านนายกฯ ต้องการเผยแพร่เอกลักษณ์ของสังคมพหุวัฒนธรรมที่ประชาชนต่างศาสนาอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่นที่มีความหลากหลาย ดังนั้น ขอยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมที่จะส่งเสริมและสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่จะสร้างการรับรู้ถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานและความหลากหลายทางวัฒนธรรมของพื้นที่ ซึ่งจะเป็นจุดขายสำคัญในการชักจูงให้ชาวไทยและชาวต่างชาติปักหมุดจุดหมายการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจะนำไปสู่การเติบโตของเศรษฐกิจชุมชน สร้างงาน สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกด้านของประชาชน และแน่นอนที่สุดคือ จะนำไปสู่สันติสุขอย่างยั่งยืน” น.ส.รัชดา กล่าว. – สำนักข่าวไทย