นายกฯ ยันแหล่งก๊าซเอราวัณ-บงกช ไม่ได้หยุดการผลิต

รัฐสภา 22 ก.ค.- นายกฯ ยันแหล่งก๊าซเอราวัณและบงกช ไม่ได้หยุดการผลิต ร่ายยาวผลงาน 8 ปี ภูมิใจในสิ่งที่ทำมา ยันไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ฝากคนเก่งๆ สานงานต่อในอนาคต


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นการแก้ปัญหาพลังงานว่า การตัดสินต่างๆ มีการหารือร่วมกันไม่ได้มาจากคำสั่งของตน พร้อมทั้งยืนยันว่า การผลิตก๊าซจาก 2 แหล่งทั้งเอราวัณ และบงกช ยังคงผลิตต่อเนื่อง ไม่มีการหยุดผลิตแต่อย่างใด แต่เนื่องจากหมดสัญญากับบริษัทต่างประเทศ ก็ได้มีการเปิดประมูล และเปลี่ยนผ่านจากระบบสัมปทานเป็นระบบแบ่งปันผลผลิต

สำหรับค่าการกลั่น เป็นการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงตามตลาด ซึ่งวันนี้ราคาน้ำมันก็เริ่มลดลง ส่วนการขอความร่วมมือจากโรงกลั่น ยังคงดำเนินการอยู่ และทาง ปตท. ก็จะสนับสนุนส่วนหนึ่งแต่โรงกลั่นต่างประเทศยังไม่พร้อม และหากจะให้สั่งโรงกลั่นต้องไปดูข้อกฎหมายด้วย เพราะเกรงว่า จะส่งผลกระทบต่อการย้ายฐานการลงทุน


นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การปลดประจำการเครื่องบินขับไล่โจมตีแทน F16 และ F5 ที่เกินอายุการใช้งาน ว่า เนื่องจากเครื่องบินทั้งหมดจะใช้งานได้ถึงปี 2575 จึงต้องวางแผนเป็น 3 ระยะรวม 12 เครื่อง ครั้งละ 4 เครื่อง และต้องจัดหาถึง 10 ปี ถึงจะครบความต้องการด้านยุทธการ สิ่งสำคัญต้องมองศักยภาพด้านสงครามด้วย และยืนยันว่า ถ้าเพิ่มขีดความสามารถด้านการป้องกันประเทศได้ ก็ทำให้เกิดความเชื่อมั่น เพราะการแข่งขันด้านศักยภาพป้องกันประเทศยังมีสูงอยู่

ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะแพงเกินไป นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า คงไม่นำเครื่องบินขับไล่ไปทำการลาดตระเวน

“เครื่องบินที่ทันสมัยคงไม่บินอยู่ในอากาศเป็นชั่วโมง มันขึ้นไปยิงแป๊บเดียวก็ตกมาแล้ว เราคงไม่เอาเครื่องบินขับไล่ไอพ่นไปลาดตระเวนเป็นชั่วโมง เรามีเครื่องบินอย่างอื่นไปทดแทน เพียงแต่ไปแสดงศักยภาพให้เขาถอยกลับไป” พลเอกประยุทธ์ กล่าว


ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การจัดหาอากาศไร้คนขับ ประจำฐานการบินชายฝั่งของกองทัพเรือ ว่า เป็นการจัดหาตามความจำเป็น ติดตั้งตามทัพเรือภาคต่างๆ วงเงิน 4,070 ล้านบาท ในส่วนทีโออาร์ไม่ได้กำหนดว่าต้องจัดซื้อจากประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เมื่อตรวจจากคุณสมบัติที่ตรงกัน ก็สามารถเข้ากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างได้

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงการผลการทำงานตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ที่อยากให้เป็นความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ เช่น ทั้งเรื่องการรักษาความมั่นคงให้บ้านเมืองสงบร่มเย็น ซึ่งสามารถชุมนุมได้แต่ต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย ไทยสามารถปลดธงแดง ICAO ได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 6 ต.ค.60 ไทยขยับขึ้นเทียร์ 2 แก้ปัญหาค้ามนุษย์สำเร็จ แก้ไขปัญหาการบินไทยหลุดพ้นสภาวะล้มละลาย แก้ปัญหาที่ดิน สามารถจัดสรรที่ดินทำกินให้กับผู้ยากไร้และเกษตรกร แก้ปัญหาที่ดินด้วยนโยบาย One Map แก้ปัญหาแนวเขตที่ดินทับซ้อนอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมา ได้เร่งลงทุน เตรียมความพร้อมให้กับประเทศ เชื่อไทยให้เดินหน้า พัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยช่วงปี 58-62 มีการลงทุนจริงในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ มีการขยายตัวการลงทุนภาครัฐถึง 7.9 % ต่อปี มีการพัฒนาโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พัฒนาเขตนวัตกรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ซึ่งเปิดใช้ทางการ เดือน พ.ย.65 การวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การพัฒนาระบบอีเพย์เมนต์ และพัฒนา 5จี

นอกจากนี้ มีการตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตอีวีของโลก ซึ่งมีผู้ผลิตอีวีจากต่างประเทศสนใจลงทุนในไทยหลายประเทศ มีการพัฒนาเรือเฟอร์รี่ ที่ไร้มลพิษที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการเพิ่มพื้นที่ปลูกป่าจาก 31.8% เป็น 40% ในปี 2579 มีการดึงดูดต่างชาติที่มีศักยภาพสูง เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี ยกระดับอุตสาหกรรมในระยะยาว และเกิดการใช้จ่าย-การลงทุน ส่วนด้านความสัมพันธ์ ได้มีการฟื้นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย

“ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นก้าวแรกๆ ของการเดินทางไกลของผม ผมเชื่อในคำกล่าวที่ว่า หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน สิ่งที่เริ่มดำเนินการไปเป็นส่วนหนึ่งที่ผมภูมิใจทำสำเร็จ ผมรู้ผมทำอะไรอยู่ ฝากให้ทุกคนเก่งๆ มีโอกาสสานต่อไปแล้วกัน ผมรู้ว่าไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าได้ ประเทศไทยยังคงต้องยืนหยัดแบบนี้ ผมจะอยู่ไม่อยู่ ประเทศไทยต้องอยู่ เป็นดินแดนแห่งความเจริญ สงบสันติสุขบนแผนที่โลกอีกต่อไป ผมฝากเรื่องเดียว คือ ความร่วมมือในการทำงาน อะไรดีสอนกันแนะกัน จะได้สำเร็จเป็นความภาคภูมิใจของเราทุกคน” พลเอกประยุทธ์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชา ทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก

กัมพูชา 19 ก.ค.-กัมพูชาทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก ลั่นยึดมั่นอนุสัญญาออตตาวา ประณามคัดค้าน การผลิต และแสดงความเสียใจผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมผลักดันสู่กระบวนการพิสูจน์ เพื่อรักษามิตรภาพ ความปลอดภัย ไม่กล่าวหาซึ่งกัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทำหนังสือ ถึงทางการไทย เรื่อง การปฏิเสธต่อการนําเสนอของสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่ง กรณีทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) สำานักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิคและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (สํานักงานทุ่นระเบิด) ขอแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีสื่อมวลชนไทยจํานวนหนึ่งได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากข้าราชการระดับสูงของไทย และเผยแพร่เกี่ยวกับทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 บริเวณพิกัด WA 220861 (ยืนยันโดยฝ่ายไทย) อยู่ในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) การเผยแพร่ดังกล่าว มีเจตนา กล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงและไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ ในการนี้สํานักงานทุ่นระเบิด ขอชี้แจงดังนี้ 1.สํานักงานทุ่นระเบิดขอปฏิเสธและปัดตกทั้งหมดต่อเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่โดยมีเจตนากล่าวหาว่า กัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ 2.กัมพูชา […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย