พุ่งเป้าซักฟอก นายกฯ

รัฐสภา 21 ก.ค.- ซักฟอกวันที่ 3 ฝ่ายค้านพุ่งอภิปราย “นายกฯ“ ขณะที่ “เต้ มงคลกิตติ์” อุ้มพระ ขอบิณฑบาต ไล่ “พล.อ.ประยุทธ์” ลงจากตำแหน่ง ด้าน “ขจิตร” ลั่นกลางสภา “ไอ้ธรรมนัส น้องรัก” ร่วมยกมือหนุนล้มรัฐบาล


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลต่อเนื่องเป็นวันที่สาม ซึ่ง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้กลับมาทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ ครบกำหนดพักรักษาตัว

นายชวน ได้แจ้งที่ประชุมว่า วันนี้(21 ก.ค.) ฝ่ายค้านจะอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สำหรับการอภิปรายฯใช้เวลาไปแล้ว 30 ชั่วโมง 9 นาที 52 วินาที แบ่งเป็น คณะรัฐมนตรี (ครม.) ใช้เวลาไปแล้ว 6 ชั่วโมง 20 นาที พรรคร่วมรัฐบาล ใช้เวลาไป 49 นาที พรรคร่วมฝ่ายค้านใช้เวลา 21 ชั่วโมง 26 นาที คงเหลือเวลา 23 ชั่วโมง 33 นาที ขณะที่ประธานที่ประชุมใช้เวลาไป 1 ชั่วโมง 33 นาที


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้าน วันที่สาม เข้าสู่การกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยย้ำถึงการบริหารราชการแผ่นดินที่ไม่ชอบ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงการบริหารงานที่ผิดพลาดทำให้ประเทศเป็นหนี้มหาศาล

โดยนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ ว่า การทุจริตได้มาซึ่งอำนาจ บริหารทรัพยากรธรรมชาติแบบแบ่งเค้กกันไปทุจริต เพื่อพยุงอำนาจตนเอง ด้อยปัญญาในการบริหารเศรษฐกิจ ไร้วิธีหาเงินเก่งแต่สร้างหนี้ให้ประเทศ ทำประชาชนสิ้นหวัง ทั้งนี้เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2565 เรามีทุนสำรองระหว่างประเทศ 8.855 ล้านล้านบาท มีหนี้สาธารณะ 10.11 ล้านล้านบาท คิดเป็น 60.87% ต่อจีดีพี หากรวมวันนี้ก็น่าจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2 แสนล้านบาท ในระยะเวลาช่วง 2 ปี 10 เดือน 27 วัน นายกรัฐมนตรีบริหารประเทศมีหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 3.2 ล้านล้านบาท มีหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านล้านบาท

นายมงคลกิตติ์ อภิปรายว่า พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งมา 7 ปี 10 เดือน 27 วัน พิสูจน์แล้วว่าอยู่ไปก็ไม่เกิดประโยชน์กับบ้านเมือง เปลืองภาษี ลงพื้นที่ทีก็กลัวตาย ขนตำรวจทหารกว่า 5 พันนาย ตัดสัญญาณมือถือเพราะกลัวถูกลอบสังหาร


“ผมอยากพาท่านไปดูหนังกลางแปลงด้วยกันที่ กทม. 2 คน แต่เชื่อว่าท่านไม่กล้าไป เพราะขี้ขาดมีตาขาวมากกว่าตาดำ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องยอมรับเถอะว่าท่านอยู่ไปก็แก้ไขปัญหาไม่ได้ อยู่ไปก็เป็นตัวถ่วงของประเทศ ผมอยากให้ท่านปล่อยคนไทยและประเทศเสียที เพราะอยู่ไปก็หาวิธีฉลาดในการหาเงินกำไรมาดูแลประชาชนและประเทศไม่ได้ แต่ถ้าวิธีการขายชาติเพื่อมาพยุงอำนาจของตนเอง ผมเชื่อว่าท่านถนัด ดังนั้นวันนี้ตนไม่ได้มาคนเดียว แต่มาพร้อมกับพระพุทธรูปปางบิณฑบาต ในฐานะที่ผมเป็นผู้แทนราษฎรที่ประชาชนเลือกมาและไม่ได้ซื้อเสียงแต่บาทเดียว ขอพูดแทนคนไทยกว่า 66 ล้านคน ว่าขอบิณฑบาตพล.อ.ประยุทธ์ให้ปลดปล่อยประเทศไทยและประชาชนด้วยการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเสียทีเถิด เพราะว่า 8 ปี 2 เดือนอยู่ไปก็ไม่เกิดประโยชน์” นายมงคลกิตติ์ กล่าว

จากนั้นเป็นการอภิปรายของนายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ซึ่งก่อนการอภิปรายได้ถามหา พล.อ.ประยุทธ์ ที่ไม่พบการปรากฏตัวในห้องประชุมเพื่อรับฟังข้อกล่าวหา จนนายชวน กล่าวว่า หากนายขจิตร จะขอหยุดการอภิปรายเพื่อรอให้นายกฯ นั่งฟังสามารถทำได้ แต่นายขจิตร ยืนยันที่จะอภิปรายต่อ โดยย้ำถึงการบริหารราชการแผ่นดินที่บกพร่อง ต่อกรณีค่าโง่คลองด่าน ซึ่งละเว้นการเรียกค่าเสียหายจากผู้กระทำผิด เนื่องจากเป็นพรรคพวกเดียวกัน อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ทำผิดตั้งแต่วันแรกที่มาเป็นนายกฯ เพราะเข้ารับตำแหน่งจากการฉีกรัฐธรรมนูญ

“ผมขอมือพรรคร่วมรัฐบาลช่วยสนับสนุน วันนี้ได้ข่าวว่าจะมีส.ส. 2-3 คนจะไม่ไว้วางใจ ส่วนร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ไปตั้งพรรคใหม่ ไอ้ธรรมนัสน้องรัก ขอให้ช่วยยกเถอะให้นายยกฯ ออก จะได้ใช้ระบบรัฐสภาให้เป็นประโยชน์ เปลี่ยนแปลงการปกครองได้ หากส.ส.ไม่ใช้มืออันศักดิ์สิทธิที่ประชาชนให้มา ผมเชื่อว่าจะเกิดวิกฤตรัฐธรรมนูญ ไม่มีการเลือกตั้ง ใครอย่าไปเตรียมอะไรมาก” นายขจิตร กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

Hun Sen in vdo call

“ฮุน เซน” ยืนยันไม่หนีออกจากกัมพูชา

พนมเปญ 24 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กยืนยันว่า ยังอยู่ในกัมพูชา หลังจากมีข่าวว่าเขาหนีออกนอกประเทศไปจีน นายฮุน เซน โพสต์เป็นภาษาเขมรในหน้าเฟซบุ๊กชื่อ Samdech Hun Sen of Cambodia ที่มีผู้ติดตาม 14 ล้านคน และไม่ได้ติดตามใคร เมื่อช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยอ้างว่า หนังสือพิมพ์ไทยฉบับหนึ่งรายงานว่า เขาเดินทางออกจากกัมพูชาไปจีน เขาขอยืนยันว่า ขณะนี้กำลังประชุมทางวิดีโอกับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารในทุกระดับ เพื่อสู้รบกับไทย เขาไม่ได้วิ่งหนี ดังนั้นขอให้เพื่อนร่วมชาติอย่าได้กังวล นายฮุน เซนโพสต์ว่า เขามาประชุมเรื่องนี้ตั้งแต่แม่ทัพภาค 2 ของไทยประกาศจะปิดทางเข้าปราสาทตาเมือนธม พร้อมกับลงภาพตนเองขณะกำลังคุยโทรศัพท์และประชุมทางวิดีโอหลายภาพ.-814.-สำนักข่าวไทย

สมช.ประณามกัมพูชา ย้ำยังไม่ใช่ภาวะสงคราม

24 ก.ค. – สมช. ประณามการกระทำของกัมพูชา ใช้อาวุธหนักยิงเข้ามาฝั่งไทย โดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ พร้อมย้ำขณะนี้เป็นเพียงการปะทะกัน ยังไม่ใช่ภาวะสงคราม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) วันนี้เป็นนัดพิเศษ และเป็นการประชุม ครม.ด้วย โดยได้รับรายงานการปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าเป็นการยิงเข้ามาจากทางกัมพูชา และมีการใช้อาวุธหนักยิงเข้ามาในเขตแดนประเทศไทย โดยไม่มีเป้าหมายชัดเจน ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 11 คน เป็นพลเรือน 10 คน ทหาร 1 นาย และบาดเจ็บ 28 คน จึงขอประณามการกระทำของกัมพูชาที่ใช้กำลังโดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ขณะที่อาวุธหนักบางลูกยิงเข้ามาที่ปั๊มน้ำมัน ซึ่งห่างชายแดนเพียง 3 กิโลเมตร ถือเป็นการใช้กำลังโดยไม่ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ ยืนยันไม่ใช่ภาวะสงคราม เป็นเพียงการปะทะกันเท่านั้น และย้ำว่าไทยใช้สันติวิธี ไม่ประสงค์ใช้ความรุนแรง แต่เป็นการยั่วยุ จึงต้องป้องกันตนเองและประเทศชาติ ซึ่งไทยไม่ยอมให้มีการละเมิดอธิปไตย ทั้งนี้ ได้เตรียมการป้องกันและปกป้องอธิปไตยอย่างเต็มที่ โดยใช้มาตรการต่างๆ และอำนาจทางการทหารอย่างเหมาะสม ซึ่งหากฉุกเฉินทหารสามารถปฏิบัติการได้ทันที โดยให้ยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ […]

ทบ.รายงานยอดผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ เหตุปะทะชายแดนกัมพูชา

24 ก.ค.- “กองทัพบก” อัปเดตเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ประชาชนเสียชีวิต 9 ราย เป็นเด็ก 1 ราย เจ็บ 14 ราย พร้อมประณามกัมพูชา ใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การปะทะพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา อันสืบเนื่องมาจากฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้าใส่ฐานทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เมื่อเช้าวันนี้ (24 ก.ค. 68) ปัจจุบันกองทัพบกได้รับรายงานเบื้องต้นจากส่วนราชการในพื้นที่ว่า มีพื้นที่พลเรือนตกเป็นเป้าหมายของอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา จนทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย รวมถึงมีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนี้ ทั้งนี้ กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงต่อเป้าหมายพลเรือนของฝ่ายกัมพูชา และพร้อมดำเนินการทางทหารเพื่อปกป้องอธิปไตยและประชาชนจากการกระทำอันผิดหลักมนุษยธรรมดังกล่าวอย่างถึงที่สุด -สำนักข่าวไทย

วิกฤติหนัก เมืองน่านจมบาดาล ขยายวงกว้างเกือบ 10 กม.

น่าน 24 ก.ค. – น้ำท่วมตัวเมืองน่านยังวิกฤติหนัก หลังน้ำน่านยังเพิ่มสูง บางจุดน้ำท่วมถึงชั้น 2 แล้วและขยายวงกว้างออกไปในรัศมีเกือบ 10 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ยังเร่งช่วยเหลือผู้คน รวมทั้งผู้ป่วยออกจากพื้นที่น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย