ประเดิมซักฟอกจี้พรรคร่วมฯ ถอนตัวเป็นนั่งร้าน

รัฐสภา 19 ก.ค.-ผู้นำฝ่ายค้านประเดิมอ่านญัตติซักฟอกวันแรก ชี้ 8 ปี “พล.อ.ประยุทธ์” ไร้ความสามารถ เป็นยุคแห่งการก่อหนี้ จี้ให้ยอมรับความผิดพลาด เรียกร้องพรรคร่วมรัฐบาลเลิกเป็นนั่งร้าน หันมาลงมติไม่ไว้วางใจร่วมฝ่ายค้าน


การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยมีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เมื่อเริ่มเข้าสู่ระเบียบวาระ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงเหตุผลของญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ตลอด 8 ปีที่บริหารราชการแผ่นดิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมผิดพลาด ล้มเหลว ไม่สามารถแก้ป้ญหาต่าง ๆ ให้ประเทศได้ กลับกลายเป็นต้นตอให้ปัญหาที่มีอยู่มีความซับซ้อน ขยายวงกว้างรุนแรงยิ่งขึ้นทุกมิติ ประชาชนในชาติแบ่งฝ่ายกันมากขึ้น มีการทุจริตคอร์รัปชันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจรั้งท้าย มาจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต

“ไร้ภูมิปัญญา ไร้องค์ความรู้ ไร้ความสามารถ ไร้จิตสำนึก ขาดภาวะความเป็นผู้นำ หัวหน้ารัฐบาล มีความพิการทางความคิด ยึดติดอำนาจ ทำให้การบริหารราชการล้มเหลวผิดพลาดบกพร่อง ไม่ประพฤติปล่อยปละละเลยให้บุคคลแวดล้อม และพวกพ้องของตน แสวงหาผลประโยชน์บนความทุกข์ยากของประชาชน ใช้จ่ายงบประมาณโดยไม่นึกถึงวินัยการเงินการคลัง มุ่งก่อหนี้เพื่อแสวงหาความนิยมทางการเมือง จนเรียกได้ว่าเป็นยุคแห่งการก่อหนี้มหาศาล เพื่อนำมาผลาญ โดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชน จงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่ออำนาจและกฎหมาย ขาดจิตสำนึกในหลักการประชาธิปไตย มุ่งใช้กฎหมายเป็นครื่องมือทางการเมือง ใช้เงินต่อรองผลประโยชน์เพื่อความอยู่รอดทางการเมืองของตนเอง อันเป็นการกระทำที่เป็นการทำลายระบบรัฐสภา และหลักการของระบอบประชาธิปไตย จนทำให้ระบบรัฐสภาตกต่ำสั่นคลอน กลไกระบบรัฐสภาเสียหาย จากเหตุผลทั้งหมดก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศอย่างใหญ่หลวง ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า หากปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีดังกล่าวบริหารประเทศต่อไป ย่อมนำมาซึ่งความเสียหายต่อประเทศและประชาชน จนยากที่จะเยียวยาแก้ไขได้” ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าว


นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จะเห็นว่า 8 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์และพวกพ้อง ได้กระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า สร้างความเดือดร้อนเสียหายให้พี่น้องประชาชน เพียงเพื่อ พล.อ.ประยุทธ์ต้องการอยู่ในอำนาจ ล้มล้างคู่แข่งทางการเมือง 8 ปีที่ผ่านมา ถ้า พล.อ.ประยุทธ์มีภาวะผู้นำที่แท้จริง จะออกมาประกาศยอมรับว่า ความผิดพลาดล้มเหลวที่เกิดขึ้นทั้งหมด เกิดจากตัวท่านคนเดียว และท่านจะต้องประกาศให้โลกนี้รู้ว่า ท่านเองไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ แต่เสียดายที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ทำสิ่งนี้ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์สำนึก รู้ดี รู้ชั่ว เห็นแก่ประเทศชาติ ออกมายอมรับตรง ๆ เชื่อว่า ประเทศและการทำหน้าที่ในสภาฯ จะเข้าสู่ภาวะปกติ ทุกคนจะมีความหวัง

“แต่ 8 ปีที่ผ่านมา บ่งชี้ชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีจิตสำนึก ไม่มีความรับผิดชอบ คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่แต่ผู้เดียว อีกทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ได้กระทำการโดยให้พรรคร่วมรัฐบาลเข้ามีส่วนร่วม เป็นนั่งร้านสนับสนุนท่านให้มีอำนาจต่อไป นั่งร้านที่เกิดขึ้นขณะนี้ เปรียบเสมือนเห็บเหาปรสิตร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่คอยสูบเลือดประเทศและประชาชน เพื่อความอิ่มเอมของตนเองและพวกพ้อง สิ่งเหล่านี้จะต้องถูกกำจัดออกไป ถ้านั่งร้านเหล่านี้เกิดจิตสำนึกที่ดี เห็นแก่ประเทศชาติ ช่วยกันลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะหมดเวลาของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ถ้าท่านไม่มีจิตสำนึกที่จะบอกกับประชาชนว่าท่านพอแล้ว และนั่งร้านไม่ลงคะแนนไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ถึงเวลาจริง ๆ ที่ฝ่ายค้านจะทำหน้าที่เด็ดหัวสอยนั่งร้าน ไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ และพวกพ้อง โดยเฉพาะรัฐมนตรี 10 คน ให้บริหารราชการแผ่นดินต่อไป ทั้งหมดจะต้องไปสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อนำคนทำผิดมาลงโทษ จะต้องมีการตัดวงจรเห็บเหาปรสิตที่คอยสูบเลือดประเทศ และประชาชนออกไป” ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะขอใช้เวลาทั้งสิ้น 4 วัน 45 ชม. อย่างคุ้มค่าทุกวินาที เพื่อหยุดสิ่งเลวร้ายเหล่านี้ หยุดการทำลายชาติ เพื่อชี้ให้สภาฯ แห่งนี้เห็นถึงภัยร้ายที่เกิดขึ้นมาตลอด 8 ปี หวังว่าสิ่งที่พวกเราได้ทุ่มเททำงานอย่างหนักหน่วงเพื่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ จะทำให้ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติ โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลได้ตระหนักถึงความจริงที่ว่านั่งร้าน ที่พวกท่านพยายามค้อมหัวยอมเป็นให้กับรัฐบาลนี้ ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างใหญ่หลวง และถึงเวลาแล้ว ที่พวกเราจะร่วมมือกันยุติความเสียหายเหล่านี้ และเริ่มต้นใหม่กับรัฐบาลที่มาจากเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง


“ขอขอบคุณกลุ่มราษฎรที่เปิดกล่องลงมติไม่ไว้วางใจเป็นมติมหาชน หากเห็นมติมหาชนจะเปลี่ยนใจมาลงมติไม่ไว้วางใจร่วมกับฝ่ายค้าน พล.อ.ประยุทธ์ และพวก มีที่มาไร้ความชอบธรรม เข้าสู่อำนาจด้วยการรัฐประหารรัฐบาลที่มาจากประชาชน นั่นคือการปล้นอำนาจของประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งเป็นอำนาจสูงสุดของประเทศนี้ ผลักดันตนเองเข้ามาเป็นรัฐบาลเถื่อน ฉีกรัฐธรรมนูญกฎหมายสูงสุดของประเทศ และยังรักษาอำนาจด้วย กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญที่น่าอดสูใจอย่างยิ่ง เขียนรัฐธรรมนูญเพื่อสร้างกองกำลังในสภาให้ซ้ายหันขวาหัน โหวตรักษาอำนาจให้ตนได้ตามอำเภอใจ จนรัฐบาลเถื่อนของตนนั้นอยู่รอด สร้างความล่มสลายให้ประเทศต่อเนื่องยาวนานเกือบ 8 ปี” ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยอมรับเถิดว่ารัฐธรรมนูญปี 60 ที่เกิดจากนิติบริกรที่ พล.อ.ประยุทธ์เลือกเข้ามาจัดทำรัฐธรรมนูญจนได้ดั่งใจนั้น เป็นรัฐธรรมนูญที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติ ดึงประเทศถอยหลังนับสิบ ๆ ปี และเป็นมะเร็งร้ายบ่อนทำลายระบอบการเมืองไทย ทำลายประเทศและอนาคตของลูกหลานของเราทั้งหมด เป็นเพียงเพราะความอยากอยู่ต่อในอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์อย่างไร้สำนึก ไร้ความชอบธรรม โดยไม่ใส่ใจต่อความพินาศของเศรษฐกิจสังคมเท่านั้นเอง เป็นผู้นำไร้ความสามารถ ผู้นำที่ขาดวิสัยทัศน์ ใช้ปากบริหารประเทศ เพราะชีวิตของ พล.อ.ประยุทธ์อาจรู้จักแต่กองกำลังในค่ายทหาร จึงมักคัดเลือกบุคลากรที่คุ้นเคยเหล่านี้เข้ามาทำงานในด้านต่าง ๆ แบบผิดฝาผิดตัว เป็นผู้นำที่สร้างความพินาศ ล้มเหลวให้กับประเทศ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา สาธารณสุข การเมือง คอร์รัปชันจนระบบประเทศพังพินาศล้มเหลว

ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า ภาพการพิจารณางบประมาณ ปี 2566 เห็นชัดเจนว่าช่วงใกล้เลือกตั้งจัดงบกระจุกตัว จัดให้แต่ฝ่ายตนเองและพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเห็นได้ชัด การลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชนที่จะต้องได้รับความยุติธรรม แต่กลับจับติดคุกทั้งที่ยังไม่มีคำพิพากษา บังคับใช้กฎหมายล้นเกิน ดึงสถาบันมาเป็นคู่ขัดแย้ง กล่าวหาคนเห็นต่างไม่จงรักภักดี ทั้งที่จริงตัวท่านเองแอบอิงใช้ประโยชน์เพื่อต้องการอยู่ในอำนาจ การสถาปนาสภาฯ กล้วย จงใจเป็นปฏิปักษ์ทำลายระบบรัฐสภาและระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เรื่องนี้ถึงศาลแน่นอน อีกทั้งยังครอบงำชี้นำพรรคการเมืองที่สมยอมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก้าวก่ายแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติสั่งการสูตรคำนวณ ส.ส.หาร 500 มีการต่อรองทางการเมืองมากมาย เพื่อทำงานพรรคการเมืองคู่แข่งให้การยึดอำนาจมาไม่เสียของ

“เหมือนจับหนูตัวเดียวแต่เผาบ้านตัวเอง ตนยังเชื่อมั่นศาลรัฐธรรมนูญ พรรคร่วมรัฐบาลและ ส.ส. ท่านใช้วิธีการแบบนี้พรรคกลางและพรรคเล็กตายหมด ผมแนะนำยังมีเวลาไปใช้ศาลรัฐธรรมนูญทักท้วงว่าการแก้ไขมาตรา 23 ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้ถึงศาลแน่และจะมีใครบางคนถูกสอย เสียงในสภาฯ ไม่ชนะศรัทธาประชาชนแน่นอน คนดูถูกอำนาจประชาชนจะถูกสั่งสอนในสนามเลือกตั้ง ผมขอร้องเพื่อนสมาชิก เรามาจากประชาชนต้องคำนึงถึงความต้องการของประชาชน เพื่อประเทศชาติและบ้านเมือง ผมหวังว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพวกเราจะได้มาเจอกัน ณ แห่งนี้ และหวังว่าคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ควรจะไปจากสภาฯ แห่งนี้ เพราะท่านไม่เคยให้เกียรติสภาฯ แห่งนี้ ไปได้แล้วครับ ท่านอย่าอยู่เพื่อเป็น 608 ทำลายประเทศชาติ” นพ.ชลน่าน กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

ตร.ไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก

สงขลา 12 พ.ค.- ตำรวจไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก คดีทำร้ายร่างกาย “ด.ต.” คาหน่วยเลือกตั้ง พร้อมนำกำลังค้น 7 จุดหาหลักฐานเพิ่มเติม ความคืบหน้าเหตุการณ์นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา ลูกชายนายสมยศ พลายด้วง สส.เขต 3 จ.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ หรือโกถึก ส่งลูกน้องไปรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา เพราะไม่พอใจที่ถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนนกับภรรยา ล่าสุดวันนี้ ศาลจังหวัดสงขลาได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุแล้วรวม 7 คน ประกอบด้วย 1. นายสิรดนัย หรือสจ.กอล์ฟ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่1 ในฐานะผู้ใช้จ้างวาน2. นายพงษ์เทพ หรือหนึ่งฟรีด้อม อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาที่ในฐานะรับคำสั่งจากนายสิรดนัย แล้วสั่งการให้ นายหนุ่มเสกกับพวกรวม […]

ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับ มือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ

ตรัง 12 พ.ค.- ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับมือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ขณะที่ญาตินิมนต์พระทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง ลงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 170 ไร่ จุดเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายยิงและเผานั่งยางผู้จัดการสวน เพื่อนร่วมงาน และลูกน้องรวม 3 ศพ และจุดพบศพปริศนาถูกเผาและฝังดินอีก 1 ศพ ในพื้นใกล้กัน รวมทั้งหมดเป็น 4 ศพ โดยเป็นการลงพื้นที่ซ้ำ เพื่อตรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะบริเวณขนำจุดยิงผู้ตายทั้ง 3 ราย ก่อนนำไปจุดไฟเผา โดยตำรวจพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม.เพิ่มเติมอีก 1 หัว แต่ทั้งนี้ พบอุปสรรคสำคัญในการทำงานเก็บพยานหลักฐาน เนื่องจากในพื้นที่ได้เกิดฝนตกลงมาเป็นระยะ ๆ ทำให้ร่องรอยพยานหลักฐานบางอย่างถูกทำลาย ซึ่งขณะนี้ทำให้ทราบว่าขณะเกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนหลายขนาด เพราะพบหัวกระสุนปืนในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดียังคงกระจายกำลังกันลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ อ.สิเกา อ.วังวิเศษ จ.ตรัง และต.ทรายขาว […]

ออกหมายจับ สจ.คนดังพร้อมพวก รุมทำร้าย ตร.คาหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 12 พ.ค.- ศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ สจ.คนดัง พร้อมพวกรวม 7 คน หลังก่อเหตุรุมทำร้าย ‘ด.ต.’ คาหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งเอาผิด พวกทำตัวเหนือกฎหมาย จากกรณีสมาชิกสภา อบจ.สงขลา บุตรชาย สส.สงขลา ก่อเหตุสั่งให้ลูกน้อง 6 คน รุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต สังกัด ตชด.43 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลาหลัง ส.อบจ.คนดังกล่าว เข้ามาใช้สิทธิที่หน่วย และให้ลูกน้องถ่ายรูป ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด.ต.นิสาธิต จึงได้เข้าไปตักเตือน สร้างความไม่พอใจ ก่อนขับรถออกจากหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นมีกลุ่มชายชกรรจ์ 5-7 คน เข้ามาที่หน่วยเลือกตั้ง และรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต บาดเจ็บ ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อ้างว่าลูกพี่ใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ล่าสุด ศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 […]

เพลิงไหม้มาราธอน โหมโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ยังคุมไม่ได้

12 พ.ค.- ยังไม่ดับ! ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ยังไม่สามารถลงไปได้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ รุดลงพื้นที่ สั่งอพยพชาวบ้านใกล้เคียง เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันสถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้ เพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ลุกโหมมาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ ตลอดทั้งคืน ยังมีไฟปะทุออกจากชั้นใต้ดินของโครงสร้างอาคาร     ล่าสุดเช้าวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมทีมวิศวกรผู้ เชี่ยวชาญด้านอาคารโรงงานอุตสาหกรรม ตำรวจ และทีมกู้ภัย เร่งเข้าตรวจสอบความเสียหายรอบพื้นที่โรงงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยว่า มอบหมายให้ ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา(ดร.จอร์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุยังจุดเกิดเหตุ ส่วนแนวทางปฏิบัติการ เตรียมใช้โฟมประกอบน้ำ ฉีดเข้าจุดที่ยังคงมีเพลิงปะทุคาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้ภายในช่วงเที่ยงวันนี้   ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน แต่ยังไม่สามารถลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ หน้ากากออกซิเจน […]