นายกฯ ขอประชาชนวางแผนเดินทางหยุดยาว ขับรถมีน้ำใจ ลดอุบัติเหตุ

กรุงเทพฯ 13 ก.ค. – โฆษกรัฐบาล เผยนายกฯ ขอให้ประชาชนวางแผนการเดินทางในช่วงหยุดยาวให้ดี ขับรถมีน้ำใจ ลดอุบัติเหตุ พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในช่วงหยุดยาว


นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้กำลังใจการทำงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัยในช่วงวันหยุดยาว หลังรับรายงานว่าการเดินทางในประเทศคึกคัก เชื่อมั่นว่าจะมีส่วนสำคัญกระตุ้นเศรษกิจ เกิดเงินหมุนเวียน สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในประเทศ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงการหยุดยาวนี้ พบว่ามีประชาชนเดินทางจำนวนมาก คาดว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้พอสมควร อย่างไรก็ดี ขอให้ทุกคนที่เดินทางวางแผนการท่องเที่ยวและเดินทางให้ดี และยังต้องระมัดระวัง ดูแลตนเองและคนใกล้ชิดให้ปลอดภัย ตามมาตรการป้องกันตนเองจากโรคโควิด-19


บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) รายงานว่า วันหยุดยาวตลอดเดือนกรกฎาคมนี้ บขส.ได้เตรียมความพร้อมจัดรถโดยสาร รถร่วมบริการฯ ให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน โดยวันที่ 13-17 กรกฎาคม 2565 คาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 55,000-60,000 คน/วัน หรือเพิ่มขึ้น 20-30% จากช่วงก่อนวันหยุดยาว ใช้รถโดยสาร รถ บขส. รถร่วม และรถตู้ ทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ รวม 3,000 เที่ยว และเส้นทางที่มีผู้โดยสารจองตั๋วมากที่สุด คือ เส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ ขอนแก่น อุบลราชธานี บุรีรัมย์ และนครพนม ซึ่งกรมทางหลวง (ทล.) เปิดให้บริการวิ่งฟรีชั่วคราวบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 (M6) สายบางปะอิน-นครราชสีมา ช่วงปากช่อง-สีคิ้ว-ขามทะเลสอ ระยะทาง 64 กิโลเมตร ในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ขาออก วันที่ 13-14 กรกฎาคม 2565 และขาเข้า วันที่ 15-17 กรกฎาคม 2565 และช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ ขาออก วันที่ 28-29 กรกฎาคม 2565 และขาเข้า วันที่ 30-31 กรกฎาคม 2565 เพื่อแบ่งเบาการจราจรบนทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) ทล.คาดว่า ในช่วงวันหยุดยาวอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 13-17 กรกฎาคม 2565 รวม 5,375,727 คัน แบ่งเป็น ขาออก 2,692,935 คัน และขาเข้า 2,682,792 คัน คาดว่าวันที่ 13 กรกฎาคม จะมีปริมาณจราจรขาออกสูงสุดประมาณ 589,586 คัน และวันที่ 17 กรกฎาคม จะมีปริมาณจราจรขาเข้า กทม.สูงสุดประมาณ 596,695 คัน

“นายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนที่มีแผนการเดินทางในช่วงนี้เตรียมพร้อมให้ดี ตรวจสอบสภาพรถ พักผ่อนให้เพียงพอก่อนขับรถ มีน้ำใจ ระมัดระวังอุบัติเหตุ และขอบคุณหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ภาครัฐและเอกชนทุกคน ที่มีส่วนช่วยในการอำนวยความสะดวกการเดินทาง ทั้งเพื่อการท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนา ให้ประชาชนไทยและชาวต่างชาติทุกคน” นายธนกร กล่าว. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหารช่วยเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหาร พร้อมกำลังพลจิตอาสากองทัพบก เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอพยพผู้ป่วย จากเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ข่าวแนะนำ

สภาฯ หมื่นล้าน ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก

สภาฯ หมื่นล้านแตกอีกแล้ว! รอบนี้ ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก น้ำไหลเจิ่งนองลงมายังอาคารจอดรถชั้นใต้ดินบี 1 ระดมแม่บ้านทำความสะอาด-จัดระเบียบอำนวยความสะดวก จนท.รุดซ่อมแซม

รพ.รามาธิบดี แถลงบุคลากรบาดเจ็บ 1 คน เหตุเพลิงไหม้

รพ.รามาธิบดี แถลงเหตุเพลิงไหม้ ผู้ป่วยทุกคนปลอดภัย มีบุคลากร 1 คน บาดเจ็บสูดเขม่าควัน รักษาตัวอยู่ไอซียู คาดกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์ ด้านอุปนายกวิศวกรรมสถานฯ ตรวจสอบเบื้องต้นอาคารยังอยู่ในสภาพปกติ ขณะที่ พฐ. คาดไฟฟ้าลัดวงจร

“บิ๊กอ๊อด” พร้อมสู้คดีในชั้นศาล ย้ำทุกอย่างทำเพื่อสมาคม-สโมสร

“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ พร้อมสู้คดีในชั้นศาล หาก “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ฟ้อง ย้ำทุกอย่างทำเพื่อสมาคมและสโมสร

ซ่อมรถบัสทิพย์

บุกจับ 7 จนท.กองกีฬาฯ จัดจ้างซ่อมรถบัสทิพย์เสียหาย 2.7 ล้าน

ป.ป.ช. สนธิกำลังปฏิบัติการร่วม ปปท. และ ป.ป.ป. จับกุม 7 เจ้าหน้าที่สังกัดสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร จัดจ้างซ่อมรถบัสทิพย์ เสียหายกว่า 2.8 ล้านบาท