10 อันดับข่าวปลอม-เฟคนิวส์บิดเบือนนโยบายรัฐพุ่งเฉียด 80% เรื่องต้องตรวจสอบ

ดีอีเอส 9 ก.ค. – ดีอีเอส จับตาสถานการณ์ข่าวปลอมสัปดาห์แรก ก.ค.65 เฟคนิวส์บิดเบือนนโยบายรัฐ ข่าวสารราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม พุ่งเฉียด 80% ของจำนวนเรื่องที่ต้องตรวจสอบ ครองทั้ง 10 อันดับข่าวปลอมคนสนใจสูงสุด


น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่าสรุปผลการมอนิเตอร์ และรับแจ้งข่าวปลอมประจำสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 1-7 ก.ค.65 โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม มีข้อความที่เข้ามาทั้งสิ้น 11,603,203 ข้อความ จากการคัดกรองมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) จำนวน 300 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ 115 เรื่อง และเป็นน่าจับตาว่าสัดส่วนเกือบ 80% อยู่ในกลุ่มข่าวนโยบายรัฐบาล /ข่าวสารทางราชการ/ความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยมีจำนวน 78 เรื่อง

ขณะที่ เมื่อตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก (Insight) พบว่าข่าวปลอมที่คนสนใจสูงสุด 10 อันดับในสัปดาห์ล่าสุดนี้ กระจุกตัวอยู่ที่ข่าวในกลุ่มที่ 1 คือ กลุ่มข่าวนโยบายรัฐฯ ทั้ง 10 ข่าว ตามลำดับดังนี้


  • 1.ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตราฮาลาลผิดกฎหมาย
  • 2.แอปเป๋าตัง ให้กู้เงิน 1 หมื่นบาท ลงทะเบียนได้ทุกอาชีพ
  • 3. DSI แจ้งให้ดาวน์โหลดแอปฯ ป้องกันการฉ้อโกงของ DSI สามารถล็อกข้อมูลการฉ้อโกงได้ทั้งหมด
  • 4. มุสลิมไทยได้เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารอิสลามทุกคน สามารถกู้เงินโดยไม่ต้องใช้หนี้คืนได้
  • 5.เพจ Facebook และ Line เชิญชวนเปิดพอร์ตลงทุน โดยได้รับการรับรอง หรืออยู่ภายใต้การควบคุมของสำนักงาน ก.ล.ต.
  • 6.มุสลิมสามารถซื้อที่ดินได้ไม่จำกัด ส่วนชาวพุทธซื้อที่ดินได้แค่ 50 ไร่ เท่านั้น
  • 7.ธ.ก.ส. เปิดสินเชื่อโครงการสนับสนุนสินเชื่อฉุกเฉิน สำหรับผู้รับผลกระทบจากโควิด 19 จำนวน 50,000 – 100,000 บาท 8.ผู้อื่นรู้ยอดเงินในธนาคารได้ หากรู้เบอร์มือถือที่ผูกพร้อมเพย์
  • 9. สธ. เตือนไข้หวัดใหญ่ครั้งนี้มีความร้ายแรงมาก ให้งดการเดินทาง และกิจกรรมทุกประเภท
  • และ 10.เพจเฟซบุ๊กสำนักงาน ก.ล.ต. มีลิงก์เชื่อมไปเว็บไซต์ที่เสนอแจก Airdrop เหรียญคริปโท

ทางกระทรวงดิจิทัลฯ ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อ ตื่นตระหนก หรือแชร์ข่าวที่ได้รับผ่านโซเชียลโดยไม่ได้มีการตรวจสอบให้รอบด้าน ควรติดต่อสอบถามไปยังหน่วยงานที่ถูกอ้างชื่อในข่าว และหากพี่น้องประชาชนพบเห็นบุคคลใด หรือเว็บไซต์ใดที่มีเจตนาในการเผยแพร่ข่าวปลอม หรือข้อความอันเป็นเท็จ สามารถแจ้งโทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ เจ็บ 21

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ ถนนสายเอเชีย ขาขึ้น จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้บาดเจ็บ 21 คน คาดคนขับหลับใน เบื้องต้นยังไม่พบตัว