นายกฯ ชื่นชมนักกีฬาไทย คว้า 332 เหรียญ ซีเกมส์ ครั้งที่ 31

กทม.6 ก.ค.-นายกฯ ชื่นชมความสำเร็จทัพนักกีฬาไทย สร้างผลงานคว้าเหรียญรางวัลการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 31 รวม 332 เหรียญ ยืนยันรัฐบาลสนับสนุนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ-ผลักดัน Soft Power ด้านกีฬาของไทย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (6 กรกฎาคม 2565) เวลา 18.15 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเลี้ยงฉลองชัยมอบเงินรางวัลและแสดงความยินดีแก่นักกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เข้าร่วมการแข่งขัน เมื่อวันที่ 12-23 พฤษภาคม 2565 ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งประเทศไทยส่งนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 41 ชนิดกีฬา รวมจำนวน 1,236 คน และสร้างผลงานคว้าเหรียญรางวัลรวม 332 เหรียญ ประกอบด้วย เหรียญทอง 92 เหรียญ เหรียญเงิน 102 เหรียญ และเหรียญทองแดง 138 เหรียญ โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้บริหารการกีฬาแห่งประเทศไทย ผู้บริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ คณะนักกีฬา ผู้ฝึกสอน กองเชียร์ สื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน


นายกรัฐมนตรีมอบของที่ระลึกให้แก่ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันฯ จากนั้น นายกรัฐมนตรีมอบเงินรางวัลที่กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติได้มอบให้กับนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬาที่ได้เหรียญรางวัลและเข้าร่วมการแข่งขันฯ จำนวน 41 ชนิดกีฬา รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 207,030,000 บาท

นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีแก่คณะนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันฯ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จและเป็นเกียรติประวัติของประเทศ ที่คณะนักกีฬาทีมชาติไทยได้ร่วมกันสร้างชื่อเสียง และนำความภาคภูมิใจมาสู่พี่น้องชาวไทย รวมทั้งสร้างเกียรติภูมิให้แก่ชาติไทย นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทัพนักกีฬาไทยสร้างผลงานโดดเด่นในทุกรายการแข่งขัน จนสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการทำลายสถิติใหม่ ทำให้สามารถคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของประเทศในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านกีฬา และเป็นอีกก้าวที่สำคัญยิ่งของนักกีฬาและประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาไทย


นายกรัฐมนตรีกล่าวเน้นย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาการกีฬาของประเทศ และนับเป็นกิจกรรมที่เสริมสร้างความรัก ความสามัคคี และทัศนคติที่ดี รวมทั้งสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาเพื่อต่อยอดไปสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติและนักกีฬาอาชีพที่มีความพร้อมสามารถก้าวไปสู่ระดับนานาชาติ และแข่งขันกับนานาประเทศได้อย่างทัดเทียม นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ส่งเสริมให้มีการแข่งขันกีฬาภายในประเทศในทุกระดับอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักกีฬาได้มีเวทีในการแสดงทักษะ ความสามารถ รวมทั้งเป็นพื้นที่ให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อนำไปพัฒนาทักษะของตนเองให้ดียิ่งขึ้นไป ตลอดจนการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติ เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศ รวมทั้งผลักดัน Soft Power ด้านกีฬาของไทย เช่น มวยไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาติ ให้เป็นสินค้าส่งออกทางวัฒนธรรมของประเทศ อันจะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดกระแสเงินหมุนเวียนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอีกด้วย รวมทั้งให้ความสำคัญกับด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา และด้านโภชนาการที่เหมาะสมกับกีฬาแต่ละประเภทด้วย

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีแสดงความชื่นชมและร่วมยินดีกับความสำเร็จของทัพนักกีฬาไทยที่ได้รับชัยชนะจากการแข่งขัน ซึ่งความสำเร็จและรางวัลเกียรติยศที่ได้รับ จะเป็นขวัญและกำลังใจให้นักกีฬาได้พัฒนาความสามารถให้ประสบความสำเร็จยิ่ง ๆ ขึ้นไป พร้อมให้กำลังใจนักกีฬาที่ไม่ได้รับเหรียญจากการแข่งขัน ขอให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่มีคุณค่า และเชื่อมั่นว่าทุกคนได้ทำหน้าที่ตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศอย่างดีที่สุดแล้ว ซึ่งการตั้งใจพัฒนาทักษะและความสามารถรวมทั้งการหมั่นฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ทุกคนพัฒนาขีดความสามารถทางด้านกีฬาของตนเองให้เกิดผลสำเร็จในการแข่งขันโอกาสต่อ ๆ ไป

นายกรัฐมนตรียังขอบคุณทุกหน่วยงาน ทุกฝ่าย ที่ร่วมใจกันอย่างเข้มแข็งในการสร้างความสามารถด้านกีฬาให้แก่นักกีฬาไทยมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งแสดงความชื่นชมผู้จัดการทีม ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน ทุกฝ่าย ที่เป็นกำลังสำคัญและมีส่วนร่วมทำให้นักกีฬาสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม นับเป็นความภาคภูมิใจร่วมกัน และเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของชาติไทยและวงการกีฬาไทย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]