รัฐสภา 4 ก.ค.-“สุพัฒนพงษ์” ขอวุฒิสภาปรับอุณหภูมิแอร์ ถอดสูท เป็นตัวอย่างประชาชนประหยัดพลังงาน พร้อมแจงโรงกลั่นเพิ่งได้กำไรค่ากลั่น 2-3 เดือน ไม่ใช่เวลายาวนานตามที่อ้างกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวุฒิสภาที่มี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม วาระกระทู้ถามเป็นหนังสือและกระทู้ถามสด โดยมีพล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ ส.ว.และ นายสุรเดช จิรฐิติเจริญ ส.ว.ตั้งกระทู้สอบถามถึงแนวทางการแก้ปัญหาพลังงานและสถานการณ์พลังงานในประเทศ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน และแนวทางบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ชี้แจงทั้ง2 กระทู้ ว่า วิกฤติที่เกิดขึ้นปัจจุบันเป็นวิกฤติซ้อนวิกฤติ ซึ่งรัฐบาลหาทางแก้ปัญหาอยู่ สำหรับข้อเสนอเกี่ยวกับการลดค่ากลั่น ซึ่งมีอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังท่านหนึ่งเสนอเกี่ยวการเจรจาลดค่ากลั่น ในข้อเท็จจริงพบว่าผู้ประกอบการมีกำไรในส่วนดังกล่าวมา 2-3 เดือน ไม่ใช่มีกำไรมาอย่างยาวนาน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผู้ประกอบการมีกำไรจากค่ากลั่นเพียง 1-2 บาทเท่านั้น หากจะเจรจาเพื่อลดค่ากลั่นต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นด้วย หากโรงกลั่นยุติการกลั่น รัฐบาลจำเป็นต้องนำเข้าน้ำมัน อาจทำให้ราคาน้ำมันมีราคาสูงขึ้น เชื่อว่าหากวิกฤติพลังงานสูงขึ้น การเจรจาเพื่อขอโรงกลั่นลดกำไรน้อยลงอาจทำได้ในอนาคต
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ในส่วนการบริหารกองทุนน้ำมัน ในสถานการณ์วิกฤติพลังงานที่ยืดเยื้อ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการ พนักงาน แรงงาน เป็นประเด็นอ่อนไหวที่ต้องหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กระทรวงการคลัง และต้องคำนึงถึงการประคับประคอง การสร้างสมดุลกับภาวะค่าเงิน และอัตราเงินเฟ้อด้วย ส่วนมาตรการของรัฐบาลในการแก้ปัญหาพลังงานนั้นจะใช้แนวทางการประหยัดพลังงาน ใช้พลังงานสะอาด รวมถึงการรณรงค์ให้ประชาชนช่วยประหยัดไฟฟ้า ด้วยวิธีปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ
“หากวุฒิสภาทำได้ ปรับอุณหภูมิไม่ต้องใส่สูท ผูกไทด์ และมีอุปกรณ์วัดพลังงาน เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าเริ่มทำแล้วผ่านการถ่ายทอดสด เพื่อจะทำให้เกิดการปฏิบัติจริงจังมากขึ้น กระทรวงพลังงานพร้อมสนับสนุน เพื่อช่วยรัฐสภาทำเรื่องนี้ จะให้ข้อมูลและส่งเจ้าหน้าที่ติดตั้งอุปกรณ์วัดหรือแสดงตัวเลขต่าง ๆ ให้เห็นเชิงประจักษ์ว่าการลดใช้พลังานได้ผล ด้วยวิธีง่ายนิดเดียว หากเราทำได้และสื่อสารประชาชนผ่านการถ่ายทอดสดของสภาฯ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดีส่งผลประหยัด รณรงค์ใช้พลังงาน เป็นประโยชน์จะส่งเสริมให้ประชาชนดำเนินการตาม” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย