เสนอนายกฯ ออกมาตรการควบคุมกัญชาชั่วคราว 

รัฐสภา 1 ก.ค. – “สมชาย” ห่วงสุญญากาศกัญชา ไร้กฎหมายควบคุม แนะนายกฯ เร่งออกมาตรการชั่วคราว หาก กมธ.กัญชา ออกกฎหมายไม่ชัดเจน ส.ว.ไม่ให้ผ่าน


นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีคลิปภาพกลุ่มคนนั่งเสพกัญชา และสาธิตวิธีการใช้บ้องกัญชา ริมถนนย่านสีลมว่า ภาพดังกล่าวได้รับการส่งต่อมาจากคนที่ห่วงใยต่อการปลดล็อกกัญชา ซึ่งตนได้รับเรื่องร้องเรียนมาหลายเรื่อง ภาพที่เกิดขึ้นเป็นภาพมาจากการปลดล็อกโดยไม่มีกฎหมายควบคุม เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นบริเวณถนนข้าวสาร ทั้งหมดตำรวจเองไม่มีอำนาจจะมาควบคุมได้ ทำได้เพียงแค่ใช้ พ.ร.บ.รักษาความสะอาด แบบเดียวกับที่ใช้กับกลุ่มหาบเร่แผงลอย และกฎหมายควบคุมควัน ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องตลกมากของประเทศไทย ส่วนประกาศให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุมของกระทรวงสาธารณสุข ที่อนุญาตให้ผู้มีอายุ 20 ปีขึ้นไป สามารถครอบครองและใช้ประโยชน์ได้ โดยยกเว้นผู้ที่มีต่ำกว่าอายุ 20 ปี และสตรีมีครรภ์ โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ทั้งที่ไม่มีบทกำหนดโทษที่ชัดเจน เหมือนเป็นการเขียนวัวให้เสือกลัว ส่วนตัวมองว่าไม่มีผลทางกฎหมาย ทำให้ช่วงเวลานี้เรียกได้ว่าไร้กฎหมายควบคุม

นายสมชาย ยอมรับว่ากัญชามีคุณประโยชน์หลายประการในทางการแพทย์ แต่หากใช้ไม่ถูกวิธีก็อันตรายและมีผลข้างเคียง ดังนั้น แม้กัญชาแม้มีคุณอนันต์ แต่มีโทษมหันต์เช่นกัน เพราะในสารสกัดกัญชามีส่วนที่เป็นพระเอกเรียกว่าสาร CBD และตัวผู้ร้ายคือสาร THC ซึ่งตามประการของกระทรวงสาธารณสุขควบคุมไว้เพียง 0.2% ทั้งที่ปริมาณสาร THC ในช่อดอกเพียง 1 กรัม มีปริมาณสาร THC มากราว 5% ในอดีตหลายคนที่เสพกัญชาเกิดอาการหลอน บางคนมีการกระโดดตึกฆ่าตัวตาย บางคนประสบอุบัติเหตุเพราะหลอนขณะขับรถ ดังนั้น เราไม่ควรเปิดเสรีกัญชาโดยไม่มีการกำกับดูแล ย้ำว่าตนเองสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ กัญชาเพื่อเศรษฐกิจอุตสาหกรรม


นอกจากนี้ตนยังมีความเป็นห่วง เพราะกฎข้อห้ามในหลายประเทศยังถือว่ากัญชาเป็นยาเสพติด เช่น สิงคโปร์ที่มีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต หากมีการนำเข้ากัญชาเกิน 500 กรัม หรือมีกัญชาอยู่ในส่วนผสมอื่น ๆ ก็จะมีโทษจำคุกได้ ดังนั้น คนที่เดินทางไปต่างประเทศควรต้องระวังและศึกษาข้อห้ามให้ดี

นายสมชาย มองว่าขณะนี้ประเทศไทยเป็นประเทศเสรีกัญชาที่ไร้ขอบเขตที่สุดในโลก พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดไม่มีการควบคุมกัญชาบางส่วนเหมือนกาวและทินเนอร์ ที่แม้จะไม่ใช้ยาเสพติด แต่เมื่อนำไปใช้เสพจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ดังนั้น ช่อดอกกัญชา ซึ่งมีปริมาณสาร THC 5-20% จึงไม่ควรอยู่ประเภทเดียวกับใบ

ส่วนที่มีกรรมาธิการฯ ของสภาผู้แทนราษฎร ออกมาให้ความเห็นว่าจะมีกฎหมายควบคุมตามมานั้น ตนมองว่ายังมีกระบวนการพิจารณากฎหมายอีกหลายขั้นตอน แต่ระหว่างนี้กลับปล่อยให้หน่วยงานต่าง ๆ ออกประกาศควบคุมกันเอง ทั้งสถานศึกษา วัดวาอาราม


นายสมชาย ยังเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งออกมาตรการควบคุม ในระหว่างยังไม่มีกฎหมายบังคับใช้ เช่น การออกประกาศของกระทรวงสาธารณสุขให้มีโทษบังคับชัดเจน หรือออกประกาศกำหนดให้ช่อดอกของกัญชา เป็นส่วนที่เป็นวัตถุการออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท เพื่อควบคุมการใช้ช่อดอก หรือออก พ.ร.ก.ควบคุมไปพลางก่อน โดยใช้เนื้อหาบางมาตราที่กำลังพิจารณาอยู่

นายสมชาย ยังย้ำว่าร่างกฎหมายกัญชา กัญชง ที่กำลังพิจารณาในชั้นกรรมาธิการฯ ของสภาผู้แทนราษฎร หากยังร่างกฎหมายอยู่ภายใต้หลักเสรีแบบนี้ โดยไม่กำหนดประเภทการใช้งานที่ชัดเจน รวมถึงบทกำหนดโทษ เมื่อร่างกฎหมายมาถึงชั้นการพิจารณาของวุฒิสภา วุฒิสภาอาจมีการเสนอให้มีการแก้ไขใหม่ ทำให้เวลาที่ล่าช้ามากกว่าเดิม และอาจไม่ทันระยะเวลาของสภาชุดนี้

“ถ้ายังไปด้วยหลักเสรีแบบนี้ โดยไม่มีขอบเขต ไม่ดูแลสังคม ส.ว.ก็จำเป็นจะต้องทำหน้าที่ในฐานะสภากลั่นกรอง ถ้ามีการปรับแก้ร่างก็จะเสียเวลา แล้วหากไม่เห็นด้วยกับการปรับร่างก็ต้องตั้งกรรมาธิการร่วมขึ้นมาอีก ยิ่งต้องใช้เวลามากประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี เราไม่รู้สภาฯ จะได้อยู่ถึงหรือเปล่า“ นายสมชาย กล่าว.- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สื่อเกาะติด! นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก ถกผลประชุม JBC

บ้านพิษณุโลก 16 มิ.ย.- นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก เรียกถกหน่วยงานความมั่นคง หารือผลประชุม JBC กำหนดแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ชายแดน ท่ามกลางสื่อมวลชนเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) ได้แจ้งเลื่อนภารกิจการให้ นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World 2025 และคณะ Miss World เข้าคาราวะ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (17 มิ.ย. 68) โดยนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคง ถึงกรณีผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 หรือ The Sixth Meeting of The Cambodian-Thai Joint Commission on Demarcation for […]

‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์ 5 หมายเหตุ สะท้อนปมชายแดน

16 มิ.ย.- ‘รองแม่ทัพภาค 2’ โพสต์หมายเหตุ 5 ข้อ สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจรจา JBC พร้อมตั้งคำถาม “คุยกันดีๆ แล้วทำไมต้องฟ้องศาลโลก?” พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์หมายเหตุ 5 ประเด็น สะท้อนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย ขาดความตั้งใจแก้ปัญหา

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กต.แถลงผิดหวังกัมพูชาไม่ร่วมมือไทย แก้ปัญหาลดความตึงเครียด ขาดความตั้งใจจริงในการใช้กลไกทวิภาคี บนพื้นฐานเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมโต้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เมื่อ 22.30 น. กระทรวงการต่างประเทศของไทย ออกแถลงการณ์ผลการประชุม JBC ทั้งที่เดิมนัดสื่อเเถลงวันนี้ (16 มิ.ย.) ระบุว่าการหารือมีความคืบหน้าสำคัญ 4 เรื่อง ซึ่งหลักๆ ทั้ง 4 เรื่องในคำเเถลงออกมาตรงกัน ซึ่งการรับรองผลการประชุม JTSC ครั้งที่ 4 สองฝ่ายเห็นตรงกันต่อตำแหน่งที่ตั้งของหลักเขตถึง 45 หลัก และเห็นชอบให้นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำภาพถ่ายทางอากาศเพื่อความรวดเร็วในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ซึ่งในการเห็นชอบให้เเก้ไขแผนแม่บทว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดทำขึ้นเมื่อปี 2546 (TOR 2003) ก็นำเทคโนโลยี LiDAR มาใช้ในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเช่นกัน ส่วนในข้อ 4 เห็นชอบให้มีการจัดทำข้อกำหนดทางเทคนิคการเดินสำรวจในพื้นที่ตอนที่ 6 ไทยลงรายละเอียดว่า เป็นพื้นที่จากเขาสัตตะโสม จนถึงหลักเขตแดนที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมอบหมาย JTSC […]

อุตุฯ เผยไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส .-สำนักข่าวไทย