ทส. จับมือสมาพันธรัฐสวิสทำข้อตกลงถ่ายโอนคาร์บอนเครดิต

ทำเนียบ 26 มิ.ย. – กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ สานต่อเป้าหมายนายกรัฐมนตรี จับมือสมาพันธรัฐสวิสทำข้อตกลงถ่ายโอนคาร์บอนเครดิตคู่แรกของโลก พร้อมเร่งสร้างกลไกการบริหาร ซื้อขาย ใช้ประโยชน์ทั้งในและระหว่างประเทศ  


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีนโยบายในการร่วมมือนานาประเทศเพื่อลดปัญหาโลกร้อน ด้วยการกำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อไปสู่เป้าหมายดังกล่าวโดยต่อเนื่อง  

ล่าสุด นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกับนางซีมอเน็ตตา ซอมมารูกา รมว.สิ่งแวดล้อม คมนาคม พลังงานและสารสนเทศ สมาพันธรัฐสวิสจัดทำข้อตกลงการดำเนินงานภายใต้ความตกลงปารีสระหว่างไทยกับสมาพันธรัฐสวิส ซึ่งนับเป็นข้อตกลงถ่ายโอนคาร์บอนเครดิตร่วมกันเป็นคู่แรกของโลก 


ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ทั้ง 2 ประเทศจัดทำกรอบความร่วมมือสำหรับการถ่ายโอนผลการลดก๊าซเรือนกระจกระหว่างประเทศ โดยสมาพันธรัฐสวิสจะสนับสนุนการดำเนินโครงการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและยานยนต์ไฟฟ้า หรือ อีบัส ในกรุงเทพฯ โดยจะมีทั้งภาคส่วนต่างๆและเอกชนเข้าร่วม และไทยคาดหวังว่าจะสามารถเป็นประเทศแรกของโลกที่ถ่ายโอนคาร์บอนเครดิตจากโครงการดังกล่าว 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การลดปล่อยคาร์บอน และการสร้างกลไกซื้อขายคาร์บอนเครดิตเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลเร่งรัดขับเคลื่อน  โดยขณะนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้วางแนวทางและกลไกการบริหารจัดการคาร์บอนเครดิตในประเทศไทยเพื่อเป็นแนวดำเนินงานสำหรับการใช้คาร์บอนเครดิตเพื่อวัตถุประสงค์ในประเทศและระหว่างประเทศ ตามข้อ 6 ของความตกลงปารีส รวมถึงการให้สิทธิประโยชน์โดยหน่วยงานรัฐ   

โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผู้พัฒนาโครงการเพื่อได้มาซึ่งคาร์บอนเครดิต ผู้ประสงค์ซื้อขาย ทั้งหมดจะต้องผ่านการขึ้นทะเบียนกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. การกำหนดขั้นตอนในทางปฏิบัติสำหรับการใช้คาร์บอนดเครดิตเพื่อวัตถุประสงค์ในประเทศ อาทิ การดำเนินการของศูนย์ซื้อขายคาร์บอนเครดิต ขั้นตอนการซื้อขายระหว่างผู้พัฒนาโครงการ ผู้ซื้อ และผู้ใช้คาร์บอนเครดิต ส่วนกรณีใช้เพื่อวัตถุประสงค์ระหว่างประเทศ ได้กำหนดประเภท ลักษณะ โครงการที่ข่ายที่จะได้รับอนุญาตให้ใช้คาร์บอนเครดิต การออกหนังสืออนุญาต ตลอดจนการถ่ายโอนคาร์บอนเครดิต   


ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ประกาศเป้าหมายประเทศไทย ระหว่างการร่วมประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP26) เมื่อเดือน พ.ย. 2564 ว่าไทยไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี ค.ศ. 2065 (พ.ศ.2608) .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง