กทม. 24 มิ.ย.-“อนุทิน” นำผู้บริหารสาธารณสุข สปสช. แชร์ความสำเร็จโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของไทยในเวทีระดับโลก หนุนใช้กลไก WHO ขับเคลื่อนให้เกิดกับทุกประเทศเพื่อการเข้าถึงการรักษาที่ทั่วถึง
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันที่ 24 มิ.ย. 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี นำคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมการประชุม พร้อมกับทำหน้าที่ประธานในการประชุมฯ คณะกรรมการบริหารโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS Programme Coordinating Board: PCB) ครั้งที่ 50 เป็นวันสุดท้าย ณ สำนักงานใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิสระหว่างนี้ได้มีการประชุม เรื่องการพัฒนาระบบสาธารณสุขนานาชาติ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และผู้บริหารการะทรวงสาธารสุข ได้แบ่งปันประสบการณ์และความสำเร็จของโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศไทย ที่เริ่มต้นขับเคลื่อนตั้งแต่สาธารณสุขขั้นมูลฐาน โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนด้วยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) บริการปฐมภูมิ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) มีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้านำไปสู่การเข้าถึงการรักษาที่เท่าเทียม มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพ
“อนุทิน” รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณภาครัฐที่เพียงพอเพื่อเป็นสวัสดิการที่ที่ครอบคลุมบริการที่หลากหลาย เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนต้องล้มละลายเพราะค่าใช้จ่ายเรื่องสุขภาพ และเพื่อปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้น ประเทศไทยดำเนินการใน 3 เรื่องอย่างต่อเนื่อง นั่นคือ 1)สำรวจความต้องการด้านการรักษาพยายาลระดับครัวเรือน 2)ปรับปรุงระบบข้อมูลเพื่อพัฒนาบริการ และ 3) มุ่งหาจุดบกพร่อง เพื่อแก้ไขปรับปรุงระบบหลักประกันสุขภาพให้ดีที่สุด
ในตอนท้าย “อนุทิน” รองนายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ได้พัฒนาโครงการและแนวทางการวัดประสิทธิภาพของหลักประกันสุขภาพ ซึ่งมีส่วนสำคัญที่สนับสนุนระบบในประเทศไทยให้ดีขึ้นโดยต่อเนื่อง ซึ่งไทยได้ดำเนินโครงการมาครบ 20 ปีแล้ว พร้อมจะแบ่งปันประสบการณ์ที่ดีกับทุกประเทศ และสนับสนุนให้กำหนดเป็นเป้าหมายให้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเกิดขึ้นทั่วโลก โดยขับเคลื่อนภายใต้กลไกของ WHO ซึ่งประเทศไทยจะสนับสนุนการขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ เพื่อการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ทั่วถึงของผู้คนทั่วโลก.-สำนักข่าวไทย