กห.ห้ามกำลังพลใช้กัญชาสันทนาการ

กลาโหม 24 มิ.ย.-รมว.​กลาโหม​ สั่งหัวหน้าหน่วยเน้นย้ำกำลังพลห้ามใช้กัญชา​ กัญชง​ ด้านสันทนาการ​ ใช้ได้เพียงด้านการแพทย์ ให้สอดคล้องกับประกาศของกระทรวงสาธารณสุข​

พ.อ.​จิตนาถ​ ปุณโณทก​ รองโฆษกกระทรวงกลาโหม​ เปิดเผยถึงการประชุมสภากลาโหมครั้ง 6/2565​ ว่า พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ ได้สั่งการ​ให้ทุกหน่วยงานในสังกัด​ ให้ความสำคัญและปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล​ พ.ศ.​ 2562​ หลังมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่​ 1​ มิถุนายน​ที่ผ่านมา​ โดยเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ให้ระมัดระวัง​การรักษาความปลอดภัยการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายกำหนด ตลอดจนประชาสัมพันธ์​ สร้างการรับรู้ให้กับกำลังพลครอบครัวและประชาชนได้รับทราบถึงข้อห้ามข้อควรปฏิบัติ​และบทลงโทษตา​ม พ.ร.บ.​ดังกล่าวต่อไป​


นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี​ ยังกำชับ​ในเรื่องการใช้ ปลูก ​นำเข้า มีไว้ และครอบครองซึ่งกัญชา​ กัญชง​ ให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ​ สร้างการรับรู้ให้กับกำลังพลครอบครัวและประชาชนได้ทราบถึงประโยชน์​ โทษ​ภัย และ​ข้อปฏิบัติ​ระมัดระวังในการใช้ การปลูก นำเข้า​ มีไว้ และครอบครองซึ่งกัญชา​ กัญชง โดยให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมเร่งจัดทำแนวทางปฏิบัติ ​เพื่อควบคุมการใช้​ของกำลังพลในกระทรวง ​โดยให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นเน้นย้ำกำกับดูแล​ในการเข้าถึงกัญชากัญชงอย่างถูกต้องตามกฎหมาย​

ซึ่งตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกข้อห้าม ข้อกำหนด​ ซึ่งในส่วนของกระทรวงกลาโหม​ก็มีกำลังพลภายใต้การปกครอง และสั่งให้หน่วยรับผิดชอบ​ออกระเบียบคำสั่งให้สอดรับกับประกาศดังกล่าว ​คือ​ ในเรื่องของการนำเข้าการใช้ให้อยู่ภายใต้การรักษาทางการแพทย์​ ห้ามใช้ด้านการสันทนาการและในหน่วยทหาร ห้ามให้มีการใช้และบริโภคโดยเด็ดขาด​


ขณะที่​ การปฏิรูปประกอบการศึกษาของกระทรวงกลาโหม ได้สั่งให้หน่วยขึ้นตรงดำเนินการปรับปรุงหลักสูตรในสถาบันการศึกษา สังกัดกระทรวงกลาโหมทุกระดับ รวมถึงโรงเรียนที่อยู่ในการอุปถัมภ์ของกระทรวงกลาโหม​ โดยสอดแทรกการปลูกฝังประวัติศาสตร์คุณธรรม จิตสาธารณะ รวมถึงจากการเรียนการสอนแบบ Active Learning ด้านเสริมสร้างความสัมพันธ์มิตรประเทศให้ดำรงความต่อเนื่อง สร้างความสัมพันธ์ และให้ความร่วมมือกับมิตรประเทศ ตามนโยบายที่มีความสอดคล้องกับรัฐบาล โดยสร้างปฏิสัมพันธ์ในทุกระดับกับทุกนานาประเทศ

ทั้งนี้​ นายกรัฐมนตรี​ ได้​กำชับหน่วยงานขึ้นตรงกำชับหน่วยราชการและสังกัดประหยัดพลังงานอย่างเคร่งครัด เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าและน้ำมันร้อยละ 20 ตามความห่วงของรัฐบาล ตลอดจนประชาสัมพันธ์กำลังพลและครอบครัวให้ได้ตระหนัก ได้ทราบถึงการประหยัด และสร้างจิตสำนึกการใช้พลังงานอย่างมีคุณค่า พ.อ.​จิตนาถ​ ยังระบุว่า การจัดงานนิทรรศการอุปกรณ์ป้องกันประเทศ​ ครั้งที่ 10 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 29 สิงหาคม-1 กันยายน​ 2565​ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยขึ้นตรงของเหล่าทัพ สนับสนุนคณะกรรมการ​จัดงานให้เป็นไปด้วยความเรียบ​ร้อย​ สมเกียรติ​ ทั้งในด้านพิธีการการต้อนรับ ​การรักษาความปลอดภัย เพื่อให้การจัดงานเป็นไปตามความมุ่งหวัง ​มีส่วนให้เกิดการพัฒนาการป้องกันประเทศ ​โดยให้ทุกหน่วยนำเสนอผลงานหรือผลงานวิจัยที่ผลิตขึ้นใช้เอง รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการต่อยอดความร่วมมือทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อนำไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]